ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 672

“ช่างเป็นเด็กดี” เสิ่นเหลียงพลางพูดพลางอยากจะยื่นมือมาจับที่แก้มของเฉินมู่

เฉินมู่เม้มปากเบา ๆ แล้วปล่อยให้เสิ่นเหลียงจับ

เสิ่นเหลียงก็สังเกตเห็นเฉินมู่แตกต่างจากเมื่อก่อนเล็กน้อย

เธอมองมู่น่อนน่อนครู่หนึ่ง มู่น่อนน่อนส่ายหน้าสื่อให้รู้ว่าค่อยกลับไปแล้วค่อยคุยกัน

หลังจากพวกเขากลับมาถึงที่บ้านของมู่น่อนน่อน มู่นอนน่อนก็พาเฉินมู่ไปที่ห้องของเธอ

โชคดีที่เฉินมู่เคยพักอาศัยอยู่ที่นี่ ในห้องจึงยังมีของของเธออยู่ไม่น้อย เธอจึงไม่ได้แสดงอาการอึดอัดหรือไม่ชินออกมาแต่อย่างใด

มู่น่อนน่อนเป็นคนทำอาหารตอนกลางวัน

ตอนที่ทานอาหารนั้น มู่น่อนน่อนคีบอาหารอะไรให้เธอ เธอก็ทานอาหารนั้น ไม่งอแง เงียบสงบมาก

หลังจากทานอาหารเสร็จไม่นาน ก็ถึงเวลานอนกลางวันของเฉินมู่

เมื่อเฉินมู่นอนแล้ว มู่น่อนน่อนถึงได้มีเวลาคุยกับเสิ่นเหลียงเรื่องของเฉินมู่

เธอกล่าวอย่างคร่าว ๆ สั้น ๆ   เสิ่นเหลียงได้ยินแล้วดวงตาก็เบิกกว้าง “ลี่จิ่วเชียนยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า เขาเป็นคนทำจริงเหรอ สมองป่วยหรือเปล่า”

มู่น่อนน่อนเม้มริมฝีปาก สำหรับลี่จิ่วเชียน เธอเองก็หมดคำจะพูด

“ลี่จิ่วเชียนต้องการอะไรกันแน่ เขาทำไมต้องไม่ลงรอยกับพวกเธอ พวกเธอไปทำอะไรให้เขาขุ่นเคือง?”

“พูดตรง ๆ เลยนะ คือเขาไม่ลงรอยกับเฉินถิงเซียว ถึงอย่างไรตอนนี้ฉันกับเฉินถิงเซียวก็แยกทางกันแล้ว ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันอีก”

แต่เรื่องที่เขาเคยทำกับมู่มู่ ก็จะปล่อยให้จบเช่นนี้ไม่ได้

สีหน้ามู่น่อนน่อนเย็นชาขึ้น จนกระทั่งอุณหภูมิสุดท้ายได้หายไปจากบนใบหน้า

“สืบหาเบื้องลึกของลี่จิ่วเชียนไม่เจอเหรอ” เสิ่นเหลียงกอดอกแล้วถาม

“ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เฉินถิงเซียวสืบได้อะไรมาบ้าง แต่ก่อนหน้านี้สืบไม่ได้อะไรที่มีประโยชน์เลย” จุดนี้ มู่น่อนน่อนเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ถึงขั้นที่ ลี่จิ่วเชียนยังเคยเอ่ยถึงเรื่องของคุณแม่เฉินถิงเซียว

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของมู่น่อนน่อนก็เปลี่ยนไป

ช่วงนี้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้น จนเธอเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

ลี่จิ่วเชียนเคยเอ่ยถึงเรื่องเบาะแสของคุณแม่เฉินถิงเซียว สำหรับเรื่องที่คุณแม่ของเฉินถิงเซียวยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ หรือไม่และอาศัยอยู่ที่ใดนั้น ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง

ห้องรับแขกตกอยู่ในความเงียบงัน ผ่านไปสักพัก เสิ่นเหลียงจึงได้พึมพำขึ้น “ลี่จิ่วเชียนคนนี้ช่างน่ากลัวมาก เขาช่วยเหลือแต่ก็ทำร้ายเธอ ภายนอกดูท่าทางเป็นสุภาพบุรุษ แต่เบื้องหลังนั้นไม่รู้ทำเรื่องชั่วร้ายมากมายเท่าไหร่”

คนแบบนี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ

โทรศัพท์มือถือของเสิ่นเหลียงได้ดังขึ้นในขณะนี้ เธอหยิบขึ้นมาดู พบว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวที่โทรเข้ามา

“ผู้จัดการของฉันมารับแล้ว” เสิ่นเหลียงมองมู่น่อนน่อนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ถ้าเธอคิดอยากทำอะไร จะต้องบอกกับฉันล่วงหน้านะ อย่าได้ทำบุ่มบ่าม ฉันเองก็จะหาวิธีสืบหาเบื้องลึกของลี่จิ่วเชียน”

มู่น่อนน่อนถอนหายใจ สิ่งที่เธอไม่อยากเห็นที่สุดก็คือสถานการณ์แบบนี้

ดังนั้น เธอถึงไม่อยากบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้เสิ่นเหลียงทราบ

เรื่องของเธอ หากเสิ่นเหลียงรู้ก็จะต้องไม่เพิกเฉยอย่างแน่นอน

มู่นอนแสร้งทำเป็นโกรธแล้วมองเสิ่นเหลียง “เธอถ่ายละครตัวเองดี ๆ ไปเหอะ ตอนนี้ฉันกับเฉินถิงเซียวไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว ยังจะสนใจลี่จิ่วเชียนอีกทำไม”

“เธอไม่สนใจจริงอ่ะ”

“ไม่สนใจแล้วจริง ๆ”

เสิ่นเหลียงกล่าวเพื่อยืนยันอีกครั้ง มู่น่อนน่อนจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลี่จิ่วเชียนเพราะเฉินถิงเซียวอีก เธอถึงได้จากไปอย่างโล่งใจ

เมื่อส่งเสิ่นเหลียงแล้ว มู่น่อนน่อนก็กลับไปดูเฉินมู่ที่ห้อง

เธอจะไม่ยุ่งเรื่องของเฉินถิงเซียว และก็จะไม่ยุ่งเรื่องระหว่างเฉินถิงเซียวกับลี่จิ่วเชียนอีก ไม่ยุ่งอีกแล้ว

แต่เรื่องที่ลี่จิ่วเชียนทำกับเฉินมู่นั้น เธอจะไม่ยอมเด็ดขาด

……

สองวันยังไม่ผ่านไป ฉินสุ่ยซานก็ได้โทรศัพท์มาหามู่น่อนน่อน 

ตอนแรกฉินสุ่ยซานกล้า ๆ กลัว ๆ เมื่อถูกมู่น่อนน่อนถามขึ้นสองประโยค เธอจึงตอบอย่างลังเล “น่อนน่อน พรุ่งนี้เป็นวันเซ็นสัญญากับบริษัทเฉินซื่ออย่างเป็นทางการ ถึงเวลานั้นเธอสามารถมาได้ไหม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม