สรุปตอน บทที่ 673 สปาร์ค – จากเรื่อง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)
ตอน บทที่ 673 สปาร์ค ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดยนักเขียน Meow(○` 3′○) เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เฉินมู่ถูกเฉินถิงเซียวช่วยออกมาจากกองเพิลงในครั้งนั้น ถึงตอนนี้คนที่สามารถทำให้เฉินมู่เรียกชื่อก่อนได้นั้น มีน้อยคนมาก
สือเย่คือหนึ่งในนั้น
ที่เฉินมู่สามารถสนิทใกล้ชิดกับสือเย่ได้นั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก บุคลิกเฉินถิงเซียวนั้นเย็นชา ในฐานะพ่อ เขาก็ไม่ได้อ่อนโยนมากเท่าไหร่ สือเย่แม้ว่าปกติแล้วจะเคร่งขรึมเข้มงวด แต่ก็อ่อนโยนและมีความอดทนต่อลูกของตัวเอง
และอาจเป็นไปได้ที่เห็นการกำเนิดของเฉินมู่ รวมไปถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เธอได้เผชิญ ทำให้สือเย่ค่อนข้างดีกับเฉินมู่มากเป็นพิเศษ
สือเย่ยิ้มให้กับเฉินมู่อย่างอ่อนโยน เล่นมายากลด้วยการหยิบอมยิ้มออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้กับเฉินมู่
เฉินมู่เงยหน้าขึ้นมองมู่น่อนน่อน มู่น่อนน่อนพยักหน้าสื่อให้รู้ว่าสามารถรับมาได้
เห็นเฉินมู่รับอมยิ้มไปแล้ว สือเย่ถึงได้มองมาทางมู่น่อนน่อน แล้วกล่าวอย่างเคารพ “คุณผู้ชายให้กระผมมารอพวกท่านที่นี่ ตอนนี้สามารถขึ้นไปได้แล้วครับ”
มู่น่อนน่อนยื่นมือมาเกี่ยวปอยผมทัดเข้าที่ใบหู แล้วทำท่าจะยิ้มไม่ยิ้มให้กับสือเย่ “ทางของบริษัทเฉินซื่อฉันนั้นรู้จักดี เฉินถิงเซียวไม่เห็นต้องทำแบบนี้”
“คุณมู่อย่าได้ปฏิเสธเลย คุณมู่พามู่มู่ออกจากบ้าน ก็ย่อมมีส่วนที่ไม่สะดวกอยู่บ้าง คุณผู้ชายทำแบบนี้เพราะหวังดีครับ” สือเย่ตอบกลับอย่างไม่ให้มีช่องโหว่
มู่น่อนน่อนรู้ดี ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร สือเย่ก็จะแย้งได้เสมอ
สือเย่ทำงานข้างกายเฉินถึงเซียว เฉลียวฉลาดและมีไหวพริบ
มู่น่อนน่อนยิ้มแล้วกล่าวด้วยท่าทางเข้าใจทุกอย่างทันที “ที่แท้ก็เพื่อมู่มู่นี่เอง”
สือเย่ถอนหายใจเบา ๆ “คุณมู่เชิญตามผมมาเลยครับ”
มู่น่อนน่อนจูงเฉินมู่เดินตามหลังสือเย่ แต่เธอสังเกตว่าเห็นสือเย่นั้นไม่ได้พาพวกเธอเดินทางประตูใหญ่ แต่กลับพาไปยังลิฟต์ทางเข้าที่ลานจอดรถที่เฉินถิงเซียวใช้เป็นประจำก่อนหน้านี้
เฉินถิงเซียวช่างพยายามจริง ๆ เขาคงกลัวว่าคนอื่นจะเห็นเธอกับเฉินมู่เข้ามาที่บริษัทเฉินซื่อ ถ้าข่าวแพร่ออกไปไม่รู้จะอธิบายอย่างไรมั้ง?
มู่น่อนน่อนยิ้มเยาะ
เมื่อผู้ชายเปลี่ยนใจ จะระวังตัวมากกว่าผู้หญิงเสียอีก
ตัวเลขในลิฟต์เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงชั้นห้องทำงานของเฉินถิงเซียว จึงได้หยุดลง
เมื่อออกจาตัวลิฟต์แล้ว มู่น่อนน่อนก็ยิ้มแหยขึ้น “เฉินถิงเซียวช่วงนี้ว่างมากเลยเหรอ การลงทุกที่เล็กน้อยเช่นนี้ก็ต้องลงมาเจรยาด้วยตัวเอง”
“คุณผู้ชายเป็นนักธุรกิจที่จริงจังและรับผิดชอบครับ เขาให้ความสำคัญกับทุก ๆ โครงการ” น้ำเสียงของสือเย่จริงจังและจริงใจ ถ้ามู่น่อนน่อนไม่รู้จักเฉินถิงเซียว เกรงว่าคงเชื่อคำพูดของสือเย่แล้ว
ไม่ว่าจะเวลาไหน สือเย่ก็ยังจะปกป้องเฉินถิงเซียว ยืนข้างเฉินถิงเซียวเสมอ
ต่อให้มู่น่อนน่อนจะถามมากแค่ไหน ก็คงไม่ได้ข้อมูลจากปากของสือเย่อย่างแน่นอน
สือเย่พามู่น่อนน่อนไปที่ห้องทำงานของเฉินถิงเซียว
เขาเคาะประตูอยู่สองที “คุณผู้ชายครับ คุณมู่มาแล้วครับ”
“เข้ามา” มีเสียงทุ้มต่ำของเฉินถิงเซียวดังมาจากด้านใน ได้ยินแล้วหัวใจของมู่น่อนน่อนถึงกับสั่น
สือเย่จึงได้ผลักประตูออกแล้วยืนออกไปข้าง ๆ จากนั้นเชิญมู่น่อนน่อนเข้าไป
เซ็นสัญญาทำไมต้องเจรจาในห้องทำงาน
สิ่งที่เฉินถิงเซียวทำในช่วงนี้ ทำให้คนยากที่จะเข้าใจจริง ๆ
มู่น่อนน่อนจูงมือของเฉินมู่แล้วเดินเข้าไป
เฉินถิงเซียวกำลังนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ในมือเปิดดูเอกสารที่ไม่รู้ว่ากำลังดูเอกสารอะไร
มู่น่อนน่อนจูงมือของเฉินมู่แล้วเดินมาที่ด้านหน้าของเขา เขาถึงได้เงยหน้าขึ้นมองมู่น่อนน่อนแวบหนึ่ง
“มู่มู่อยู่กับผมที่นี่ คุณสามารถไปเจรจาเรื่องสัญญากับพวกเขาได้แล้ว เมื่อเจรจาเสร็จค่อยมารับมู่มู่” น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวเย็นชา ไร้ความรู้สึกใด ๆ ไม่มีแม้แต่จะมองมู่น่อนน่อนสักแวบเลยด้วยซ้ำ
มู่น่อนน่อนรู้สึกตะลึงงัน ที่แท้เฉินถิงเซียวครุ่นคิดไตร่ตรองก็เพื่อเฉินมู่เท่านั้น
ปฏิกิริยาของเฉินถิงเซียวนั้นชัดเจนอย่างมาก เขาให้สือเย่ลงไปรอพวกเธอ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเฉินมู่เท่านั้น
เฉินถิงเซียวกอดอกเอนหลังพิงอยู่บนเก้าอี้ประสานตากับเฉินมู่ แต่ก็ไม่วายที่จะสังเกตปฏิกิริยาของเลขาฯด้วย
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ได้ยินมาว่ามีเลขาสองคนลาคลอดบุตร ดังนั้นฝ่ายบุคคลจึงได้รับคนใหม่เข้ามา
เขาไม่ค่อยชอบคนใหม่ที่เอะอะตกใจแบบนี้
เลขาฯรู้ว่าว่าเฉินถิงเซียวกำลังมองมาทางเธอ จึงรีบวางของในถาดลงบนโต๊ะ
เวลานี้ เธอได้ยินเฉินถิงเซียวถามเธอขึ้น “คุณเป็นเด็กฝึกงานที่มาใหม่?”
ไม่ง่ายเลยที่บริษัทเฉินซื่อจะเปิดรับเลขาฯให้ท่านประธาน และเลขามีตั้งมากมาย มีเพียงสองสามคนเท่านั้นที่สามารถได้รับความไว้ใจแล้วทำงานอยู่ข้างกายเฉินถิงเซียวได้อย่างแท้จริง
เธอคงฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ และยังเพิ่งเส้นสายถึงได้เข้ามาที่บริษัทเฉินซื่อ
เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าในใจเธอไม่ได้คิดอะไรกับเฉินถิงเซียว
ประธานที่ทั้งหนุ่มและรูปงาม กับเลขาฯฝึกงาน ที่ดูอย่างไรก็ง่ายจะสปาร์คกัน
เลขาฯฝึกงานหน้าแดงขึ้น “ค่ะ ท่านประธาน ฉันเป็นเลขาฯมาใหม่ ชื่อเฉิงซือโยค่ะ”
“ผมได้ถามชื่อคุณหรือเปล่า” น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวเย็นชากว่าเมื่อสักครู่ เฉิงซือโยได้ยินแล้วแผ่นหลังถึงกับเย็นวาบขึ้น
ว่ากันว่านิสัยของท่านประธานนั้นยากที่จะคลุกคลี เมื่อสักครู่ท่านประธานเริ่มถามเธอขึ้นก่อนนั้น เธอยังคิดว่าท่านประธานรู้สึกเธอนั้นพิเศษเสียอีก……
“ดิฉัน……” เฉิงซือโย “ดิฉัน” อยู่ครึ่งค่อนวัน ตกใจจนไม่พูดอะไรไม่ออก ดูแล้วก็รู้สึกน่าสงสารเล็กน้อย
เฉินถิงเซียวยิ่งรู้สึกน่ารำคาญ “ออกไป!”
เฉิงซือโยจึงรีบหันหลังออกไปทันที
ประตูถูกปิดลง เมื่อเฉินถิงเซียวหันมามองทางเฉินมู่นั้น สีหน้าก็ได้อ่อนโยนลง
เขาวางนมและคุกกี้ลงด้านหน้าของเฉินมู่ “ทานได้เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...