เซียวชู่เหอรอที่ทางออกของลานจอดรถใต้ดิน รอจนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมู่น่อนน่อนออกมา
ความเร็วของล้อรถแล่นออกมาจากที่จอดรถค่อนข้างช้า เพียงพอที่จะทำให้เธอเห็นว่าคนในรถนั้นใช่มู่น่อนน่อนหรือไม่
เธอแน่ใจว่าเธอไม่ได้พลาดรถคันใด แต่ทำไมเธอถึงไม่เห็นมู่น่อนน่อน
หรือว่ามู่น่อนน่อนไม่ได้ขับรถมา หรือว่ามู่น่อนน่อนจะรู้ว่าเธอรออยู่ตรงนี้ ดังนั้นจึงไม่ผ่านตรงนี้
เซียวชู่เหอยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามู่น่อนน่อนนั้นกำลังหลบหน้าเธอ
เธอหันหลังกลับเข้าไปในรถ แล้วพูดกับคนขับรถว่า “พวกเรากลับกันก่อน”
เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลมู่ เซียวชู่เหอก็พบกับมู่สือยั่นที่บังเอิญกลับมาจากบริษัทเพื่อมาเอาเอกสาร
“สือยั่น ทำไมลูกอยู่บ้าน” เซียวชู่เหอลดเสียงลงอย่างอ่อนโยน
มู่สือยั่นขมวดคิ้วขึ้น เห็นได้ชัดว่าไม่อยากจะคุยกับเซียวชู่เหอสักเท่าไหร่ “กลับมาเอาเอกสาร”
“เหรอ” เซียวชู่เหอรู้นิสัยของมู่หวั่นขี แต่กับมู่สือยั่นที่คลุกคลีกันน้อย จึงไม่ค่อยรู้ว่าจะเข้าหามู่สือยั่นอย่างไร
มู่สือยั่นเย็นชาเช่นนี้ เซียวชู่เหอก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
มู่สือยั่นรู้สึกหมดอารมณ์ เดิมทีก็ไม่อยากจะสนใจเซียวชู่เหอสักเท่าไหร่ หยิบเอกสารเสร็จก็เดินออกไปด้านนอก
เซียวชู่เหอมองมู่สือยั่นที่กำลังจะเดินออกไป จึงกัดฟันแล้วตะโกนเรียกเขา “สือยั่น ลูกรอก่อน”
“คุณยังมีเรื่องอะไรอีก” มู่สือยั่นไม่ถึงกับไม่ชอบเซียวชู่เหอ แต่ก็ไม่ได้ชอบ เพียงแต่แค่ไม่อยากจะเห็นหน้าก็เท่านั้น ดังนั้นเวลาปกติจึงไม่ค่อยพูดคุยกับแม่เลี้ยงคนนี้สักเท่าไหร่
“เมื่อกี้ฉันไปที่ซูปเปอร์มาเก็ต แล้วเจอกับน่อนน่อน”
สีหน้าท่าทางของเซียวชู่เหอดูลังเลที่จะพูด ใบหน้าของมู่สือยั่นนิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง “ใคร? น่อนน่อน? คุณไปหาเรื่องเธออีกแล้ว?”
“ฉันสงสัยว่าเธอจะรู้ข่าวคราวน้องสาวของลูก ตอนที่ฉันถามเธอนั้น เธอไม่ค่อยที่จะสนใจฉัน หลังจากนั้นฉันก็เลยไปรอเธอที่ประตูทางออกลานจอดรถ เธอไม่แม้แต่จะไปที่ลานจอดรถด้วยซ้ำ เธอจงใจที่จะหลบหน้าฉัน!”
เซียวชู่เหอยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวยิ่งเป็นแบบนี้ ท่าทีก็ยิ่งมั่นอกมั่นใจ
มู่สือยั่นขมวดคิ้ว ราวกับฟังเรื่องตลกก็ไม่ปาน แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “รบกวนคุณทบทวนในสิ่งที่คุณทำกับน่อนน่อนก่อนดีไหม ถ้าผมเป็นเธอ ผมก็ไม่อยากจะสนใจคุณเช่นกัน!”
“สือยั่น ทำไมลูกถึงพูดเช่นนี้ หรือว่าลูกไม่เป็นห่วงน้องสาวสักนิด เธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของแกนะ!”
“น่อนน่อนยังป็นลูกสาวแท้ ๆ ของคุณเลย!”
ประโยคเดียวของมู่สือยั่นทำให้เซียวชู่เหอถึงกับพูดไม่ออก
เขาไม่ได้ช่วย มู่น่อนน่อนพูด ตอนเล็ก ๆ มู่น่อนน่อนนั้นเป็นเด็กดีมาก เขาไม่เกลียดเธอ
หลังจากที่เซียวชู่เหอเข้ามาที่บ้านของตระกูลมู่ ก็มักจะให้ความสำคัญกับมู่หวั่นขี มู่หวั่นขีถูกตามใจจนเสียนิสัย ส่วนหนึ่งก็มาจากเซียวชู่เหอ
ความดีและความชั่วเดิมทีก็มีอยู่ในตัวสันดานของมนุษย์
ส่วนมู่สือยั่นตอนเล็ก ๆ ก็ถูกเลี้ยงแบบปล่อย มู่ลี่เหยียนยุ่งกับการทำงาน จึงไม่ค่อยมีเวลามาสนใจเขา เซียวชู่เหออยากจะใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา แต่ก็ไม่สามารถใกล้ชิดได้ เขามักจะเป็นคนกลางที่อยู่ในบ้านตระกูลมู่
จนกระทั่งเขากับพวกเด็กแว้นเหล่านั้นแข่งรถด้วยกัน มู่ลี่เหยียนไม่สามารถที่จะทนดูต่อไปได้อีก จึงได้ส่งเขาออกไปสัมผัสประสบการณ์ที่ต่างประเทศ
ให้พูดจริง ๆ ก็คือเขากับมู่น่อนน่อนก็ไม่ได้มีความโกรธแค้นแต่อย่างใด มู่น่อนน่อนสำหรับเขาแล้ว ก็ไม่ใช่คนที่เขาเกลียด แต่ก็ไม่ใช่น้องสาวที่สนิทสนมสักเท่าไหร่
อาจเป็นเพราะด้วยสายเลือด จึงค่อนข้างสนิทมากกว่าคนอื่น ๆ
การกระทำที่เซียวชู่เหอปฏิบัติต่อมู่น่อนน่อน มู่สือยั่นเห็นแล้วยังรู้สึกว่าทำเกินไป แทบไม่อยากจะเชื่อ แต่เขาก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่ง
เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขา
เซียวชู่เหอดึงแขนเสื้อของมู่สือยั่นไว้ด้วยสีหน้าที่ขาวซีด “สือยั่น ฟังฉันพูดก่อน ฉันรู้สึกว่าการหายตัวของ หวั่นขี จะต้องเกี่ยวข้องกับน่อนน่อนอย่างแน่นอน ความสัมพันธ์ของลูกค่อนข้างดีกับเธอ เธอไม่ยอมสนใจฉัน ถ้าหากว่าลูกไปหาเธอ เธอจะต้องบอกลูกอย่างแน่นอน! หรือไม่……”
เซียวชู่เหอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวขึ้น “หรือไม่พวกเราก็แจ้งความเถอะ!”
มู่สือยั่นที่ไม่ค่อยชอบเซียวชู่เหอ เมื่อถูกเธอดึงแขนเสื้อแบบนี้ สีหน้าของเขาจึงดำทะมึน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...