ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 678

เซียวชู่เหอรอที่ทางออกของลานจอดรถใต้ดิน รอจนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมู่น่อนน่อนออกมา 

ความเร็วของล้อรถแล่นออกมาจากที่จอดรถค่อนข้างช้า เพียงพอที่จะทำให้เธอเห็นว่าคนในรถนั้นใช่มู่น่อนน่อนหรือไม่

เธอแน่ใจว่าเธอไม่ได้พลาดรถคันใด แต่ทำไมเธอถึงไม่เห็นมู่น่อนน่อน

หรือว่ามู่น่อนน่อนไม่ได้ขับรถมา หรือว่ามู่น่อนน่อนจะรู้ว่าเธอรออยู่ตรงนี้ ดังนั้นจึงไม่ผ่านตรงนี้

เซียวชู่เหอยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามู่น่อนน่อนนั้นกำลังหลบหน้าเธอ

 เธอหันหลังกลับเข้าไปในรถ แล้วพูดกับคนขับรถว่า “พวกเรากลับกันก่อน”

เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลมู่ เซียวชู่เหอก็พบกับมู่สือยั่นที่บังเอิญกลับมาจากบริษัทเพื่อมาเอาเอกสาร

“สือยั่น ทำไมลูกอยู่บ้าน” เซียวชู่เหอลดเสียงลงอย่างอ่อนโยน

มู่สือยั่นขมวดคิ้วขึ้น เห็นได้ชัดว่าไม่อยากจะคุยกับเซียวชู่เหอสักเท่าไหร่ “กลับมาเอาเอกสาร”

“เหรอ” เซียวชู่เหอรู้นิสัยของมู่หวั่นขี แต่กับมู่สือยั่นที่คลุกคลีกันน้อย จึงไม่ค่อยรู้ว่าจะเข้าหามู่สือยั่นอย่างไร

มู่สือยั่นเย็นชาเช่นนี้ เซียวชู่เหอก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา

มู่สือยั่นรู้สึกหมดอารมณ์ เดิมทีก็ไม่อยากจะสนใจเซียวชู่เหอสักเท่าไหร่ หยิบเอกสารเสร็จก็เดินออกไปด้านนอก

เซียวชู่เหอมองมู่สือยั่นที่กำลังจะเดินออกไป จึงกัดฟันแล้วตะโกนเรียกเขา “สือยั่น ลูกรอก่อน”

“คุณยังมีเรื่องอะไรอีก” มู่สือยั่นไม่ถึงกับไม่ชอบเซียวชู่เหอ แต่ก็ไม่ได้ชอบ เพียงแต่แค่ไม่อยากจะเห็นหน้าก็เท่านั้น ดังนั้นเวลาปกติจึงไม่ค่อยพูดคุยกับแม่เลี้ยงคนนี้สักเท่าไหร่

“เมื่อกี้ฉันไปที่ซูปเปอร์มาเก็ต แล้วเจอกับน่อนน่อน”

สีหน้าท่าทางของเซียวชู่เหอดูลังเลที่จะพูด ใบหน้าของมู่สือยั่นนิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง “ใคร? น่อนน่อน? คุณไปหาเรื่องเธออีกแล้ว?”

“ฉันสงสัยว่าเธอจะรู้ข่าวคราวน้องสาวของลูก ตอนที่ฉันถามเธอนั้น เธอไม่ค่อยที่จะสนใจฉัน หลังจากนั้นฉันก็เลยไปรอเธอที่ประตูทางออกลานจอดรถ เธอไม่แม้แต่จะไปที่ลานจอดรถด้วยซ้ำ เธอจงใจที่จะหลบหน้าฉัน!”

เซียวชู่เหอยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวยิ่งเป็นแบบนี้ ท่าทีก็ยิ่งมั่นอกมั่นใจ

มู่สือยั่นขมวดคิ้ว ราวกับฟังเรื่องตลกก็ไม่ปาน แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “รบกวนคุณทบทวนในสิ่งที่คุณทำกับน่อนน่อนก่อนดีไหม ถ้าผมเป็นเธอ ผมก็ไม่อยากจะสนใจคุณเช่นกัน!”

“สือยั่น ทำไมลูกถึงพูดเช่นนี้ หรือว่าลูกไม่เป็นห่วงน้องสาวสักนิด เธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของแกนะ!”

“น่อนน่อนยังป็นลูกสาวแท้ ๆ ของคุณเลย!”

ประโยคเดียวของมู่สือยั่นทำให้เซียวชู่เหอถึงกับพูดไม่ออก

เขาไม่ได้ช่วย มู่น่อนน่อนพูด ตอนเล็ก ๆ มู่น่อนน่อนนั้นเป็นเด็กดีมาก เขาไม่เกลียดเธอ

หลังจากที่เซียวชู่เหอเข้ามาที่บ้านของตระกูลมู่ ก็มักจะให้ความสำคัญกับมู่หวั่นขี มู่หวั่นขีถูกตามใจจนเสียนิสัย ส่วนหนึ่งก็มาจากเซียวชู่เหอ

ความดีและความชั่วเดิมทีก็มีอยู่ในตัวสันดานของมนุษย์

ส่วนมู่สือยั่นตอนเล็ก ๆ ก็ถูกเลี้ยงแบบปล่อย มู่ลี่เหยียนยุ่งกับการทำงาน จึงไม่ค่อยมีเวลามาสนใจเขา เซียวชู่เหออยากจะใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา แต่ก็ไม่สามารถใกล้ชิดได้ เขามักจะเป็นคนกลางที่อยู่ในบ้านตระกูลมู่

จนกระทั่งเขากับพวกเด็กแว้นเหล่านั้นแข่งรถด้วยกัน มู่ลี่เหยียนไม่สามารถที่จะทนดูต่อไปได้อีก จึงได้ส่งเขาออกไปสัมผัสประสบการณ์ที่ต่างประเทศ

ให้พูดจริง ๆ ก็คือเขากับมู่น่อนน่อนก็ไม่ได้มีความโกรธแค้นแต่อย่างใด มู่น่อนน่อนสำหรับเขาแล้ว ก็ไม่ใช่คนที่เขาเกลียด แต่ก็ไม่ใช่น้องสาวที่สนิทสนมสักเท่าไหร่

อาจเป็นเพราะด้วยสายเลือด จึงค่อนข้างสนิทมากกว่าคนอื่น ๆ

การกระทำที่เซียวชู่เหอปฏิบัติต่อมู่น่อนน่อน มู่สือยั่นเห็นแล้วยังรู้สึกว่าทำเกินไป แทบไม่อยากจะเชื่อ แต่เขาก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่ง

เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขา

เซียวชู่เหอดึงแขนเสื้อของมู่สือยั่นไว้ด้วยสีหน้าที่ขาวซีด “สือยั่น ฟังฉันพูดก่อน ฉันรู้สึกว่าการหายตัวของ หวั่นขี จะต้องเกี่ยวข้องกับน่อนน่อนอย่างแน่นอน  ความสัมพันธ์ของลูกค่อนข้างดีกับเธอ เธอไม่ยอมสนใจฉัน ถ้าหากว่าลูกไปหาเธอ เธอจะต้องบอกลูกอย่างแน่นอน! หรือไม่……”

เซียวชู่เหอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวขึ้น “หรือไม่พวกเราก็แจ้งความเถอะ!”

มู่สือยั่นที่ไม่ค่อยชอบเซียวชู่เหอ เมื่อถูกเธอดึงแขนเสื้อแบบนี้ สีหน้าของเขาจึงดำทะมึน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม