สายตาของเธอดูเฉยเมย เฉยเมยจนทำให้มู่สือยั่นรู้สึกว่าถูกมองทะลุปรุโปร่ง
เขารู้ดีมาตลอดว่ามู่น่อนน่อนนั้นฉลาดกว่ามู่หวั่นขี ไม่เช่นนั้นคนที่หายสาบสูญไปในตอนนี้ก็คงจะเป็นมู่น่อนน่อน ไม่ใช่มู่หวั่นขี
ใบหน้าของมู่สือยั่น มีความเกร็งที่ถูกเธอมองทะลุ จึงได้ลองพูดหยั่งเชิง “เธอรู้ไหมว่าทำไมพี่ถึงมา”
มู่น่อนน่อนยืดตัวตรง และก็ไม่อ้อมค้อมกับมู่สือยั่น ตอบกลับตรง ๆ ไปว่า “ต่อให้ทุกคนในตระกูลมู่จะเวียนกันมาหาฉัน คำตอบของฉันก็มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือ——ฉันไม่รู้ว่ามู่หวั่นขีอยู่ที่ไหน”
“ไม่มีข่าวคราวสักนิดเลยเหรอ เธอหายตัวไปหลังจากที่มาหาเธอ” ความแตกต่างระหว่างมู่สือยั่นกับเซียวชู่เหอคือ เขาตรงไปตรงมามากกว่า และมีอะไรก็พูดออกมาตรง ๆ
“เธอเคยมาหาฉันจริง ๆ เธอต้องการที่จะมาแก้แค้นฉัน พวกพี่ก็รู้อยู่ไม่ใช่เหรอ!” ริมฝีปากของมู่น่อนน่อนยกยิ้มขึ้น ยิ้มที่ไม่ได้มาจากใจ
มู่สือยั่นสีหน้าเย็นชาเล็กน้อย แล้วเงียบไม่พูดจาใด ๆ
“ครั้งสุดท้ายที่เห็นเธอ คือตอนที่อยู่ในเมือง M สำหรับเรื่องอื่นฉันก็ไม่รู้แล้ว และก็ไม่มีความเห็นใด ๆ” มู่น่อนน่อนลุกยืนขึ้น หันหลังไปที่ด้านหน้าโต๊ะอาหารเพื่อเก็บกวาดจานที่ยังเก็บไม่เสร็จก่อนหน้านี้
มู่สือยั่นเป็นคนที่คนฉลาด มู่น่อนน่อนไล่แขกอย่างชัดเจนขนาดนี้ เขาย่อมดูออก
มู่สือยั่นลุกขึ้นยืนจากโซฟา เปล่งเสียงมาทางห้องอาหารว่า “บริษัทพี่ยังมีงาน พี่ขอตัวก่อน วันหลังหากมีเวลาก็ทานข้าวด้วยกันนะ”
“ไม่ส่งแล้วนะ” น้ำเสียงของมู่น่อนน่อนราบเรียบ ยกจานชามแล้วก็เข้าไปในห้องครัว และก็ไม่มีท่าทีว่าจะส่งมู่สือยั่นแต่อย่างใด
มาหาเองก็กลับเอง ขี้เกียจจะไปส่ง
มู่สือยั่นเปิดประตูก็เจอกับผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู
ดวงตาของชายหนุ่มคนนี้ดูอาฆาตและน่ากลัว มู่สือยั่นเดิมทีไม่อยากจะยุ่ง แต่ในเมื่อเจอเข้าจัง ๆ จึงถามขึ้นสักหนึ่งประโยค “คุณเป็นใคร”
ชายหนุ่มคนนี้ดูไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ มู่น่อนน่อนพักอยู่ที่นี่คนเดียว เขามาหาถึงที่เพื่ออะไร
มู่น่อนน่อนที่อยู่ด้านในได้ยินเสียงเปิดประตู แต่กลับไม่ได้ยินเสียงปิด และเธอก็ได้ยินคำพูดของมู่สือยั่น
เธอจึงเดินไปตามเสียงนั้น และได้ยินประโยคหนึ่งเข้าพอดี “คุณไม่ต้องสนว่าผมเป็นใคร”
ความเย็นยะเยือกท่ามกลางความเฉยเมย
เธอฟังออกว่านี่เป็นเสียงของฉีเฉิง จึงรีบเดินออกมา
เดินมาดูถึงที่ประตู ก็พบว่าเป็นฉีเฉิงจริง ๆ
“ฉีเฉิง คุณมาได้อย่างไร” มู่น่อนน่อนสังเกตเห็นสีหน้าที่ดูแย่ของมู่สือยั่น จึงไม่คิดที่จะถามขึ้น
ฉีเฉิงยังคงเป็นคนพูดน้อย เขายื่นถุงหิ้วที่อยู่ในมือให้มู่น่อนน่อนดู
ถุงที่ดำขลับ มู่น่อนน่อนก็ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในถุงดำ
มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป แล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย “ของอะไรเหรอ”
มู่สือยั่นเห็นมู่น่อนน่อนท่าทางสนิทสนมกับฉีเฉิง จึงได้ถามขึ้น “น่อนน่อน พวกเธอรู้จักกันเหรอ”
“เขาพักอยู่บ้านตรงข้าม” มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้อธิบายอะไรมาก ชี้ไปทางบ้านที่อยู่ตรงข้าม
มู่สือยั่นมองตามนิ้วมือที่ชี้ไปของมู่น่อนน่อน มองดูบ้านตรงข้ามครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าเบา ๆ “รู้จักกันก็ดี”
เขาพูดจบ ก็มองมาทางฉีเฉิงครู่หนึ่ง แล้วก็ยกเท้าเดินออกไป
ทันทีที่มู่สือยั่นจากไป มู่น่อนน่อนก็ได้ให้ฉีเฉิงเข้ามา
แต่ฉีเฉิงกลับไม่เข้ามา เพียงแค่ยื่นถุงดำที่อยู่ในมือให้กับเธอ
มู่น่อนน่อนรับถุงดำนั้นมา พบว่าถุงดำนั้นค่อนข้างหนัก
เธอเปิดดูด้วยความสงสัย พบว่าด้านในนั้นเป็นกระถางต้นไม้ แค่เพียงมองก็รู้ว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกอย่างตั้งใจ
ประณีตและสวยงามมาก
เมื่อมู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าตรงหน้านั้นไม่มีคนแล้ว หลังจากที่ยื่นถุงให้กับมู่น่อนน่อน ฉีเฉิงก็ได้หันหลังจากไป
ฉีเฉิงนั้นต้องการจะทำอะไรกันแน่
ส่งอาหารมื้อดึกมาให้ ส่งเธอไปที่บริษัทเฉินซื่อ ยังมอบกระถางดอกไม้ให้เธอ……
สองสิ่งแรกก็ดูเหมือนไม่มีอะไรที่พิเศษ
แต่เรื่องมอบกระถางต้นไม้นี้ รู้สึกค่อนข้างแปลกมาก
ฉีเฉิงดูแล้วไม่เหมือนผู้ชายที่ละเอียดอ่อน ต่อให้เขาจะมีความคิดที่ละเอียดอ่อน ก็น่าจะใช้กับเฉินจิ่งหยุ้น แล้วทำไมต้องมาดีกับเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...