ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 679

สายตาของเธอดูเฉยเมย เฉยเมยจนทำให้มู่สือยั่นรู้สึกว่าถูกมองทะลุปรุโปร่ง 

เขารู้ดีมาตลอดว่ามู่น่อนน่อนนั้นฉลาดกว่ามู่หวั่นขี ไม่เช่นนั้นคนที่หายสาบสูญไปในตอนนี้ก็คงจะเป็นมู่น่อนน่อน ไม่ใช่มู่หวั่นขี

ใบหน้าของมู่สือยั่น มีความเกร็งที่ถูกเธอมองทะลุ จึงได้ลองพูดหยั่งเชิง “เธอรู้ไหมว่าทำไมพี่ถึงมา”

มู่น่อนน่อนยืดตัวตรง และก็ไม่อ้อมค้อมกับมู่สือยั่น ตอบกลับตรง ๆ ไปว่า “ต่อให้ทุกคนในตระกูลมู่จะเวียนกันมาหาฉัน คำตอบของฉันก็มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือ——ฉันไม่รู้ว่ามู่หวั่นขีอยู่ที่ไหน”

“ไม่มีข่าวคราวสักนิดเลยเหรอ เธอหายตัวไปหลังจากที่มาหาเธอ” ความแตกต่างระหว่างมู่สือยั่นกับเซียวชู่เหอคือ เขาตรงไปตรงมามากกว่า และมีอะไรก็พูดออกมาตรง ๆ 

“เธอเคยมาหาฉันจริง ๆ เธอต้องการที่จะมาแก้แค้นฉัน พวกพี่ก็รู้อยู่ไม่ใช่เหรอ!” ริมฝีปากของมู่น่อนน่อนยกยิ้มขึ้น ยิ้มที่ไม่ได้มาจากใจ

มู่สือยั่นสีหน้าเย็นชาเล็กน้อย แล้วเงียบไม่พูดจาใด ๆ

“ครั้งสุดท้ายที่เห็นเธอ คือตอนที่อยู่ในเมือง M สำหรับเรื่องอื่นฉันก็ไม่รู้แล้ว และก็ไม่มีความเห็นใด ๆ” มู่น่อนน่อนลุกยืนขึ้น หันหลังไปที่ด้านหน้าโต๊ะอาหารเพื่อเก็บกวาดจานที่ยังเก็บไม่เสร็จก่อนหน้านี้

มู่สือยั่นเป็นคนที่คนฉลาด มู่น่อนน่อนไล่แขกอย่างชัดเจนขนาดนี้ เขาย่อมดูออก

มู่สือยั่นลุกขึ้นยืนจากโซฟา เปล่งเสียงมาทางห้องอาหารว่า “บริษัทพี่ยังมีงาน พี่ขอตัวก่อน วันหลังหากมีเวลาก็ทานข้าวด้วยกันนะ”

“ไม่ส่งแล้วนะ” น้ำเสียงของมู่น่อนน่อนราบเรียบ ยกจานชามแล้วก็เข้าไปในห้องครัว และก็ไม่มีท่าทีว่าจะส่งมู่สือยั่นแต่อย่างใด

มาหาเองก็กลับเอง ขี้เกียจจะไปส่ง

มู่สือยั่นเปิดประตูก็เจอกับผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู

ดวงตาของชายหนุ่มคนนี้ดูอาฆาตและน่ากลัว มู่สือยั่นเดิมทีไม่อยากจะยุ่ง แต่ในเมื่อเจอเข้าจัง ๆ จึงถามขึ้นสักหนึ่งประโยค “คุณเป็นใคร”

ชายหนุ่มคนนี้ดูไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่  มู่น่อนน่อนพักอยู่ที่นี่คนเดียว เขามาหาถึงที่เพื่ออะไร

 มู่น่อนน่อนที่อยู่ด้านในได้ยินเสียงเปิดประตู แต่กลับไม่ได้ยินเสียงปิด และเธอก็ได้ยินคำพูดของมู่สือยั่น

เธอจึงเดินไปตามเสียงนั้น และได้ยินประโยคหนึ่งเข้าพอดี “คุณไม่ต้องสนว่าผมเป็นใคร”

ความเย็นยะเยือกท่ามกลางความเฉยเมย

เธอฟังออกว่านี่เป็นเสียงของฉีเฉิง จึงรีบเดินออกมา

เดินมาดูถึงที่ประตู ก็พบว่าเป็นฉีเฉิงจริง ๆ

“ฉีเฉิง คุณมาได้อย่างไร” มู่น่อนน่อนสังเกตเห็นสีหน้าที่ดูแย่ของมู่สือยั่น จึงไม่คิดที่จะถามขึ้น

ฉีเฉิงยังคงเป็นคนพูดน้อย เขายื่นถุงหิ้วที่อยู่ในมือให้มู่น่อนน่อนดู

ถุงที่ดำขลับ มู่น่อนน่อนก็ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในถุงดำ

มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป แล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย “ของอะไรเหรอ”

มู่สือยั่นเห็นมู่น่อนน่อนท่าทางสนิทสนมกับฉีเฉิง จึงได้ถามขึ้น “น่อนน่อน พวกเธอรู้จักกันเหรอ”

“เขาพักอยู่บ้านตรงข้าม” มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้อธิบายอะไรมาก ชี้ไปทางบ้านที่อยู่ตรงข้าม

มู่สือยั่นมองตามนิ้วมือที่ชี้ไปของมู่น่อนน่อน มองดูบ้านตรงข้ามครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าเบา ๆ “รู้จักกันก็ดี”

เขาพูดจบ ก็มองมาทางฉีเฉิงครู่หนึ่ง แล้วก็ยกเท้าเดินออกไป

ทันทีที่มู่สือยั่นจากไป มู่น่อนน่อนก็ได้ให้ฉีเฉิงเข้ามา

แต่ฉีเฉิงกลับไม่เข้ามา เพียงแค่ยื่นถุงดำที่อยู่ในมือให้กับเธอ

มู่น่อนน่อนรับถุงดำนั้นมา พบว่าถุงดำนั้นค่อนข้างหนัก

เธอเปิดดูด้วยความสงสัย พบว่าด้านในนั้นเป็นกระถางต้นไม้ แค่เพียงมองก็รู้ว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกอย่างตั้งใจ 

ประณีตและสวยงามมาก

เมื่อมู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าตรงหน้านั้นไม่มีคนแล้ว หลังจากที่ยื่นถุงให้กับมู่น่อนน่อน ฉีเฉิงก็ได้หันหลังจากไป

ฉีเฉิงนั้นต้องการจะทำอะไรกันแน่

ส่งอาหารมื้อดึกมาให้ ส่งเธอไปที่บริษัทเฉินซื่อ ยังมอบกระถางดอกไม้ให้เธอ……

สองสิ่งแรกก็ดูเหมือนไม่มีอะไรที่พิเศษ 

แต่เรื่องมอบกระถางต้นไม้นี้ รู้สึกค่อนข้างแปลกมาก

ฉีเฉิงดูแล้วไม่เหมือนผู้ชายที่ละเอียดอ่อน ต่อให้เขาจะมีความคิดที่ละเอียดอ่อน ก็น่าจะใช้กับเฉินจิ่งหยุ้น แล้วทำไมต้องมาดีกับเธอ

“อย่างนั้น……”  เสิ่นเหลียงต้องการจะแกล้งมู่น่อนน่อน จึงลากเสียงยาวขึ้น รอจนมู่น่อนน่อนหมดความอดทนจึงได้เรียกหยุดเธอ เธอถึงค่อยกล่าวต่อ “เขาก็คือต้องการจะจีบเธอจริง ๆ !”

น้ำเสียงนี้ดูมั่นใจกว่าสักครู่ที่มู่น่อนน่อนบอกว่าฉีเฉิงไม่มีเจตนาร้ายต่อเธอ

 มู่น่อนน่อนถูกน้ำเสียงที่มั่นใจของเสิ่นเหลียงทำให้ตกใจ!

ฉีเฉิงจีบเธอ?

นี่เธอบ้าไปแล้ว หรือว่าฉีเฉิงบ้าไปแล้ว 

มู่น่อนน่อนทำท่าสั่นและยักไหล่ ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าวขึ้น “ไม่ เขาไม่ได้ชอบฉัน เขาไม่ได้ชอบฉัน”

เสิ่นเหลียงฟังจนรู้สึกหงุดหงิด “ไม่ได้ชอบเธอ และก็ไม่ได้คิดไม่ซื่อต่อเธอ แต่กลับทำดีกับเธอ ก็มีเพียงเหตุผลเดียว”

“เหตุผลอะไร”

เสิ่นเหลียงแสดงการจินตนาการของการเป็นนักแสดงของเธอ และกล่าวอย่างเคร่งขรึม “รับมอบหมายจากผู้อื่น”

มู่น่อนน่อนได้ยินประโยคนี้ ก็ถึงกับตกใจอึ้ง

“รับ……มอบหมายจากผู้อื่น?”

มู่น่อนน่อนก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้พูดติดอ่างฉับพลัน

เสิ่นเหลียงยังคงวิเคราะห์ต่อ “แน่นอนว่าจะต้องเป็นคนที่ห่วงเธอที่สุด!”

น้ำเสียงของมู่น่อนน่อนบางเบา “นอกจากเธอแล้วยังมีใครอีกที่ห่วงฉันเช่นนี้”

เสิ่นเหลียงกล่าวออกไปหนึ่งประโยค “ก็ต้องเป็นบอสใหญ่อยู่แล้ว!”

ตุ้ม——

มีบางอย่างระเบิดขึ้นในใจ

สมองของมู่น่อนน่อนเกิดความว่างเปล่าไปชั่วขณะ

เสิ่นเหลียงตระหนักได้ว่าตัวเองนั้นพูดอะไรออกไป และโทรศัพท์ก็ตกอยู่ในสภาวะที่เงียบแปลก ๆ พิกล

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม