ผ่านไปครู่หนึ่ง มู่น่อนน่อนถึงได้เปล่งเสียงอย่างช้า ๆ “เธอคิดว่า มีความเป็นไปได้?
เสิ่นเหลียงเงียบไปครู่หนึ่ง: "ฉัน...คิดว่า ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้……”
—— ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
แต่ว่า ความเป็นไปได้นี้เป็นแค่การคาดการณ์ของเสิ่นเหลียงเท่านั้น
ช่วงเวลาที่แยกทางกับเฉินถิงเซียวนั้น มู่น่อนน่อนเฝ้ารอความหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่แล้วก็ต้องสิ้นหวัง
เธอจึงไม่ต้องการที่จะเดาใจของเฉินถิงเซียวอย่างลม ๆ แล้ง ๆ ไม่มีเหตุผลอีก
เช่นนั้นมันเหนื่อยเกินไป
“เธอรู้ไหม ตอนที่บริษัทเฉินซื่อเกิดไฟไหม้ ฉันก็อยู่ในตึกบริษัทเฉินซื่อ”
มู่น่อนน่อนนิ่งไปครู่หนึ่ง เสิ่นเหลียงไม่ได้พูดแทรก เธอรู้ว่ามู่น่อนน่อนยังพูดไม่จบประโยค
“ทุกคนต่างวิ่งกรูกันหนีเอาชีวิตรอด ฉันนึกขึ้นได้ว่าเขากับมู่มู่ยังอยู่ในห้องทำงาน จึงได้ขึ้นตึกไปหาพวกเขา แล้วก็บังเอิญเจอเขาที่ทางบันได เขาทิ้งฉันแล้วก็จากไป”
และนั่นก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฉินถิงเซียวทิ้งเธอแล้วจากไป
มู่น่อนน่อนสาธยายสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ราบเรียบชนิดที่ว่าประหนึ่งกำลังพูดเรื่องของคนอื่น
เสิ่นเหลียงฟังจนจบแล้วก็แทบไม่อยากจะเชื่อ “บอสใหญ่เขาเป็นคนแบบนี้จริงเหรอ”
“อืม” มู่น่อนน่อนตอบกลับแล้วถอนหายใจเบา ๆ
เสิ่นเหลียงไม่รู้จะพูดอะไรเพื่อปลอบใจมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนเปลี่ยนหัวข้อในการสนทนา “ฉันกำลังล้างถ้วยชามอยู่ อีกสักครู่มู่มู่ก็จะตื่นแล้ว”
“นั้นเธอยุ่งไปเถอะ บ๊ายบายนะ!”
เสิ่นเหลียงวางสายและรู้สึกอึดอัดในใจเล็กน้อย จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหากู้จือหยั่น
แต่ไหนแต่ไรมากู้จือหยั่นนั้นรับสายโทรศัพท์ของเสิ่นเหลียงอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าพร้อมรับใช้ตลอดเวลา
ต่อสายติด ดังเพียงครั้งเดียว กู้จือหยั่นก็กดรับสาย
“เสิ่นเสี่ยวเหลียง นายน้อยของคุณกำลังติดประชุมอยู่ มีอะไรหรือเปล่า” ตอนที่กู้จือหยั่นคุยกับเธอนั้น พูดจาอย่างพ่อพวงมาลัยไม่จริงจัง
เสิ่นเหลียงคุ้นเคยจนรู้สึกชิน “ติดประชุมแล้วยังจะรับโทรศัพท์อีก อย่างนั้นแค่นี้นะ”
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน……” เสียงเรียกของกู้จือหยั่นดังขึ้นจากโทรศัพท์ ไม่ให้เสิ่นเหลียงวางสาย “ที่รัก มีอะไรก็พูดมาสิ จะวางสายทำไม”
เสิ่นเหลียงถ้าไม่มีเรื่องก็จะไม่มีทางโทรหาเขา ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ สามารถรับโทรศัพท์ของเสิ่นเหลียง เขาก็รู้สึกดีใจมาก
เสิ่นเหลียงจึงกล่าวตรง ๆ “คืนนี้เจอกันที่โรงแรมจีนติ่ง”
“ได้” กู้จือหยั่นตอบรับไปโดยที่ไม่ได้ถามว่าเธอต้องการทำอะไร
……
หลังจากที่มู่น่อนน่อนวางสายโทรศัพท์แล้ว ก็นึกถึงคำพูดของเสิ่นเหลียง
ความจริงคำพูดของเสิ่นเหลียงก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
คนอย่างฉีเฉิง ที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร มาเป็นบอดี้การ์ดให้เธอถือว่าเป็นเกียรติแล้วจริง ๆ
แต่จะให้เธอเชื่อว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนให้ฉีเฉิงมา ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
หลังจากประสบกับความสิ้นหวังครั้งแล้วครั้งเล่า มู่น่อนน่อนไม่มีทางที่จะให้ตัวเองมีจินตนาเกี่ยวกับเฉินถิงเซียวอีกต่อไป
แต่เธอก็รู้สึกว่าจำเป็นต้องทดสอบฉีเฉิงสักหน่อย
มู่น่อนน่อนจึงเกิดความคิดและตัดสินใจว่าคืนนี้จะทำอาหารและเชิญฉีเฉิงมาทานด้วยกัน
ใกล้พลบค่ำ เธอได้เตรียมวัสดุอาหารไว้เสร็จสรรพ และไปเคาะประตูบ้านของฉีเฉิง
ฉีเฉิงก็ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ในบ้าน เขายังคงสวมเสื้อคลุมที่หนา ดูไม่เหมือนคนอยู่บ้านตลอดเวลา กลับกันดูเหมือนคนเพิ่งจะกลับมาจากด้านนอกมากกว่า
เมื่อเห็นมู่น่อนน่อนมองสำรวจเขาและไม่พูดไม่จา ฉีเฉิงถึงได้เอ่ยปากขึ้นก่อน “คุณมู่ มีธุระ?”
“ขอบคุณที่คุณเอากระถางต้นไม้ให้ฉัน ฉันอยากเชิญคุณมาทานข้าวที่บ้านฉัน” มู่น่อนน่อนยกริมฝีปากขึ้นเบา ๆ ทำให้ตัวเองดูเป็นซื่อตรงและจริงใจ
ฉีเฉิงปฏิเสธออกไปโดยไม่แม้แต่จะไตร่ตรอง “ไม่ต้อง ผมไม่ไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...