ตอนที่ 91 เฉินเจียฉินกำลังปลอบใจเธอ
ท่ามกลางราตรีมืด น้ำเสียงของ“เฉินเจียฉิน”แหบพร่า ฟังดูแล้วคล้ายๆกับน้ำเสียงของ“เฉินถิงเซียว”
มู่น่อนน่อนหยุดชะงัก รู้สึกว่า“เฉินเจียฉิน”ในคืนนี้ผิดปกติอย่างมาก
ทั้งๆคนที่ถูกลักพาตัวคือเธอแท้ๆ เธอหลับไปตื่นหนึ่งตอนนี้อารมณ์สงบขึ้นมากแล้ว แต่“เฉินเจียฉิน”ดูเหมือนอารมณ์จะแย่ลงมาก ทั้งตัวดูอึมครึมไปหมด
ทำให้คนอ่านใจไม่ออก จึงรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้
มู่น่อนน่อนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงคิดจะลงรถ
เธอเดินไปหยุดหลัง“เฉินเจียฉิน” ถามเขาขึ้นเสียงเบาว่า“คุณเป็นอะไรไปน่ะ”
“เฉินเจียฉิน”ไม่ได้พูดอะไร เขาดับไฟบุหรี่ในมือลง หันตัวกลับ
ท่ามกลางราตรี มู่น่อนน่อนแม้จะไม่เห็นหน้าเขา แต่กลับสัมผัสได้ถึงความอึมครึมที่ระอุ มา
ทันใดนั้น ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอจึงก้มหัวลง ประกบหน้าลงบนริมฝีปากเธอ
……
ไม่นานนัก มู่น่อนน่อนจึงสงบลง แม้ว่าในใจจะรู้สึกโกรธกับการกระทำของ“เฉินเจียฉิน” แต่ก็ไม่ได้อาละวาดอะไร ทั้งคู่จึงกลับไปที่คฤหาสน์อย่างเงียบขรึม
ไฟของคฤหาสน์สว่างจ้า ทั้งด้านนอกด้านในล้วนเต็มไปด้วยบอดี้การ์ด
มู่น่อนน่อนตกตะลึง “เกิดอะไรขึ้น”
คงไม่ใช่เพราะว่าเฉินถิงเซียวเห็นว่าเธอหายไป เลยให้บอดี้การ์ดออกตามหาหรอกนะ
“เฉินเจียฉิน”ที่ลวนลามเธอไปก่อนหน้า ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินเสียงเธออย่างไรอย่างนั้น จึงเดินก้าวขาเข้าไป
มู่น่อนน่อนเดินตามหลังเขาเข้าไป มองดูแผ่นหลังตรงสง่าของเขา ยิ่งรู้สึกว่า“เฉินเจียฉิน”ล้ำลึกเกินกว่าจะคาดเดา
พอเข้าไป“เฉินเจียฉิน”จึงตรงขึ้นห้องทันที
มู่น่อนน่อนกลับมาถึงคฤหาสน์ ในใจรู้สึกวางใจ พอสบายใจแล้วก็รู้สึกหิวลนลาน
มีบอดี้การ์ดเห็นเธอเดินไปที่ห้องครัว จึงรีบตามไปแล้วพูดขึ้น“คุณผู้หญิงอยากรับประทานอะไรครับ กระผมทำให้”
“มีอาหารสำเร็จรูปไหม ฉันกินอะไรรองท้องนิดหน่อยก็พอ”ตอนนี้เธอหิวจนแทบจะกลืนวัวลงไปได้สองตัว
เธอบอกว่ากินอะไรรองท้องนิดหน่อยก็พอ แต่ว่าบอดี้การ์ดก็ยังคงจัดอาหารเต็มโต๊ะให้ เธออยู่ดี
ตอนนี้เธอหิวจนตาลายไปหมด จึงหยิบตะเกียบขึ้นมากิน
กินไปได้ครึ่งหนึ่ง จึงเงยหน้าขึ้นมาเห็น“เฉินเจียฉิน”เดินเข้ามาประจันหน้ากับเธอ
บอดี้การ์ดรีบหยิบชุดตะเกียบให้กับเขา
มู่น่อนน่อนเห็นสถานการณ์ จึงถามเขา“คุณยังไม่ได้ทานข้าวหรือคะ”
น้ำเสียงของ“เฉินเจียฉิน”ราบเรียบ“ยังไม่ได้กิน”
จริงด้วย “เฉินเจียฉิน”ไปช่วยเธอใช้เวลาไม่น้อย ไม่มีเวลากินข้าวตามปกติ
“เฉินเจียฉิน”ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งชุด ผมเผ้าเปียกปอน น่าจะเพิ่งไปอาบน้ำมา
มู่น่อนน่อนกินใกล้อิ่มแล้ว จึงวางตะเกียบลง เอ่ยขึ้นอย่างเต็มปากว่า“ขอบคุณนะคะ……ช่วยฉันไว้อีกครั้งหนึ่งแล้ว”
เธอรู้สึกสับสนในอารมณ์เล็กน้อย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธออยากจะรักษาระยะห่างกับ“เฉินเจียฉิน” แต่เขามักจะช่วยเหลือเธอเสมอ ระหว่างคนทั้งคู่มีจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...