ได้ยินเสียงนี้ก็เลิกคิ้วด้วยจิตใต้สำนึก
เมื่อหันหลังไปมองก็เห็นดวงตาสีดำของเฟิงยู่เหนียนพอดี
“ที่นี่คือลานจอดรถของangle ไม่ทราบว่าคุณเฟิงมาทำไหม?”
เฟิงยู่เหนียนยกมุมปากขึ้นคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม“มาคุยเรื่องงานกับประธานลู่ ทำไมเหรอ?มีกฎข้อไหนระบุว่าห้ามผมมาที่นี่?”
เซิงเกอได้ยินพลันอมยิ้ม
เหตุผลเข้าท่าดีแฮะ?
“เฟิงซื่อกรุ๊ปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนที่นี่เป็นธุรกิจวงการบันเทิง มันต่างกันอย่างลิบลับ หรือว่าคุณเฟิงมาหาดาราโฆษณาบ้านของพวกคุณ?”
เธอใช้สายตาแดกดันจ้องเขา บรรยากาศไม่ดีเสียเลย
เฟิงยู่เหนียนคล้ายกับโดนแววตาของเธอแทง สีหน้ากลับมาเย็นชากะทันหัน เขาจับไหล่เธอแล้วดันไปด้านหลัง แผ่นหลังเธอแนบชิดติดรถในที่สุด จากนั้นก็จับข้อมือเธอไว้แน่น
“คุณจะทำอะไร?”
เขาหนีบสองเขาเซิงเกอไว้ เธอจึงขยับกายไม่ได้
ท่านี้ดูแปลกมาก……
อยู่ใกล้กันแบบนี้ ทั้งยังได้กลิ่นลมหายใจของอีกฝ่ายด้วย ใบหน้าเซิงเกอเริ่มแดงก่ำเล็กน้อย
เธอดิ้นไปพลาง จ้องเขม็งอีกฝ่ายไปพลาง
“เฟิงยู่เหนียนกินยาผิดซองหรือเปล่า?หรือว่าคุณบ้าไปแล้ว?”
เขาใช้สายตาดำสนิทคล้ายกับน้ำหมึกจ้องมองเธอ คล้ายกับมองเหยื่อที่ไม่เชื่อฟัง
“รถใหม่ของคุณหมายความว่าอะไร? สีเขียวด้วย? ได้ลู่ฮั๋วเป็นที่พึ่ง คุณได้ใจมากใช่ไหม? จงใจโจมตีผมใช่ไหม?”
สีเขียวแล้วอย่างไร?
มีการแบ่งแยกสีด้วยหรือเนี่ย
เธอลอบบ่นในใจ ทว่าไม่ได้พูดออกมา
“เพื่อเขาแล้ว คุณจึงรีบหย่ากับผม แต่เห็นทีเขาก็ไม่ได้ดีต่อคุณมากนัก” ดวงตาผู้ชายเปี่ยมไปด้วยความประชดประชัน
นี่มันอะไรกันเนี่ย?
เขามาเพราะคิดว่าเธอหย่าเพราะต้องการอยู่กับลู่ฮั๋ว จึงมาซักถามเป็นพิเศษ
ตลกชะมัดยาก?
เซิงเกอจ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจ“คุณเฟิงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?พวกเราหย่ากันเพราะคุณไม่รักฉัน ส่วนฉันก็เหนื่อยจนไม่อยากทุ่มเทอยู่ฝ่ายเดียว มันไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลย”
“แต่......”
เธอหยุดพูด ดวงตาเต็มไปด้วยความยั่วยุ“คุณลู่ ดีจริง ๆ !นิสัยเขาดีกว่าคุณ โดดเด่นกว่าคุณ และหล่อกว่าคุณด้วยแม้แต่เส้นผมคุณก็สู้เขาไม่ได้”
ถ้อยคำพวกนี้เหมือนกับว่าเมื่อก่อนเขาเคยใช้พูดกับเธอ?
หน้าผากเฟิงยู่เหนียนปูดโปนจนเห็นเส้นเลือด ร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายอำมหิต ใช้แรงจับคางเธอขึ้นมา
“คุณจงใจยั่วโมโหผม? เพราะอยากให้ผมเอาคุณที่นี่หรือเปล่า?”
เซิงเกอก็ฉุนเฉียวยกใหญ่!
เธอเป็นเมียเก่าของเขา เมียเก่านะ ตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไปแล้ว
ชายโฉดคนนี้มีสิทธิ์อะไรมาโมโหใส่เธอ มีสิทธิ์มาขู่เธอด้วยเหรอ
“เฟิงยู่เหนียน ฉันขอพูดอีกครั้ง หลีกไป”
ผู้ชายไม่ไหวติงเลยสักนิด
เซิงเกอรู้สึกโกรธจนข่มอารมณ์ไม่อยู่ พูดดี ๆ ไม่ฟังใช่ไหม?
งั้นก็ต้องงัดท่าไม้ตายออกมาใช้แล้วแหละมั้ง!
เธอลงมืออย่างรวดเร็ว หวังจะใช้ศิลปะการต่อสู้ทำให้อีกฝ่ายล้มลง
ทว่ากลับคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเร็วกว่าตัวเอง
เซิงเกอ:“?”
เพียงแค่ชั่วพริบตา สองมือของเธอก็ถูกเฟิงยู่เหนียนใช้มือข้างเดียวจับพันธนาการไว้ จากนั้นก็ยกหัวกดทับไปยังบนรถ
ส่วนสำคัญคือ แรงอีกฝ่ายเยอะกว่าเธอ เธอดิ้นไม่หลุดเลย
“เฟิงยู่เหนียน!”
เซิงเกอตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราด ใบหน้าแดงเสมือนปู
เฟิงยู่เหนียนยกมุมปากยิ้ม ดวงตาสีดำเผยความพอใจหลังจากแก้แค้นสำเร็จแล้ว เหมือนจะพอใจที่เห็นเธอโกรธเขา แต่ทำอะไรเขาไม่ได้
ตอนที่เธอโมโห สีหน้าดุร้ายเหมือนกับราชสีห์ตัวน้อย ดวงตาดื้นด้านและสุกใส ขบฟันด้วยริมฝีปากเสียงแดง ช่างมีเสน่ห์และสวยงามยิ่ง
เฟิงยู่เหนียนอดนึกถึงภาพคืนที่เขาโดนวางยาไม่ได้ ระหว่างนั้นคล้ายกับเขาเห็นดวงตาของมู่จื่อหนิงตอนเด็กจากตัวเธอ
ตอนนั้นอารมณ์มันพาไปด้วยฤทธิ์ยา
วันนี้มาย้อนคิดดูแล้ว ช่างเป็นคืนที่พิเศษยิ่ง
เมื่อระลึกเหตุการณ์ ช่วงล่างก็เริ่มร้อนแผ่ว
เซิงเกอสัมผัสได้ถึงอวัยวะของผู้ชายที่เริ่มแข็งตัวและร้อนแผ่ว.......มันกำลังโดนท้องน้อยของเธอ
“เฟิงยู่เหนียน ไอ้คนบ้า ไอ้สวะ ถ้ายังไม่ปล่อย ฉันจะตายไปพร้อมกับคุณ”
เสียงของเธอทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์
เขาหันหน้ากลับมากะทันหัน ยกมุมปากโค้งขึ้นอย่างมีเจตนาร้าย“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย คุณก็หาว่าผมบ้า หาว่าผมเป็นสวะ ผมคงต้องทำอะไรบ้างแล้ว ไม่งั้นจะไม่เป็นอย่างที่คุณว่า”
กลิ่นอายคลุมเครือปกคลุมรอบกายพวกเขาสองคน
เขากล่าวจบ สายตาก็เล็งไปยังริมฝีปากเธอ จากนั้นก็โน้มกายเข้าไป แล้วประกบริมฝีปากเธอแรง ๆ ดวงตาสีนิลเจือบทลงโทษและการรุกรานไว้ร่วมด้วย
เซิงเกอรู้สึกเดือดดาล ลืมตากลมโต ความอับอายเข้ามาจู่โจมเธอโดยพลัน
“พวกคุณทำอะไรกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!