“ก็เออนะสิ ใครใช้ให้เธอปากไม่มีหูรูดแบบนี้”
เซิงเกอนวดฝ่ามือด้วยท่าเอ้อระเหยลอยชาย มุมปากสบถคำเยาะเย้ย“ดูเหมือนการอบรบสั่งสอนของตระกูลเฟิงไม่ดีเสียเลย ลูกสาวในบ้านจึงออกมาพูดจาสั่ว ๆ”
“ยังมีอีก เคยแต่งงานแล้วจะทำไม? มีกฎห้ามคนที่เคยแต่งงานแล้วเข้าร่วมงานเหรอ?แล้วพี่ชายเธอไม่ใช่คนเคยแต่งงานเหรอ?สิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้เป็นการใส่ร้ายและสบประมาทฉัน ฉันฟ้องร้องเธอได้”
“แก”
เฟิงเซิงเซิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ถูกตบหน้าสาธารณะ ทั้งยังถูกตำหนิว่าขาดการอบรมสั่งสอน เธอกับตระกูลเฟิงขายหน้าไปหมดแล้ว
ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ คนที่ตบหน้าเธอคือ เซิงเกอที่เมื่อก่อนเธอรังแกยังไงก็ไม่กล้าขึ้นเสียง!
ช่างเป็นเรื่องที่อัปยศอดสูเสียจริง
“นังสารเลว ฉันจะฆ่าแก”
เธอกระโจนเข้าไปอย่างดุดัน สีหน้าอำมหิตยิ่ง เธอเอื้อมมือเตรียมจะดึงเส้นผมเซิงเกอ
ลู่ฮั๋วเห็นก็รีบดึงเซิงเกอเข้าอ้อมกอด จากนั้นก็หันหลังให้เฟิงเซิงเซิง
คนที่เข้ามาขวางเป็นคนแรกคือเฟิงยู่เหนียน
เขาขมวดคิ้วจ้องเฟิงเซิงเซิง“จะทำตัวเหลวไหลกันไปถึงไหน?รีบขอโทษเร็ว”
“พี่ ฉันเป็นน้องสาวของพี่นะ นังสารเลวคนนี้ตบหน้าฉัน พี่ไม่ช่วยฉันแก้เผ็ดแล้วยังจะช่วยเธออีกเหรอ?แล้วยังให้ฉันขอโทษอีก?”
ใบหน้า เฟิงยู่เหนียนดำถึงขีดสุด กล่าวเตือนว่า“พี่มีตา เห็นอยู่ว่าใครผิดใครถูก พี่จะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะ รีบขอโทษเร็ว”
เฟิงเซิงเซิงอ่อนข้อลงทันตาเห็น
แต่เธอก่นด่าเซิงเกอแล้วทำไมเหรอ?เธอแค่อยากช่วยทุกคนเปิดโปงหน้ากากนังสารเลวก็เท่านั้นเอง!
เธอผิดตรงไหน?!
เธอยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยเนื้อต่ำใจ คิดจะโต้แย้ง ทว่ากลับถูกมู่จื่อหนิงกุมไหล่
มู่จื่อหนิงกระซิบปลอบใจว่า“เซิงเซิง อะยู่โกรธจริงแล้วนะ เขาหวังดีกับเธอนะ ปล่อยให้เซิงเกอฟ้องเธอจริง ๆ ไม่ได้หรอกใช่ไหม พวกเราไม่ทำอะไรที่เสียผลประโยชน์หรอก วันหน้ายังมีโอกาสอีกเยอะ”
ประโยคสุดท้ายมีความหมายลึกซึ้งมาก
สิบนาทีให้หลังมู่จื่อหนิงพาเฟิงเซิงเซิงกลับมาร่วมงานอีกครั้ง
เหมือนเฟิงเซิงเซิงจะเสริมแป้งมาด้วย จึงอำพรางรอยแดงบนแก้มด้านขวา และเธอก็ยืนด้านหลังเฟิงยู่เหนียนอย่างเงียบ ๆ แลดูเป็นเด็กเชื่อฟังยิ่งนัก
เพียงแต่จะใช้สายตาอำมหิตจ้องไปยังเซิงเกอที่ประกายแสงในฝูงชน
งานเลี้ยงราตรีดำเนินมาถึงครึ่ง ฟลอร์เต้นรำก็ถูกจัดวาง พวกประธานจากบริษัทต่าง ๆ เชิญสาวข้างกายเข้ามาร่วมเต้นรำตามจังหวะเพลงเป็นจำนวนมาก
มู่จื่อหนิงก็เกิดอารมณ์อยากเต้นด้วย เธอจ้องเฟิงยู่เหนียนด้วยแววตาวาดหวังรอคอย รอให้เขาจับมือเธอพร้อมกับเชิญเธอเต้นรำอย่างสุภาพ
และเฟิงยู่เหนียนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาลุกขึ้นยืน
ความตื่นเต้นบนแววตาของ มู่จื่อหนิงยิ่งเข้มข้นมากขึ้น คล้ายกับเห็นภาพตัวเองจะกลายเป็นจุดเด่นของฟลอร์เต้นรำในวินาทีต่อมา
จากนั้น วินาทีต่อมาแห่งความเป็นจริง
เฟิงยู่เหนียนถือไวน์แดงเดินไปยังโต๊ะด้านข้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...