ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 27

หลิวเหนียนไม่พูดอะไร แต่สายตาบอกความหมายทุกอย่างชัดเจน

หากไม่ใช่เพราะกรณีพิเศษนี้ เขาไม่สงสัยมู่จื่อหนิงอย่างแน่นอน แต่เพราะวันนั้นเขาบอกมู่จื่อหนิงว่าบอสไปหาเซิงเกอที่ลานจอดรถของangle ระหว่างทางเซิงเกอก็ถูกคนไล่ล่า

ช่างเป็นอะไรที่น่าบังเอิญเสียจริง

มันพูดยากว่าเรื่องนี้เธอไม่มีส่วนรู้เห็น

สีหน้ามู่จื่อหนิงราวกับคนที่เจ็บปวดอย่างมาก พูดอย่างปวดใจว่า“หลิวเหนียน ฉันเห็นคุณเป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง ไม่คิดว่าคุณจะมาสงสัยในตัวฉันแบบนี้ ? ฉันจะส่งคนไปทำร้ายเซิงเกอได้ยังไง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอจะใช้เส้นทางไหน”

หลิวเหนียนใจอ่อนยวบในทันที

“ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนจิตใจดี เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือคุณแน่ แต่คุณได้บอกใครไปหรือเปล่า?”

มู่จื่อหนิงนิ่งงัน

หลิวเหนียนสงสัยเธอซะขนาดนี้ หากไม่พูดข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์ เขาต้องไปเช็กการใช้โทรศัพท์ของเธอในช่วงนี้แน่ ถึงตอนนั้นภาพลักษณ์ที่เธอได้สร้างเอาไว้คงได้จบเห่แน่

เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอคงต้องเสียสละคนอื่นเท่านั้น

เธอแสร้งทำเป็นครุ่นคิด และคิดอะไรขึ้นมาได้ ก็พูดว่า“ วันนั้นฉันเสียใจมาก เซิงเซิงโทรมาถามฉัน ฉันก็เผลอพลั้งปากบอกเธอไป……”

เธอนิ่งไป แล้วรีบโบกมือ “ ไม่ๆ!เซิงเซิงไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่ ฉันเชื่อใจเขา ”

หลิวเหนียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “คุณมู่คุณเป็นคนดี แต่คนอื่นเขาไม่ได้ใสซื่อและจิตใจดีแบบคุณหรอกนะ”

เขาพูดแสดงความห่วงใยไปอีกสองสามคำ จากนั้นก็ออกไปจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว ให้คนไปตรวจสอบที่คฤหาสน์หลังเก่าของตระกูลเฟิงอย่างละเอียด และให้คนลบการเชื่อมโยงของมู่จื่อหนิงกับเรื่องนี้ออกอย่างเงียบๆ

หลังจากที่เขาไปแล้ว มู่จื่อหนิงก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธ

เธอยังสงสัยว่าทำไมเมื่อคืนไม่มีใครกลับมารายงานผลให้ทราบ ที่แท้ก็เป็นเพราะอะยู่ไปช่วยชีวิตนังสารเลวนั่นเอาไว้ !

ตอนนี้เธอจึงต้องอ้างชื่อเฟิงเซิงเซิงเพื่อเอาตัวรอด หากอะยู่รู้เข้า คงต้องเฝ้าระวังคฤหาสน์หลังเก่าอย่างเข้มงวดมากขึ้น และเฟิงเซิงเซิงคงจะเอามาใช้เป็นเครื่องมือไม่ได้แล้วในตอนนี้!

เธอเสียงแรงเปล่ากับการลงทุนที่ผ่านมาเพื่อพยายามจะตีสนิทคนอย่างเฟิงเซิงเซิงที่จู้จี้จุกจิกและไร้ความสามารถ

แต่จะให้เธอปล่อยผู้หญิงที่น่ารังเกียจอย่างเซิงเกอไป เธอก็ทำไม่ได้ !

เธอจิกเล็บลงบนฝ่ามือ ความเหี้ยมโหดและชั่วร้ายในแววตาไม่แม้แต่จะปิดบัง

……

เซิงเกอกลับไปที่คฤหาสน์ของลู่ฮั๋ว และได้รับข้อมูลอย่างละเอียดจากลู่ฮั๋ว

คนที่ว่าจ้างนักเลงพวกนั้นคือหลี่เฟย และคนที่คอยยุยงคือเฟิงเซิงเซิง

หลังจากที่ดูหลักฐานทั้งหมดแล้ว สีหน้าเซิงเกอก็เรียบเฉย

เธอเดาได้แต่แรกแล้วว่าเรื่องนี้คนของคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลเฟิงต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงแต่……

“เรื่องเมื่อคืนมู่จื่อหนิงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยเหรอ ?”

ลู่ฮั๋วขบคิด“พี่จะให้คนไปตรวจเช็กทางฝั่งมู่จื่อหนิงอย่างละเอียดอีกทีแล้วกัน”

“ดีค่ะ”

ลู่ฮั๋วก็ถามขึ้นอีกว่า“ตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือของใคร แล้วจะเอายังไงต่อ ?”

มุมปากเซิงเกอยกหยัก มีแผนในใจอยู่แล้ว

“พี่สาม ขอยืมตัวบอดี้การ์ดที่แข็งแรงให้ฉันหน่อยนะ”

ลู่ฮั๋วถูกความเจ้าเล่ห์ราวจิ้งจอกน้อยของเธอดึงดูด บีบไปที่จมูกน้อยๆของเธออย่างนึกเอ็นดู “เจ้าหญิงน้อยของฉันต้องการคน ฉันจะกล้าไม่ให้ได้ไง เราอยากได้กี่คนก็ไม่ใช่ปัญหา ”

เซิงเกอยิ้มหวาน น้ำเสียงละมุน“มีพี่สามนี่แหละที่รักฉันที่สุด”

ในตอนเย็น ที่คฤหาสน์หลังเก่าตระกูลเฟิง

หลี่เฟยนอนเอนกายอยู่บนเก้าอี้ในสวนดอกไม้ ให้ช่างเสริมสวยทำสปาผิวหน้าให้เธอ

แต่แล้วจู่ๆที่ประตูเหล็กบานใหญ่ก็มีเสียงปังดังก้องขึ้น

เซิงเกอถามอย่างไม่ใส่ใจว่า“ แล้วยังไงคะ ?”

หลี่เฟยมองไปยังลูกสาวที่อยู่ข้างหลัง เค้นเสียงหึในลำคอ“ ครั้งที่แล้วเธอรังแกเซิงเซิง ครั้งนี้เธอมาหาถึงที่เอง ฉันจะให้เธอต้องคุกเข่าขอโทษเซิงเซิง ที่ติดค้างเซิงเซิงก็จะทวงคืนกลับมาให้หมด!”

พูดๆอยู่ เธอก็ส่งสายตาไปหาคนใช้ที่อยู่ข้างๆ

คนใช้ต่างก็เข้าใจ เดินเข้ามาหาเซิงเกอราวกับเสือที่จ้องเขม็งมองดูเหยื่อ

เซิงเกอพิงไปที่ประตูรถ ก้มดูเล็บมือของตัวเองไปเรื่อยเปื่อย พูดอย่างสบายอารมณ์ว่า“ได้ ฉันจำเอาไว้หมดแล้ว เดี๋ยวจะให้ทุกคนได้ลิ้มลอง เพราะยังไงวันนี้ ฉันมาเพื่อคิดบัญชี”

คิดบัญชี ?

เราไปติดหนี้อะไร ?

หลี่เฟยที่กำลังสงสัยอยู่ ก็เห็นเซิงเกอปรบมือ บอดี้การ์ดชุดดำที่ร่างกายกำยำผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีกว่าสิบคนก็ปรากฏตัวขึ้น แล้วมายืนอยู่ข้างหลังของเธอ

กลุ่มคนจำนวนมาก ช่างน่าสะพรึงไม่น้อย ทำเอาเหล่าคนใช้ที่เดินปรี่กันเข้ามาเมื่อครู่ถึงกับต้องถอยร่นออกไปด้วยความกลัว

หลี่เฟยถึงกับตื่นตระหนก ถามขึ้นว่า“นี่เธอคิดจะทำอะไร?”

“ฉันบอกไปแล้ว มาคิดบัญชี ”

แววตาของเซิงเกอค่อยๆเย็นลง ออกคำสั่งกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลัง “นอกจากห้องเก่าของคุณท่านตระกูลเฟิงที่ชั้นสามกับห้องหนังสือและห้องโถงบรรพบุรุษที่ชั้นหนึ่งห้ามแตะต้องแล้ว ห้องอื่นที่เหลือของอะไรที่มีค่าทำลายทิ้งให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่ถ้วยหรือชามสักใบ ”

“เธอกล้าเหรอ!”

เฟิงเซิงเซิงกับหลี่เฟยแทบจะพูดออกมาพร้อมกันในทันที

หลี่เฟยโกรธจนดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าดำมืดราวกับมะเขือม่วง พูดข่มขู่ว่า“ บุกรุกพื้นที่ส่วนตัวมีความผิดตามกฎหมาย! หากเธอกล้าแม้แต่จะทำลายถ้วยชามของฉันแค่ใบเดียว ฉันจะแจ้งความทันที!เอาเธอเข้าคุก !”

เซิงเกอยิ้มตาหยี หยิบสำเนาหลักฐานชุดหนึ่งออกจากกระเป๋าอย่างไม่รีบไม่ร้อน

“ดีเลยค่ะ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าตำรวจมา จะมาจับพวกคุณ หรือมาจับฉัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!