ยิ่งพูดมากขึ้น ความมั่นใจของเธอก็ยิ่งจะน้อยลงไป ความเกลียดชังในแววตาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น แต่ก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะผลักประตูบานนั้นเพื่อพิสูจน์
“เธอก็เข้ามาดูเองสิ ”
เซิงเกอยักไหล่ให้อย่างไม่ยี่หระ ดันประตูเปิดกว้างในทันที ชี้ยังไปที่ๆเฟิงยู่เหนียนยืนอยู่เมื่อครู่“นั้นไง อยู่นั้น!”
หัวใจของมู่จื่อหนิงกระตุกวูบไปชั่วขณะ
มองตามที่เซิงเกอชี้ไป ที่ตรงนั้นนอกจากกำแพง ก็มีแค่ความว่างเปล่า
“นี่เธอล้อฉันเล่นเหรอ?”
เธอจ้องเซิงเกอตาเขียว แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาต
เซิงเกอก็อึ้งเหมือนกัน
เมื่อกี้ก็ยังยืนอยู่ตรงนั้น หรือเขาจะมีความสามารถพิเศษอะไรงั้นเหรอ ?
มู่จื่อหนิงกำลังสังเกตอาการเธอ รู้สึกเหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากล ผลักเธอออกด้วยความโกรธแล้วเดินเข้าไป เปิดห้องทุกห้องที่ประตูแง้มอยู่ แล้วสำรวจอย่างละเอียด
เซิงเกอยืนอยู่ข้างหลังของเธอ มองหาเฟิงยู่เหนียนเช่นกันว่าเขาไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ?
หลังจากที่ตรวจดูทุกห้องไปแล้ว สายตาของคนทั้งสองมองไปยังประตูห้องสุดท้ายที่แง้มอยู่อย่างไม่ได้นัดหมาย
มู่จื่อหนิงสูดหายใจลึกแล้วผลักประตูออกอย่างแรง!
ทุกอย่างว่างเปล่า
เซิงเกอมองเห็นหน้าต่างด้านขวาที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ ก็เข้าใจได้ในทันที
ไม่คิดว่าผู้มีอำนาจและยิ่งใหญ่ของเฟิงซื่อกรุ๊ป วันหนึ่งจะต้องมาปืนหน้าต่าง หนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้ เธอก็อดที่จะขำไม่ได้
เมื่อมู่จื่อหนิงเห็นเธอหัวเราะร่า ก็มึนงงอย่างมาก และเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง
“หากเธออยู่ในห้องน้ำคนเดียว แล้วเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเมื่อกี้มันคือยังไง ?”
เซิงเกอกางมือออก ไม่ได้ตอบคำถาม
ความหมายก็คือ ให้เธอเดาเอาเอง
มู่จื่อหนิงมองดูเธออย่างโกรธเคือง กัดฟันกร่อนแล้วพูดข่มขู่ว่า“เซิงเกอ เธอกับอะยู่ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ฉันขอเตือนเธออยู่ให้ห่างจากเขา หากฉันรู้ว่าเธอยังมาวอแวเขาอีก ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!”
เซิงเกอได้ยินก็ถึงกับหลุดขำ ตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้าว่า“ คนอย่างฉันไม่กลับไปกินของเก่า หากเธอกล้ามายั่วโมโหฉัน ฉันไม่ถือหากจะต้องแย่งทุกอย่างที่เธอต้องการ รวมถึงคนด้วย”
“นี่เธอ!”
มู่จื่อหนิงถูกสายตาที่เย็นเยือกของเธอสะกดคิดไม่ออกไปชั่วขณะว่าจะโต้กลับเธอยังไงดี
ก่อนที่เธอจะจากไป ยังหันมามองมู่จื่อหนิงอีกครั้ง และพูดเหน็บว่า “อ้ออีกเรื่อง ดูแลผู้ชายเฮงซวยของเธอให้ดี อย่าให้เขามายุ่งกับฉัน เพราะทั้งเธอและเขาทำฉันรู้สึกขยะแขยงมาก”
“นี่เธอ!นังสารเลว!”
มู่จื่อหนิงโกรธจัด แต่ก็ทำอะไรเธอไม่ได้ โกรธก็แต่พวกที่ส่งไปเมื่อคืนทำไมถึงจัดการเธอไม่ได้
เธอกระทืบเท้าด้วยความโกรธ หลังจากที่ล้างมือเสร็จ ก็เดินออกจากห้องน้ำ
“อะหนิง”
เดินไปได้สองก้าว ด้านหลังก็มีเสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อของเธอ
มู่จื่อหนิงหันหลังกลับมา เห็นเฟิงยู่เหนียนที่มีใบหน้าเรียบเฉยเดินออกมาจากห้องน้ำชาย ก็ถึงได้โล่งใจในทันที
อาจเพราะตอนนั้นเธอเป็นกังวลมากไป เสียงโทรศัพท์อาจดังมาจากทางห้องน้ำชายก็เป็นได้ ?
“อะยู่ เมื่อกี้คำพูดของฉันที่พูดตรงทางเดินห้องน้ำ คุณได้ยินหมดทุกอย่าง ?”
เฟิงยู่เหนียนพยักหน้า“อืม”
ใบหน้าของมู่จื่อหนิงเห่อร้อนขึ้นมาทันที เธอไม่อยากให้คำพูดที่เธอพูดออกไปเมื่อกี้ทำให้เฟิงยู่เหนียนมองเธอไม่ดี
“ขอโทษ ความผิดของฉันเอง เมื่อกี้ฉันคิดว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำหญิงเป็นคุณ เลยควบคุมตัวเองไม่ได้ ต่อไปฉันจะไม่สงสัยในตัวคุณ และจะไม่เอะอะโวยวายแบบนี้อีก”
เฟิงยู่เหนียนไม่ได้พูดอะไร มองดูเธออยู่แบบนั้นเงียบๆ
เมื่อเห็นขอบตาช้ำๆของเธอ เขาก็นึกไปถึงเมื่อวานที่เธอมาหาเขากลางดึก พอไม่เจอเขา เธอก็ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์นานเกือบค่อนคืน แล้วพูดถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา
แม้เขารู้สึกเหมือนถูกคุกคาม แต่เพราะคำสัญญาของลูกผู้ชาย เขาก็ตอบตกลงคำขอหมั้นของเธอ
ทว่า……
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ความรู้สึกของเขาที่มีต่อมู่จื่อหนิงมันดูเหินห่างมากขึ้นไปเรื่อยๆ บางครั้งเขาก็ยังแอบสงสัย ว่าสาวน้อยที่ใสซื่อบริสุทธิ์เมื่อหลายปีก่อนคนนั้นใช่เธอจริงๆหรือเปล่า
“อะหนิง ไปต่างประเทศมาหลายปี คุณเปลี่ยนไปมากจริงๆ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...