ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 25

โชคดีที่ในห้องน้ำมีเธอแค่คนเดียว แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่มีใครเข้ามา

เธออยากจะเดินหลบเฟิงยู่เหนียนแล้วไปเปิดประตู แต่ข้อมือก็ถูกชายหนุ่มที่เดินเข้ามาตรงหน้าคว้าหมับเอาไว้

“คุณกลัวอะไร ?”

เขายิ้มปลอมๆ แล้วพูดต่อว่า“ผมบอกไปแล้วว่าอยากจะคุยกับคุณ เมื่อคืนปล่อยคุณหนีไปได้ วันนี้ไม่เปิดโอกาสให้คุณได้หนีไปอีกแน่ ”

มีอะไรน่าคุย?

เรื่องระหว่างเขากับเธอมันไม่มีอะไรให้คุยกันแล้ว

เธอสะบัดมือของเขาออก นวดคลึงไปที่ข้อมือ“มีอะไรให้ฉันต้องกลัว แค่รู้สึกว่าประธานเฟิงผู้มีชื่อเสียงจะมาดักเจอคนในห้องน้ำหญิงได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ”

ดวงตาที่ลุ่มลึกของเฟิงยู่เหนียนจ้องมองเธอ แล้วจุดบุหรี่ขึ้นมามวนหนึ่ง

กลิ่นบุหรี่นี้ทำจมูกเซิงเกอรู้สึกแสบ จึงขมวดคิ้วขึ้นด้วยความรังเกียจ

ควันของบุหรี่ทำให้สีหน้าของเขาดูมืดมนมากขึ้น ใบหน้าของเขาไร้อารมณ์ใดๆ และเริ่มตั้งคำถาม

“ผู้ชายที่มากินข้าวกับคุณคนนั้นเป็นใคร?”

เซิงเกองงงวย กลอกตาใส่เขาอย่างจองหอง“ เกี่ยวอะไรกับคุณ ”

คำถามถูกเมิน เฟิงยู่เหนียนไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่ยังคงถามต่อว่า“เมื่อกี้ดูเหมือนเขาอยากจะจีบคุณเลยนะ แล้วคุณล่ะ ? ชอบเขาด้วยหรือเปล่า?”

หืม?

เซิงเกอเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว

เธอช้อนตาขึ้นมอง แล้วจ้องเขาอย่างแปลกๆ“ดังนั้นที่คุณมาดักเจอฉัน เพราะหึงงั้นเหรอ ?”

เฟิงยู่เหนียนสะอึก ถูกประโยคนี้เล่นเอาจุกไปที่ลำคอ

เซิงเกอห้ามตัวเองไม่อยู่หัวเราะร่าออกมาทันที

ใบหน้าของเขาค่อยๆถอดสี เขาหงุดหงิดกับสายตาเธอที่กำลังเยาะเย้ย “ไม่ว่ายังไง คุณก็ได้ชื่อว่าเป็นอดีตภรรยาของผม อาการระริกระรี้แบบนี้มันทำให้ตระกูลเฟิงของผมเสื่อมเสียชื่อเสียง ผมของเตือนคุณอยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนนั้นซะ!”

“โอ๊ะโอ ประธานเฟิงคงว่างมากจริงๆ ฉันยังยืนยันคำเดิม ฉันจะคบหากับใครไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ !”

ใบหน้าที่ถอดสีของเขาก็แย่หนักเข้าไปอีก นึกไม่ออกว่าจะแย้งเธอกลับไปยังไงดี

เมื่อเซิงเกอเห็นเขาหมดหนทาง ในใจรู้สึกพึงพอใจ อยากจะเยาะเย้ยเขาขึ้นมา “คู่หมั้นคุณรู้หรือเปล่าว่าคุณมาดักเจออดีตภรรยาที่ห้องน้ำแบบนี้ ? หากเธอรู้ จะมีอาการยังไงน่ะ?ฉันอยากจะเห็นสีหน้าของเธอจริงๆ !”

พูดๆไป เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

แต่เฟิงยู่เหนียนกลับคว้าไปที่ข้อมือของเธอ มืออีกข้างก็จับไหล่ของเธอ แล้วต้อนเธอไปที่มุม จนไม่มีทางหนี

เธอขัดขืน และถูกเขายึดข้อมือไว้ ตรึงขึ้นเหนือศีรษะ กดไปกับกำแพง

ดวงตาดำขลับของเฟิงยู่เหนียนจ้องมองเธอในระยะประชิด ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารินรดแก้มเนียนของเธอ ทำเอาใบหน้าเซิงเกอเห่อร้อนขึ้นมาทันที

ห้องน้ำของโดกัส เรสเตอรองต์ก็ตกแต่งในโทนสีมืดเช่นกัน

แสงไฟที่สลัวห้อมล้อมคนทั้งสอง ทำให้สถานการณ์ดูล่อแหลมอย่างที่สุด

แทบจะเหมือนเหตุการณ์ที่โรงจอดรถของเมื่อคืนนี้เลย เพียงแต่ด้านหลังจากที่เป็นรถมาเป็นกำแพง

เซิงเกอกรุ่นโกรธอย่างมาก

“คุณมันไอ้คนชั่วที่คอยตามราวีฉันไม่เลิก !นี่คุณบ้าไปแล้วหรือไง?”

เมื่อก่อนไม่เคยจะสนใจเธอ แต่หลังจากที่หย่ากันไป เขาก็คอยตามตอแยเธออยู่ตลอด

นี่กินยาอะไรผิดไปหรือเปล่า? !

เฟิงยู่เหนียนมองแพขนตางอนที่ไหวสั่นอยู่เล็กน้อยของเธอ ทันใดนั้นก็นึกไปถึงเมื่อคืนก่อนที่เธอจะจากไป รอยยิ้มที่เย้ยหยันของริมฝีปากแดงนั่น ในใจก็รู้สึกคันยุบยิบขึ้นมา

สายตามองไปยังริมฝีปากที่นุ่มนวลของเธอ ในใจจู่ๆก็รู้สึกอยากจะกัดลงไป

แม้จะไม่รู้ว่ามันรสชาติยังไง แต่คงทำให้เธอต้องกระทืบเท้าตึงตังด้วยความโมโหได้แน่

เซิงเกอมองจากสายตาของเขา รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ในใจก็ร้อนรนขึ้นมา

สายตาที่เธอมองเขาค่อยๆมีความเกลียดชังที่เพิ่มมากขึ้น ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน“ เฟิงยู่เหนียน สักวัน ฉันจะให้คุณต้องคุกเข่าที่แทบเท้าของฉัน เพื่อชดใช้ให้กับการกระทำทั้งหมดที่คุณได้ทำลงไป ”

คำพูดนี้ช่างโอหังเสียจริง

“ผมจะรอวันนั้น”

เฟิงยู่เหนียนหัวเราะ เห็นชัดว่าเขาไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดนี้ของเธอเลย เขาไม่คิดว่าเธอจะมีความสามารถมากพอกับคำท้าทายนี้

“แต่ตอนนี้ คุณต้องชดใช้ให้กับความโกรธของผมที่คุณเป็นคนก่อขึ้น!”

พูดจบ เขาก็โน้มตัวมา ขยับเข้าหาเธอ

มันหมายถึงอะไร หัวสมองของมู่จื่อหนิงก็ปรากฏภาพที่ล่อแหลมของคนทั้งสองขึ้นมาทันที

ท่าทีของเธอกระวนกระวายมากขึ้น อารมณ์ก็รุนแรงตาม เสียงทุบประตูหนักขึ้นไปด้วย

“เซิงเกอเธออยู่ข้างในใช่ไหม!เปิดประตู !ออกมาเดี๋ยวนี้ !”

คำนึงถึงว่าเป็นที่สาธารณะ เธอไม่อยากจะทำลายชื่อเสียงของอะยู่ จึงตะโกนเรียกชื่อเซิงเกอไม่หยุด

ไม่ได้กดสายทิ้ง เสียงของโทรศัพท์ยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง

แต่ในห้องน้ำกลับเงียบสนิท

สติของมู่จื่อหนิงแทบจะถูกความโกรธทำลายจนสิ้น ด้านในยิ่งเงียบ ก็ยิ่งบ่งชี้ว่ามันผิดปรกติ และกำลังมีเรื่องบัดสีเกิดขึ้น!

“เซิงเกอออกมาเดี๋ยวนี้นะ !ทำไมเธอไม่ตอบ ? หรือกลัวใครจะรู้ว่าเธอมายั่วคู่หมั้นของฉัน !เธอคิดว่าเธอหลบอยู่แบบนี้ ฉันจะไม่รู้ว่าเป็นเธองั้นเหรอ !”

เธอยังคงตะโกนไม่หยุด และเสียงดังมาก

เดิมทีเซิงเกอคิดว่าจะได้ดูละครสักฉาก ไม่คิดว่ามู่จื่อหนิงจะตะโกนเรียกชื่อตัวเองซ้ำๆอยู่แบบนี้ หากยังปล่อยให้เธอทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เกรงว่าคนทั้งร้านอาหารจะรู้ว่าเธอกับเฟิงยู่เหนียนมาอยู่กันสองต่อสองในห้องน้ำหญิงได้

ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิด เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นใบหน้าที่เรียบเฉยของเฟิงยู่เหนียน ราวกับเรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขา

ทำไมคนก่อเรื่องอย่างเขาถึงได้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรแบบนี้ ?

แต่เธอต้องมาร้อนรนเพราะคำพูดของมู่จื่อหนิง!

ราวกับคิดอะไรขึ้นมาได้ เซิงเกอจ้องเขม็งมองเขา มุมปากยิ้มเยาะ“ดูท่าคนที่ควรจะร้อนรนไม่น่าจะใช่ฉันนะ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าอีกประเดี๋ยวคุณเฟิงจะยังพูดอธิบายกับคู่หมั้นอย่างใจเย็นแบบนี้ได้ไหม!”

ขณะที่เธอพูด ก็สะบัดแขนของเฟิงยู่เหนียนที่กำลังกอบกุมเธอออก เฟิงยู่เหนียนไม่ได้ขวาง เธอก็จึงเดินไปเปิดประตู

ด้านนอกประตู มู่จื่อหนิงยังคงเดือดพล่านด้วยความโกรธ และแผดเสียงเรียกไม่หยุด

“จะไม่เปิดใช่ไหม ได้!ฉันจะให้คนมาพังประตูเดี๋ยวนี้!ฉันจะแฉเธอต่อหน้าทุกคนโทษฐานที่กล้ามายั่วยวนคู่หมั้นของฉันอย่างหน้าไม่อาย!”

ทันทีที่สิ้นเสียง ที่ประตูลูกบิดจู่ๆก็มีเสียงปลดล็อกดังขึ้น

ประตูแง้มออกขนาดเท่าฝ่ามือ เซิงเกอยิ้มเยาะแล้วจ้องมองมาที่เธอ

“เป็นเธอจริงๆด้วย!”

มู่จื่อหนิงดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ น้ำเสียงแทบขบฟันแน่น“ เมื่อกี้ทำไมเธอถึงไม่มาเปิดประตู ? ใครคุยกับเธอข้างใน ? ใช่อะยู่หรือเปล่า ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!