เซิงเกอเห็นท่าทีของเขา เดาได้ว่าเขาเองก็น่าจะรู้ตัวคนที่บงการอยู่เบื้องหลังแล้ว
ดังนั้น ที่เขามาก็คงมีเจตนาที่อยากจะซักไซ้เอาความงั้นเหรอ?
เฟิงยู่เหนียนไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จ้องมองเธอเท่านั้น
แต่เป็นหลิวเหนียนที่พูดตำหนิขึ้นมา“คุณเซิงเกอ นี่คุณทำเกินไปหรือเปล่า !”
ถึงจะหย่าร้างกันไปแล้ว แต่นั่นก็เป็นแม่สามีและน้องสามีนะ พวกเขาอาจจะเคยทำเรื่องไม่ดีมาก่อน แต่ก็ไม่ควรทรมานกันอย่างนี้หรือเปล่า ?
ชั่วขณะหนึ่งภาพความโอบอ้อมอารีของมู่จื่อหนิงก็สว่างวาบขึ้นมาในใจของเขา
เซิงเกอเหลือบมองเขา ไม่ได้โต้แย้งอะไร แล้วมองไปยังเฟิงยู่เหนียนอย่างสื่อความหมายไปแวบหนึ่ง
“คุณก็คิดแบบนี้เหรอ?”
เฟิงยู่เหนียนขมวดคิ้ว ริมฝีปากบางกำลังจะขยับ หลี่เฟยได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่ตรงประตู ปรี่เข้ามาแล้วกอดเขาเอาไว้ จากนั้นก็กล่าวโทษเซิงเกออย่างโกรธเคือง
“ลูก ลูกดูนังสารเลวทำร้ายน้องสาวลูก!แล้วยังทำลายข้าวของที่บ้านอีก !ลูกต้องเอาเธอเข้าคุกให้ได้ แม่จะให้เธอกินข้าวคุกไปจนตาย และสำนึกผิดในนั้นไปตลอดชีวิต!”
คิ้วที่ได้รูปของเฟิงยู่เหนียนขมวดกันแน่นมากขึ้นไปอีก
ทุกคนต่างพากันมองมาที่เขา ราวกับกำลังรอการตัดสินใจของเขา
เซิงเกอเองก็เช่นกัน
แต่เธอก็ยังคงสงบนิ่งไม่ไหวติง เตรียมพร้อมมาตรการรับมือกับการเข้าข้างอีกฝ่ายของเฟิงยู่เหนียนไว้แล้ว
หลี่เฟยก็เริ่มลำพองใจขึ้นมา ลูกชายสุดที่รักกลับมาแล้ว ลูกชายต้องช่วยเธออย่างแน่นอน!
เธอกำลังรอดูว่าผู้หญิงที่น่ารังเกียจอย่างเซิงเกอจะมีจุดจบยังไง!
ภายใต้สายตาที่ต่างความคิดของทุกคนที่จ้องมองมา ท่อนขาที่เรียวยาวของเฟิงยู่เหนียนเดินเข้าไปหาเซิงเกอสองก้าว
บอดี้การ์ดชุดดำเดินเข้ามายืนขวางตรงหน้าเซิงเกอ แต่ก็ถูกเซิงเกอดันตัวออก
เธอก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าเขาจะทำอะไร ?
ขาของเฟิงยู่เหนียนหยุดลง อยู่ห่างจากเซิงเกอ ไม่ถึงครึ่งเมตร
เขาถอนหายใจ ก้มศีรษะไปทางเซิงเกอเล็กน้อย
“ครั้งนี้พวกเขาวางแผนทำร้ายคุณก่อน คุณมาแก้แค้นเอาคืนตระกูลเฟิงก็สมควรแล้ว เพราะพวกเขาไม่รู้ความ ผมต้องขอโทษแทนพวกเขาด้วย”
ทันทีที่พูดจบ ทุกคนต่างก็พากันตกตะลึง!
เซิงเกอก็ตกอยู่ในความเงียบเช่นกัน
เธอคิดว่าเขาจะต้องโกรธ และจะต้องเข้าข้างอีกฝ่าย
แต่ไม่คิดมาก่อนว่าเขาไม่เพียงไม่กล่าวโทษการแก้แค้นนี้ของเธอ แต่กลับยังเป็นฝ่ายพูดขอโทษอีก ?
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเขามีเหตุผล มีความรับผิดชอบ เหมือนลูกผู้ชายคนหนึ่ง
แต่หลี่เฟยไม่ยอม
เธอคว้าตัวเฟิงยู่เหนียน แล้วเอะอะโวยวายขึ้นมาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“นี่แกเป็นลูกชายของฉันนะ!ทำไมแกไม่ช่วยฉัน ไปช่วยนังสารเลวนี่ทำไม!แกทนมองดูมันทำร้ายฉันกับน้องสาวแกได้งั้นเหรอ !ทำไมแกใจจืดใจดำได้ขนาดนี้ ?”
“ไม่รู้ล่ะ!ยังไงแกก็ต้องมีคำอธิบายให้ฉัน !ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดขาดกับไอ้ลูกเนรคุณและไร้หัวใจอย่างแก!”
เฟิงยู่เหนียนถูกเธอดึงทึ้ง ชุดสูทสีน้ำเงินเข้มที่ตัดเย็บอย่างประณีตยังคงภูมิฐานไร้ที่ติ
เขาไม่ขยับเคลื่อนไหวใดๆ ยอมให้เธอด่าว่าระบายอารมณ์อยู่อย่างนั้น
จนหลี่เฟยเห็นเขาไม่ไหวติง ก็โกรธจนปรี่เข้าไปหาอยากจะดึงทึ้งร่างของเซิงเกอ สายตาที่ดุร้ายของเขาก็มองไปยังเหล่าคนใช้ที่หลบซ่อนตัวและกำลังมองเหตุการณ์นี้อยู่
“คุณนายเสียสติขนาดนี้แล้ว ยังไม่รีบพากลับเข้าไปข้างในอีก แล้วตามหมอประจำครอบครัวมาดูด้วย ”
เมื่อได้รับคำสั่ง หลิวเหนียนจึงให้คนใช้รีบดำเนินการทันที พาตัวหลี่เฟยที่กำลังพล่ามด่าไม่หยุดเข้าไปในคฤหาสน์ทันที
และแบกร่างของเฟิงเซิงเซิงที่นอนสลบอยู่บนพื้นกลับไปที่ห้อง
ส่วนคนใช้ที่เหลือก็แยกย้ายกันไปทำความสะอาดเศษซากความเสียหายที่เกิดขึ้น
ที่คฤหาสน์หลังเก่าจึงเหลือเพียงเฟิงยู่เหนียนกับเซิงเกอและบอดี้การ์ดชุดดำอีกสิบคนที่เซิงเกอพามาด้วย
นัยน์ตาที่ดำขลับจ้องไปที่เข่าอันน่าสังเวชของเฟิงเซิงเซิง ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างผ่านเฟิงเซิงเซิง
ก่อนที่เขาจะมาได้ถามคนใช้มาแล้ว ว่าเหตุการณ์เรื่องเครื่องประดับในครั้งนั้นเป็นหลี่เฟยที่จงใจให้ร้ายเซิงเกอ
ตอนนั้นเขาทำงานอยู่ที่บริษัท และได้ยินเรื่องนี้ผ่านๆ แต่ไม่รู้รายละเอียด
ภายในใจของเฟิงยู่เหนียนถึงกับจุก
ดังนั้น ตลอดเวลาที่เซิงเกออยู่ตระกูลเฟิงเธอไม่เคยมีความสุขเลย จึงเลือกที่จะหย่างั้นเหรอ ?
ทันใดนั้นเบื้องหน้าก็ปรากฏภาพของร่างบางที่ดื้อรั้นกำลังคุกเข่าอยู่ท่ามกลางสายฝน เฟิงเซิงเซิงคุกเข่าแค่ครู่เดียว ยังบวมได้ขนาดนี้ แล้ววันนั้นเข่าของเธอจะบวมแค่ไหนกัน……
แต่เรื่องพวกนี้ หลังจากที่แต่งงานกันไปแล้วเธอไม่เคยเอามันมาพูดบ่นกับเขาเลย
“นี่ลูก?!ลูกได้ฟังที่แม่พูดไปหรือเปล่า ?”
หลี่เฟยเขย่าแขนของเขา ทำเอามโนภาพของเขาขาดหายไป
“ลูกอย่าลืม ว่าตอนนั้นพ่อของลูกได้ฝากฝังน้องกับแม่เอาไว้กับลูก ตอนนี้คุณท่านก็สิ้นแล้ว อย่าเพราะได้อำนาจของตระกูลเฟิงแล้ว ก็จะไม่สนใจแม่กับน้องว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง!”
ใช้ความน่าสงสารไม่ได้ งั้นก็ใช้คำสัญญาและความรับผิดชอบของลูกผู้ชายแล้วกัน หลี่เฟยไม่เชื่อว่าเขาจะยังปกป้องนังสารเลวคนนั้นได้อีก
เฟิงยู่เหนียนหันไปมองเธอ แต่กลับตอบไม่ตรงคำถาม“เมื่อก่อนแม่กับน้องรังแกเซิงเกอยังไงบ้าง ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิ?”
หลี่เฟยตะลึงงัน ไม่คิดว่าเขาจะมาสนใจเรื่องพวกนี้
“เรื่องมันตั้งนานมาแล้ว แกกับเธอก็หย่ากันไปแล้ว มีอะไรให้น่าพูดถึง ฉันก็เป็นแม่สามีเธอนะ อบรมสั่งสอนเธอนิดๆหน่อยๆจะเป็นไรไป ? นังสารเลวนั่นยังกล้าเอามาฟ้องแกอีกเหรอ ? ช่างเป็นผู้หญิงชั่วที่หน้าด้านและไร้ยางอายเสียจริง !”
ทันทีที่เธอพูดจบ ก็เห็นใบหน้าของเฟิงยู่เหนียนดำมืดสนิท เธอรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “ลูกรัก ดูแขนแม่สิช้ำไปหมดเลย แล้วยังน้องสาวที่บอบบางของเราอีก เราทนเห็นแม่กับน้องถูกรังแกแบบนี้ได้เหรอ ?”
“ได้ครับ”
มุมปากเฟิงยู่เหนียนยกหยัก แต่ดวงตากลับดำขลับ “ ผมรู้ว่าต้องทำยังไง ”
หลี่เฟยดีอกดีใจ มือที่กุมแขนของเขาก็กระชับแน่นขึ้น
“จริงเหรอ?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...