ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 29

เซิงเกอเห็นท่าทีของเขา เดาได้ว่าเขาเองก็น่าจะรู้ตัวคนที่บงการอยู่เบื้องหลังแล้ว

ดังนั้น ที่เขามาก็คงมีเจตนาที่อยากจะซักไซ้เอาความงั้นเหรอ?

เฟิงยู่เหนียนไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จ้องมองเธอเท่านั้น

แต่เป็นหลิวเหนียนที่พูดตำหนิขึ้นมา“คุณเซิงเกอ นี่คุณทำเกินไปหรือเปล่า !”

ถึงจะหย่าร้างกันไปแล้ว แต่นั่นก็เป็นแม่สามีและน้องสามีนะ พวกเขาอาจจะเคยทำเรื่องไม่ดีมาก่อน แต่ก็ไม่ควรทรมานกันอย่างนี้หรือเปล่า ?

ชั่วขณะหนึ่งภาพความโอบอ้อมอารีของมู่จื่อหนิงก็สว่างวาบขึ้นมาในใจของเขา

เซิงเกอเหลือบมองเขา ไม่ได้โต้แย้งอะไร แล้วมองไปยังเฟิงยู่เหนียนอย่างสื่อความหมายไปแวบหนึ่ง

“คุณก็คิดแบบนี้เหรอ?”

เฟิงยู่เหนียนขมวดคิ้ว ริมฝีปากบางกำลังจะขยับ หลี่เฟยได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่ตรงประตู ปรี่เข้ามาแล้วกอดเขาเอาไว้ จากนั้นก็กล่าวโทษเซิงเกออย่างโกรธเคือง

“ลูก ลูกดูนังสารเลวทำร้ายน้องสาวลูก!แล้วยังทำลายข้าวของที่บ้านอีก !ลูกต้องเอาเธอเข้าคุกให้ได้ แม่จะให้เธอกินข้าวคุกไปจนตาย และสำนึกผิดในนั้นไปตลอดชีวิต!”

คิ้วที่ได้รูปของเฟิงยู่เหนียนขมวดกันแน่นมากขึ้นไปอีก

ทุกคนต่างพากันมองมาที่เขา ราวกับกำลังรอการตัดสินใจของเขา

เซิงเกอเองก็เช่นกัน

แต่เธอก็ยังคงสงบนิ่งไม่ไหวติง เตรียมพร้อมมาตรการรับมือกับการเข้าข้างอีกฝ่ายของเฟิงยู่เหนียนไว้แล้ว

หลี่เฟยก็เริ่มลำพองใจขึ้นมา ลูกชายสุดที่รักกลับมาแล้ว ลูกชายต้องช่วยเธออย่างแน่นอน!

เธอกำลังรอดูว่าผู้หญิงที่น่ารังเกียจอย่างเซิงเกอจะมีจุดจบยังไง!

ภายใต้สายตาที่ต่างความคิดของทุกคนที่จ้องมองมา ท่อนขาที่เรียวยาวของเฟิงยู่เหนียนเดินเข้าไปหาเซิงเกอสองก้าว

บอดี้การ์ดชุดดำเดินเข้ามายืนขวางตรงหน้าเซิงเกอ แต่ก็ถูกเซิงเกอดันตัวออก

เธอก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าเขาจะทำอะไร ?

ขาของเฟิงยู่เหนียนหยุดลง อยู่ห่างจากเซิงเกอ ไม่ถึงครึ่งเมตร

เขาถอนหายใจ ก้มศีรษะไปทางเซิงเกอเล็กน้อย

“ครั้งนี้พวกเขาวางแผนทำร้ายคุณก่อน คุณมาแก้แค้นเอาคืนตระกูลเฟิงก็สมควรแล้ว เพราะพวกเขาไม่รู้ความ ผมต้องขอโทษแทนพวกเขาด้วย”

ทันทีที่พูดจบ ทุกคนต่างก็พากันตกตะลึง!

เซิงเกอก็ตกอยู่ในความเงียบเช่นกัน

เธอคิดว่าเขาจะต้องโกรธ และจะต้องเข้าข้างอีกฝ่าย

แต่ไม่คิดมาก่อนว่าเขาไม่เพียงไม่กล่าวโทษการแก้แค้นนี้ของเธอ แต่กลับยังเป็นฝ่ายพูดขอโทษอีก ?

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเขามีเหตุผล มีความรับผิดชอบ เหมือนลูกผู้ชายคนหนึ่ง

แต่หลี่เฟยไม่ยอม

เธอคว้าตัวเฟิงยู่เหนียน แล้วเอะอะโวยวายขึ้นมาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“นี่แกเป็นลูกชายของฉันนะ!ทำไมแกไม่ช่วยฉัน ไปช่วยนังสารเลวนี่ทำไม!แกทนมองดูมันทำร้ายฉันกับน้องสาวแกได้งั้นเหรอ !ทำไมแกใจจืดใจดำได้ขนาดนี้ ?”

“ไม่รู้ล่ะ!ยังไงแกก็ต้องมีคำอธิบายให้ฉัน !ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดขาดกับไอ้ลูกเนรคุณและไร้หัวใจอย่างแก!”

เฟิงยู่เหนียนถูกเธอดึงทึ้ง ชุดสูทสีน้ำเงินเข้มที่ตัดเย็บอย่างประณีตยังคงภูมิฐานไร้ที่ติ

เขาไม่ขยับเคลื่อนไหวใดๆ ยอมให้เธอด่าว่าระบายอารมณ์อยู่อย่างนั้น

จนหลี่เฟยเห็นเขาไม่ไหวติง ก็โกรธจนปรี่เข้าไปหาอยากจะดึงทึ้งร่างของเซิงเกอ สายตาที่ดุร้ายของเขาก็มองไปยังเหล่าคนใช้ที่หลบซ่อนตัวและกำลังมองเหตุการณ์นี้อยู่

“คุณนายเสียสติขนาดนี้แล้ว ยังไม่รีบพากลับเข้าไปข้างในอีก แล้วตามหมอประจำครอบครัวมาดูด้วย ”

เมื่อได้รับคำสั่ง หลิวเหนียนจึงให้คนใช้รีบดำเนินการทันที พาตัวหลี่เฟยที่กำลังพล่ามด่าไม่หยุดเข้าไปในคฤหาสน์ทันที

และแบกร่างของเฟิงเซิงเซิงที่นอนสลบอยู่บนพื้นกลับไปที่ห้อง

ส่วนคนใช้ที่เหลือก็แยกย้ายกันไปทำความสะอาดเศษซากความเสียหายที่เกิดขึ้น

ที่คฤหาสน์หลังเก่าจึงเหลือเพียงเฟิงยู่เหนียนกับเซิงเกอและบอดี้การ์ดชุดดำอีกสิบคนที่เซิงเกอพามาด้วย

นัยน์ตาที่ดำขลับจ้องไปที่เข่าอันน่าสังเวชของเฟิงเซิงเซิง ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างผ่านเฟิงเซิงเซิง

ก่อนที่เขาจะมาได้ถามคนใช้มาแล้ว ว่าเหตุการณ์เรื่องเครื่องประดับในครั้งนั้นเป็นหลี่เฟยที่จงใจให้ร้ายเซิงเกอ

ตอนนั้นเขาทำงานอยู่ที่บริษัท และได้ยินเรื่องนี้ผ่านๆ แต่ไม่รู้รายละเอียด

ภายในใจของเฟิงยู่เหนียนถึงกับจุก

ดังนั้น ตลอดเวลาที่เซิงเกออยู่ตระกูลเฟิงเธอไม่เคยมีความสุขเลย จึงเลือกที่จะหย่างั้นเหรอ ?

ทันใดนั้นเบื้องหน้าก็ปรากฏภาพของร่างบางที่ดื้อรั้นกำลังคุกเข่าอยู่ท่ามกลางสายฝน เฟิงเซิงเซิงคุกเข่าแค่ครู่เดียว ยังบวมได้ขนาดนี้ แล้ววันนั้นเข่าของเธอจะบวมแค่ไหนกัน……

แต่เรื่องพวกนี้ หลังจากที่แต่งงานกันไปแล้วเธอไม่เคยเอามันมาพูดบ่นกับเขาเลย

“นี่ลูก?!ลูกได้ฟังที่แม่พูดไปหรือเปล่า ?”

หลี่เฟยเขย่าแขนของเขา ทำเอามโนภาพของเขาขาดหายไป

“ลูกอย่าลืม ว่าตอนนั้นพ่อของลูกได้ฝากฝังน้องกับแม่เอาไว้กับลูก ตอนนี้คุณท่านก็สิ้นแล้ว อย่าเพราะได้อำนาจของตระกูลเฟิงแล้ว ก็จะไม่สนใจแม่กับน้องว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง!”

ใช้ความน่าสงสารไม่ได้ งั้นก็ใช้คำสัญญาและความรับผิดชอบของลูกผู้ชายแล้วกัน หลี่เฟยไม่เชื่อว่าเขาจะยังปกป้องนังสารเลวคนนั้นได้อีก

เฟิงยู่เหนียนหันไปมองเธอ แต่กลับตอบไม่ตรงคำถาม“เมื่อก่อนแม่กับน้องรังแกเซิงเกอยังไงบ้าง ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิ?”

หลี่เฟยตะลึงงัน ไม่คิดว่าเขาจะมาสนใจเรื่องพวกนี้

“เรื่องมันตั้งนานมาแล้ว แกกับเธอก็หย่ากันไปแล้ว มีอะไรให้น่าพูดถึง ฉันก็เป็นแม่สามีเธอนะ อบรมสั่งสอนเธอนิดๆหน่อยๆจะเป็นไรไป ? นังสารเลวนั่นยังกล้าเอามาฟ้องแกอีกเหรอ ? ช่างเป็นผู้หญิงชั่วที่หน้าด้านและไร้ยางอายเสียจริง !”

ทันทีที่เธอพูดจบ ก็เห็นใบหน้าของเฟิงยู่เหนียนดำมืดสนิท เธอรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “ลูกรัก ดูแขนแม่สิช้ำไปหมดเลย แล้วยังน้องสาวที่บอบบางของเราอีก เราทนเห็นแม่กับน้องถูกรังแกแบบนี้ได้เหรอ ?”

“ได้ครับ”

มุมปากเฟิงยู่เหนียนยกหยัก แต่ดวงตากลับดำขลับ “ ผมรู้ว่าต้องทำยังไง ”

หลี่เฟยดีอกดีใจ มือที่กุมแขนของเขาก็กระชับแน่นขึ้น

“จริงเหรอ?!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!