ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 30

เฟิงยู่เหนียนตามตัวแม่บ้านมา

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณนายและคุณหนูจะถูกกักบริเวณ ไม่มีคำสั่งของผม ใครก็ห้ามปล่อยพวกเขาออกไปเด็ดขาด หากใครฝ่าฝืน ลงโทษตามกฎขั้นสูงสุดของคฤหาสน์หลังเก่า”

“ห๊า?”

จะจัดการนังสารเลวเซิงเกอนั่นไม่ใช่เหรอ?

หลี่เฟยโกรธจัด ชี้หน้าเฟิงยู่เหนียนแล้วก่นด่า ทำไมถึงได้มีลูกเนรคุณอย่างนี้ ใจจืดใจดำ แล้วยังอกตัญญูอีก……

เฟิงยู่เหนียนปล่อยให้เธอด่าว่าอยู่อย่างนั้น ไม่ได้พูดอะไรอีก เดินออกจากห้องไปด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

แล้วตามตัวหลิวเหนียนมา

“ของที่ถูกทำลายให้คนไปหาซื้อมาใหม่โดยเร็วที่สุด และให้คนคอยเฝ้าจับตามองที่คฤหาสน์หลังเก่านี้ให้ดี โทรศัพท์ทุกสายต้องได้รับการตรวจสอบ และรีบรายงานฉันทันที”

“ครับ”หลิวเหนียนเหลือบมองเขาด้วยใบหน้าที่ลังเล“……แต่บอสครับ แบบนี้จะโหดร้ายกับคุณนายและคุณหนูมากไปหรือเปล่าครับ ? เรื่องนี้คุณเองเซิงเกอก็ไม่ไว้หน้ากันเลย”

เมื่อคิดถึงตอนที่เข้ามา เห็นสภาพที่น่าเวทนาของหลี่เฟยกับเฟิงเซิงเซิง หลิวเหนียนก็ทนไม่ได้ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมบอสต้องคอยแต่จะปกป้องผู้หญิงอย่างเซิงเกอด้วย?

และยังทนเธอที่มาอาละวาดจนคฤหาสน์หลังเก่ามีสภาพที่พังยับเยินแบบนี้

เฟิงยู่เหนียนไม่ได้ตะเพิดไล่เขาด้วยความโกรธ ถามเสียงเรียบว่า“หากมีคนกลั่นแกล้งรังแกนายสารพัด และเพราะนายต้องทนทุกข์ทรมาน นายจะให้อภัยเขาไหม?”

“ไม่แน่นอนครับ!”

หลิวเหนียนพูดอย่างหนักแน่น“ผมต้องหาโอกาสแล้วเอาคืนให้สาสม ”

ทันทีที่เขาพูดจบ ก็ตะลึงงันอยู่กับที่

เฟิงยู่เหนียนไม่ได้พูดอะไรอีก ขาที่เรียวยาวก้าวออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง

……

หลังจากที่คิดบัญชีเสร็จแล้วเดินทางกลับ เซิงเกอรู้สึกอารมณ์ดีมาก

ของขวัญของพี่ใหญ่และพี่รองได้ถูกส่งมาถึง

เธอแทบทนรอไม่ไหวที่จะเปิดกล่องของขวัญเหล่านั้น ให้ตายก็ไม่คิดว่าของข้างในจะเป็น……

เครื่องบินเล็กแบบทำมือ !

บ้าไปแล้ว!

พี่ใหญ่ลืมไปแล้วหรือเปล่า ว่าเธอไม่ใช่เด็กน้อยอายุสิบห้าแล้ว!

เสียแรงที่เธออุตส่าห์เฝ้ารอมาตั้งนาน

ลู่ฮั๋วที่อยู่ข้างๆหัวเราะจนตัวโยน เมื่อเห็นใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ ก็กระแอมไอแล้วพูดเอาใจ“ แม่สาวน้อย นี่มันเครื่องบินรุ่นพิเศษฝีมือพี่ใหญ่ มีเงินก็หาซื้อไม่ได้นะ มีอยู่ลำเดียว ไม่มีลำที่สอง มันคือความตั้งใจเชียวนะ!”

เซิงเกอกลอกตาใส่เขา

ยังดีที่ของขวัญของพี่รองนั้นยังถือว่าใช้ได้ช่วยลดความโกรธที่มีต่อพี่ใหญ่ลงได้บ้าง

เป็นแหวนมรกตที่วิจิตรบรรจง มีกลไกซ่อนอยู่ภายใน ปล่อยเข็มเงินออกมาได้ สามารถใช้เป็นอาวุธในยามจำเป็น

เธอสวมแหวนไปที่นิ้ว ส่วนเครื่องบินเล็กลำนั้น ก็เอาไปวางไว้ที่มุมห้องของห้องหนังสือเพื่อให้ฝุ่นเกาะ

จากนั้น ก็อาบน้ำแล้วเข้านอน

วันรุ่งขึ้น เซิงเกอไปทำงานที่บริษัทตามปรกติ

ทันทีที่เปิดประตูห้องทำงาน ก็เห็นร่างที่เพรียวบางไม่คุ้นตาของใครบางคนยืนหันหลังอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของเธอ

หญิงสาวคนนั้นได้ยินเสียงเปิดประตู ก็หันมาแล้วมองสบตาเธอ

ใบหน้ารูปไข่ขนาดเท่าฝ่ามือ ดวงคู่งามเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ขณะที่มองมายังเธอ จากดูถูกเหยียดหยามก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นอิจฉาและเกลียดชัง

ผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ราวกับจะเป็นปฏิปักษ์กับเธออย่างมาก?

ไม่รอให้เซิงเกอได้พูดอะไร ผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ก็พูดขึ้นมาก่อน “ก่อนหน้านี้เสี่ยยู่ที่อยู่แผนกต้อนรับได้บอกฉันเรื่องของเธอ ฉันยังไม่เชื่อ ตอนนี้มาดู หน้าตาช่างเหมือนนังจิ้งจอกจริงๆ”

เซิงเกอรู้สึกประหลาดใจ

เดินเลี่ยงเธอแล้วไปนั่งลงที่เก้าอี้ ออกปากไล่“ คุณผู้หญิง ฉันจะทำงาน เชิญออกไปค่ะ ”

ผู้หญิงคนนั้นไม่สนใจคำพูดเธอ พูดเตือนเสียงเย็นชาว่า“เธออยากจะทำงานที่angleไม่มีปัญหา แต่อยู่ให้ห่างลู่ฮั๋วเอาไว้ หากฉันรู้ว่าเธอไปยั่วยวนเขา หรือคิดไม่ซื่อกับเขา ฉันเอาเธอตายแน่!”

“ลู่ฮั๋ว?”

เซิงเกอรู้สึกสนุกขึ้นมา “คุณชอบเขาเหรอ?”

ผู้หญิงคนนั้นยกมือกอดอก เค้นเสียงในลำคอ“ ฉันเป็นคู่หมั้นของเขา”

คู่หมั้น?

เซิงเกอยังจัดตารางงานกิจกรรมของศิลปินในช่วงนี้ที่ห้องทำงาน ใบหน้าข่งซูยิ้มแย้ม เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา การประพฤติปฏิบัติตัวนี้เป็นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

“ผอ.เซิง คุณได้ยินเรื่องที่เชิ่งซื่ิอกรุ๊ปกำลังจะลงทุนเงินก้อนโตเพื่อทำละครเรื่องใหม่หรือยังคะ ?”

เซิงเกอไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ตั้งใจดูตารางงาน “แล้วยังไง ?”

เธอหัวเราะแหะๆอย่างเป็นกันเอง ยื่นเอกสารไปที่โต๊ะของเซิงเกออย่างมีมารยาท“เพื่อโอกาสของศิลปินในบริษัทเราฉันหาช่องทางที่จะได้ไปพูดคุยเจรจากับผู้ดูแลรับผิดชอบของเชิ่งซื่ิอแล้ว แต่ทางเชิ่งซื่ิอเขาอยากให้ ผอ.เซิงไปคุยด้วยตัวเอง”

เซิงเกอก็ถึงได้เงยหน้าขึ้น เหลือบมองเธออย่างเย็นชา

ข่งซูตกใจกลัวกับสายตาอันเย็นเยือกของเธอที่มองมาราวกับจะทะลุทะลวงไปที่หัวใจ ทำเอาไหวสั่นเล็กน้อย

เซิงเกอแสยะยิ้ม“นี่มันเป็นโอกาสของการได้เปอร์เซ็นต์เพิ่ม ใครเป็นคนคุยคนนั้นก็ไป ”

ข่งซูรีบประจบประแจง

“ฉันก็อยากไปเองเหมือนกัน แต่ทางเชิ่งซื่ิอบอกว่าตำแหน่งของฉันเล็กเกินไป มีเพียงตำแหน่งของผู้อำนวยการเท่านั้นที่เขาจะยอมคุยด้วย ส่วนเรื่องเปอร์เซ็นต์มันเรื่องเล็ก เพราะยังไงก็เป็นการสร้างโอกาสให้กับศิลปินของบริษัท ก็เพื่อบริษัททั้งนั้น หากได้โอกาสนี้มา ใครไปคุยก็ต่างเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น ”

เซิงเกอเฝ้าสังเกตอาการของเธออยู่ตลอด พูดอย่างประหลาดใจว่า“หัวหน้าข่ง นี่เป็นครั้งแรกที่คุณให้เกียรติฉันแบบนี้”

ข่งซูตะลึงงัน แล้วยิ้มกว้างอย่างสดใสมากขึ้น

“ก็เพราะเห็นความสามารถของ ผอ. แล้วไงคะ ไม่กล้าดันทุรังอีก แต่ว่า การได้พบปะพูดคุยกับผู้ดูแลรับผิดชอบของเชิ่งซื่ิอในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก คุณไม่เก็บไปพิจารณาหน่อยเหรอคะ?”

“ไปสิ ต้องไปอยู่แล้ว ”

เซิงเกอยิ้มเม้มปาก

ไม่ไปแล้วจะรู้ได้ยังว่าเธอต้องการจะเล่นปาหี่อะไร

ในตอนค่ำ พอถึงเวลาเลิกงาน ข่งซูมารับเซิงเกออย่างเอาอกเอาใจและเป็นกันเอง พาเธอไปร่วมทานอาหารค่ำกับเชิ่งซื่ิอ

เมื่อมาถึงที่ห้องรับรองส่วนตัวที่หรูหรา ชายวัยกลางคนที่อ้วนลงพุงสามคนก็ลุกขึ้นอย่างสุภาพ ในตอนที่มองมายังเซิงเกอ ดวงตาก็เป็นประกาย

ข่งซูยิ้มและเป็นฝ่ายพูดแนะนำตัวก่อน“ คนนี้คือผู้อำนวยการคนสวยของangleเรา คุณเซิงเกอ”

“ผอ.ค่ะ สามท่านนี้คือกรรมการหวาง กรรมการหลิวและกรรมการจาง”

“เป็นกรรมการทุกท่านเลยเหรอคะ ?”

เซิงเกอกะพริบตาปริบๆอย่างใสซื่อ“ ทำไมไม่ใช่ผู้ที่รับผิดชอบงานฝ่ายบริหารมาพูดคุยล่ะคะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!