ริมฝีปากบางของเฟิงยู่เหนียนเม้มกันแน่น เดินออกไปจากร้านอาหารโดยไม่พูดอะไรสักคำ
หลิวเหนียนไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงโทรไปหาลูกน้องแล้วให้ปล่อยตัวคนไป
ข่งซูกับกรรมการจางที่ถูกมัดเอาไว้ในห้องมืดตัวสั่นงันงก
เธอไม่คิดว่าเซิงเกอจะรู้จักกับหลิวเหนียนผู้ยิ่งใหญ่แบบนี้ด้วย ความอิจฉาที่มีในใจต่อเซิงเกอก็ยิ่งมีมากขึ้น
เด็กกำพร้าที่เติบโตมาในสถานสงเคราะห์ ประวัติตรงช่องของสถานะ เหมือนจะเขียนเอาไว้ว่าหย่าร้าง
ผู้หญิงแบบนี้ มีค่าอะไรให้ผู้ชายที่เพียบพร้อมจำนวนไม่น้อยในเมืองนี้ต่างพร้อมใจกันมาช่วยเหลือเธอ
แต่เมื่อเทียบกับอิจฉาแล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกกลัวมากกว่า
กลัวกับการกระทำของเฟิงยู่เหนียนว่าจะจัดการกับพวกเขายังไง
มีเสียงเคร้งที่คมชัดดังขึ้น ไฟถูกเปิด แสงไฟที่สว่างจ้าอย่างฉับพลันทำเอาทั้งสองคนตาเกือบบอด
ทั้งสองคนตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว ยังไม่ทันได้เอ่ยปากร้องขอชีวิต ก็เห็นลูกน้องของหลิวเหนียนมาแก้มัดให้พวกเขา?!
จากนั้นคนกลุ่มนั้นก็จากไป
ไม่แม้แต่จะหันมองพวกเขา
ทั้งสองคนมองหน้ากัน
นี่มันอะไรกัน ?
ปล่อยตัวพวกเขาไปง่ายๆแบบนี้เหรอ?
กรรมการจางรีบโทรหากรรมการหวางทันทีเพื่อถามไถ่สถานการณ์ ข่งซูก็รอฟังอยู่ข้างๆ
แต่โทรศัพท์ปิดเครื่อง
โทรยังไงก็โทรไม่ติด
ไม่มีทางเลือก ทั้งสองจึงตัดสินใจแยกย้ายกันไปก่อน ออกไปจากสถานที่สับปะรังเคนี้ เผื่อเฟิงยู่เหนียนเปลี่ยนใจ แล้ววกกลับมาจับตัวพวกเขาอีก
หลังจากที่กลับไป ข่งซูก็โทรหาฟู่อิน และรู้ข่าวจากฟู่อินว่ากรรมการหวางกับกรรมการหลิวถูกจับกุมตัวไปแล้ว
ฟู่อินถาม“นี่เธอทำงานยังไง ? เกิดเรื่องผิดพลาดแบบนี้ขึ้นได้ยังไง?”
“บทสนทนาของฉันกับกรรมการจางถูกประธานของเฟิงซื่อกรุ๊ปได้ยินเข้า เขาจับมัดพวกเราเอาไว้ ทางฝั่งกรรมการหวางก็น่าจะเป็นประธานเฟิงที่เอาตัวพวกเขาส่งตำรวจ ”
ข่งซูคาดเดา แต่ในใจก็ยังลังเลไม่แน่ใจ พูดต่ออีกว่า“แต่ฉันยังคิดไม่ออก เขาส่งพวกกรรมการหวางไปให้กับทางตำรวจแล้ว ทำไมถึงปล่อยฉันกับกรรมการจางได้ ?”
ฟู่อินเงียบไปครู่หนึ่ง
“เรื่องนี้ฉันจะให้คนไปตรวจสอบอย่างละเอียดเอง เธอก็คอยจับตาดูผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ให้ดี”
“ได้ค่ะ”
วางสายไปแล้วข่งซูก็หันไปกอดผู้ชายที่อยู่ข้างๆ
ชายชาวเมดิเตอร์เรเนียน อายุประมาณเลขสี่กว่าๆ กอดเธอแน่นไว้ในอ้อมแขนอย่างหื่นกาม“ ผมว่า ผอ. คนใหม่ที่เข้ามาเธอก็เป็นคนที่ใช้ได้คนหนึ่งเลยนะ คุณทนเธอไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”
เมื่อข่งซูได้ยิน ก็ผลักเขาออกอย่างแรง
“นี่คุณยังกล้าพูดอีกเหรอ ก่อนหน้านั้นบอกฉันว่าจะสนับสนุนฉันให้ได้เลื่อนตำแหน่ง แต่ก็ถูกผู้หญิงคนนั้นแย่งไปจนได้ หากไม่ใช่เพราะเธอหน้าตาดี คุณจะสนใจเรื่องพวกนี้เหรอ?”
เมื่อคิดขึ้นมาได้ เธอก็ขุดคุ้ยเรื่องเก่ามาพูด“แล้วยังเรื่องรถของฉันอีก คุณให้รถ BMW มือสองกับฉัน สำหรับคุณฉันมีค่าแค่นั้นเหรอ?”
ชายหนุ่มพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ทำได้เพียงพูดปลอบและพูดเอาใจเธอ “พูดอะไรแบบนั้น คุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดสำหรับผม เพราะก่อนหน้านั้นการเงินของผมขาดสภาพคล่องนิดหน่อย ไว้มีเวลา ผมจะพาคุณไปเลือกรถคันใหม่ที่โชว์รูมด้วยตัวเองนะ ”
ข่งซูเค้นเสียงหึในลำคอ แสดงออกว่าไม่พอใจ
“ในเมื่อคุณอยากได้ตำแหน่ง ผอ. มากขนาดนี้ พรุ่งนี้ในงานประชุมผมจะหาเรื่องเธอ ถึงเวลาคุณก็ช่วยพูดเสริมสักคำสองคำ เธอที่เพิ่งจะเข้ามาใหม่ คงไม่รู้วิธีการรับมือ ต้องขายหน้าในที่สาธารณะอย่างแน่นอน ทีนี้ตำแหน่ง ผอ. ก็คงหนีไม่พ้นคุณแล้ว?”
ข่งซูดีใจมาก“ ตกลงกันแล้วนะ”
ผู้ชายพยักหน้าให้ แววตาปรารถนาในกามารมณ์“ที่รักผมช่วยคุณขนาดนี้แล้ว ต้องมีรางวัลให้ผมหรือเปล่า?”
ใบหน้าข่งซูแดงก่ำ เอียงอาย“คนบ้า !”
เธอเหลือบมองไปยังที่นั่งทางฝั่งกรรมการอย่างไม่ตั้งใจ ก็พบว่าไม่มีร่างของบุคคลที่คุ้นเคย อีกทั้ง……การประชุมในครั้งนี้ก็ไม่ได้จัดที่นั่งเผื่อเขาด้วย ที่นั่งของกรรมการนั้นถูกจับจองจนเต็มแล้ว
นี่มันอะไรกัน? !
เมื่อคืนก็ยังดีๆอยู่เลย เช้านี้ก็ออกจากบ้านเพื่อไปทำงานพร้อมกัน
ข่งซูคิดยังไงก็คิดไม่ตก หันหน้ามาก็เจอเข้ากับเซิงเกอที่กำลังมองมาพอดีเซิงเกอมุมปากยกหยักอย่างมีเลศนัย แล้วเบนสายตาออก
รอยยิ้มนั้นดูเย็นชาและมีเสน่ห์ แต่ในสายตาของข่งซูคือการท้าทาย
สัญชาตญาณบอกข่งซูว่า เรื่องนี้เซิงเกอต้องมีส่วนรู้เห็นเป็นแน่
ภายในใจอึดอัดมากว่าครึ่งค่อนวัน เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป ถามคนที่อยู่ข้างๆเสียงเบาว่า“เธอรู้ไหมว่าทำไมวันนี้กรรมการหลินหงถึงไม่เข้าร่วมประชุมด้วย?”
สีหน้าของคนคนนั้นแย่ลงทันที รีบโบกมือให้ “ ฉันไม่รู้จักกรรมการหลินหงอะไรนั้น อย่ามาถามฉันเลย”
หืม?
ปฏิกิริยานี้……ทำไมเธอถึงรู้สึกว่ามันแปลกๆ?
ข่งซูไม่เชื่อในคำพูดนี้ หันมองไปยังซ้ายมือ แต่คนทางซ้ายมือไม่รอให้เธอได้ถาม ก็รีบโบกมือให้ทันที“ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
ข่งซูมึนงงสับสนหนักเข้าไปอีก
ที่ประชุม ถึงคราวที่เซิงเกอได้พูด“ เร็วๆนี้ละครเรื่องใหม่ของเชิ่งซื่ิอบทของนักแสดงนำชาย ลูกผู้ชายตัวจริง จากการที่ได้หารือกันมาเราจะให้ศิลปินของบริษัทเรา โจ๋วซิงโฮ๋ และกู้ซื่อร่วมแสดงเป็นพระเอกและพระรอง……”
“เดี๋ยวก่อน!”
จู่ๆข่งซูก็ยกมือขึ้นขัดจังหวะ ตั้งคำถามว่า“นี่มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ? ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลย ? เมื่อคืนที่เราได้พูดคุยกันมันคือ……”
เซิงเกอพูดต่อประโยคของเธอ “เมื่อวานเราคุยกันเรื่องอะไร? แล้วคุยกับใคร ?”
“ก็……”
ข่งซูสะอึก เมื่อคืนอยู่ดีๆกรรมการหวางกับกรรมการหลิวก็ถูกจับตัว หากเธอพูดเรื่องนี้ออกไป มันก็เท่ากับยอมรับกลายๆว่าได้ทำเรื่องไม่ดีเอาไว้ไม่ใช่เหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...