ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 34

เธอครุ่นคิด รู้สึกเหมือนเซิงเกอกำลังจะวางกับดักเธออยู่ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะมองข้ามการตอบคำถามนี้ไป

ถามคำถามต่อว่า“ผอ.เซิงหารือกับเชิ่งซื่ิอเรื่องนักแสดงตั้งแต่เมื่อไรกัน ? ทำไมเรื่องนี้ฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อนคะ ?”

“หัวหน้าข่งช่างยิ่งใหญ่เสียจริง ฉันทำอะไรต้องรายงานคุณก่อนเหรอคะ?”

เซิงเกอยิ้มเยาะ ในขณะที่มองข่งซูดวงตาก็เย็นชา“ คุณเป็นใครคะ ?”

ข่งซูตะลึงงัน ไม่คิดว่าเธอจะกล้าพูดตอกหน้าเขาอย่างไม่ไว้หน้าคนทั้งบริษัทแบบนี้

ตอนนี้สายตาของทุกคนต่างพากันจับจ้องมาที่เธออย่างพร้อมเพรียง รอดูความขายหน้าของเธอ

เธอขบริมฝีปากแน่น ปรับอารมณ์ให้เย็นลง ทำทีราวกับเจ็บปวด เคารพนอบน้อม“ขอโทษค่ะ ฉันคิดเองเออเองไปคนเดียว คิดว่า ผอ. จะปรึกษาหารือกับพวกเราที่ร่วมทำงานด้วยกัน”

เธอที่บอบบางและหดตัวลีบ เผชิญหน้ากับเซิงเกอที่จองหองและหยิ่งผยอง

ช่างเหมือนผู้ใหญ่กลั่นแกล้งผู้น้อยเสียจริง

ภายในใจข่งซูรู้สึกลำพองใจ

อยากจะมาสู้กับเธองั้นเหรอ ?

เด็กใหม่อย่างเซิงเกอที่ไม่รู้กฎระเบียบยังขาดประสบการณ์อีกเยอะ!

ลู่ฮั๋วใช้มือเคาะไปที่โต๊ะประชุมเบาๆ ใบหน้าไม่พอใจเล็กน้อย “ผู้อำนวยการย่อมมีอำนาจในการตัดสินใจทำไมต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย”

“ค่ะ ประธานลู่”

ข่งซูรู้สึกอับอาย ทำได้เพียงนั่งลงอย่างไม่พอใจ

เซิงเกอกลับจ้องมองเธอ และพูดต่อว่า “แต่ในเมื่อหัวหน้าข่งอุตส่าห์ถามแล้ว ฉันจะตอบให้ เมื่อวานตอนเช้า ฉันกับผู้ดูแลรับผิดชอบของเชิ่งซื่ิอได้ตัดสินใจคัดเลือกตัวนักแสดงกันแล้ว”

อะไรนะ?!

ม่านตาข่งซูเบิกกว้าง

เมื่อวานตอนบ่ายตัวเองไปคุยเรื่องเชิ่งซื่ิอกับเธอ แต่เธอกลับได้คุยเรื่องนี้จบไปแล้วตั้งแต่ในตอนเช้า……

ในเมื่อคุยทุกอย่างจบไปแล้ว เธอยังจะตอบตกลงไปกินอาหารมื้อค่ำนั้นอีกทำไม? !

ข่งซูจ้องไปที่เธออย่างไม่เชื่อสายตา ท่าทีราวกับเห็นผียังไงอย่างนั้น

นี่เธอจงใจอย่างนั้นเหรอ?

กรรมการหวางกับกรรมการหลิวถูกจับตัวไปก็เป็นฝีมือเธอเหรอ?

มองไปยังใบหน้าที่สวยงามอย่างไร้ที่ติของเซิงเกอ เธอก็เสียวสันหลังวาบ

แต่หลังจากนั้นสักพัก เธอก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้

หญิงสาวที่ประสบการณ์น้อยอย่างเธอจะมีความคิดที่ลึกซึ้งและเล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราวแบบนี้ได้ยังไง ?

ใช่!

บังเอิญ ต้องเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า!

ใต้โต๊ะตัวยาว เล็บยาวๆของข่งซูจิกลงบนฝ่ามืออย่างแรง จากนั้นอารมณ์ก็ถึงได้ค่อยๆสงบลง

เพราะข่งซูไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรอีก การประชุมก็จึงดำเนินไปต่อ

เซิงเกอยังคงรายงานเรื่องแผนงานในอนาคตต่อไป

“สำหรับแผนงานโดยรวม ตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในส่วนของงานโฆษณาและวาไรตี้เกมโชว์ที่ได้มีการพูดคุยเจรจากับศิลปินไว้ก่อนหน้ายังคงดำเนินการต่อไปตามปรกติ”

พูดจบ ไม่มีใครคัดค้านอะไร

เซิงเกอยังคงพูดต่อว่า“และสุดท้ายกลุ่มเด็กฝึกที่บริษัทได้ทำการฝึกอบรมนี้ เด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังเด็กและไม่มีประสบการณ์ ฉันคิดว่าให้บริษัทลงทุนเปิดเวทีเพื่อแสดงความสามารถ และเชิญบริษัทอื่นๆเข้ามามีส่วนร่วม ในร้อยคนคัดตัวมาเจ็ดคนแล้วเดบิวต์เป็นศิลปินหน้าใหม่ อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้เด็กฝึกของบริษัทได้มีประสบการณ์ในตรงนี้ด้วย ”

“ เดี๋ยวก่อน ฉันมีข้อโต้แย้ง !”

ข่งซูยกมือแล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้ง“ผอ.เซิง ทำรายการโชว์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ข้อเสนอนี้ดูเหมือนจะอยู่นอกเหนือขอบเขตงานของคุณ นอกจากนี้รายการโชว์แบบนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมในประเทศของเรา หากบริษัทได้รับความสูญเสียเพราะเรื่องนี้……”

ในขณะที่เธอกำลังพูด ก็เห็นเซิงเกอขมวดคิ้ว นิ้วมือที่เรียวยาวปัดป่ายไปมาที่จมูก

“ตอนเที่ยงคุณกินกระเทียมมากไปหรือเปล่า ? ทำไมกลิ่นถึงได้แรงแบบนี้ ”

สีหน้าข่งซูมึนงง “ไม่มีนะคะ ”

“ไม่มีเหรอ? ”เซิงเกอหัวเราะ“แล้วทำไมคุณถึงชอบทำเนียนแบบนี้อยู่เรื่อย ? อยากจะมีตัวตนในที่ประชุมโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม”

พรืด——

พนักงานหลายคนด้านล่างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา

พนักงานที่นั่งใกล้กับข่งซูก็พากันเอามือปิดจมูกอย่างไม่รู้ตัว และถอยห่างจากเธออย่างเงียบๆ

ไม่มีการก่อกวนของข่งซู การประชุมในครึ่งหลังดำเนินไปอย่างราบรื่น

หลังจากที่ลู่ฮั๋วกล่าวปิดการประชุม ก็เดินออกไปพร้อมกับฮัวหยุนก่อน

และคนอื่นๆก็พากันทยอยออกจากห้องประชุมตามๆกัน

เซิงเกอเก็บของและกำลังจะออกไป แฟ้มเอกสารบนโต๊ะจู่ๆก็ถูกมือของผู้หญิงที่ทาเล็บสีแดงกดมันเอาไว้

ข่งซูยิ้มและพูดว่า“ฉันยังมีเรื่องที่อยากจะถาม ผอ.เซิง คุณค่อยไปทีหลังก็ได้ ”

เซิงเกอไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีปฏิเสธเช่นกัน

จนทุกคนในห้องประชุมออกไปกันจนเกือบจะหมดแล้ว

ใบหน้าข่งซูมืดมน ถามเสียงเข้ม“พูดมาตามตรง ทำไมหลินหงถึงไม่เข้าประชุมด้วย ? เขาไปไหน ? เธอทำอะไรอีกหรือเปล่า?”

“หลินหงเหรอ เขาจะไม่กลับมาที่บริษัทอีกแล้ว”เซิงเกอช้อนตาขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน

“อะไรนะ?!”

ข่งซูเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ สองมือจับไปที่แขนของเธอแน่นแล้วเขย่าไปมา“ เขาถูกคณะกรรมการบริษัทไล่ออกแล้วเหรอ ? ฝีมือเธอใช่ไหม ? เธอทำแบบนี้ทำไม?”

เมื่อคืนยังพูดคุยหารือกับเธออยู่เลยว่าวันนี้จะมาจัดการกับนังสารเลวคนนี้ยังไง จู่ๆก็ถูกไล่ออกโดยไม่มีคำเตือนใดๆ ?

เธอไม่เชื่อ!

เซิงเกอขมวดคิ้ว ตีไปที่มือของเธอด้วยความรังเกียจ “ เพราะเขาเป็นผู้ต้องสงสัยในข้อหายักยอกทรัพย์ และยังมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับพนักงานหญิงของบริษัท ถูกบริษัทไล่ออกแล้วส่งตัวไปให้กับทางตำรวจ ถูกตัดสินโทษก็น่าจะต้องจำคุกสิบปีได้ ”

ขณะที่เธอพูด ก็หยิบทิชชูเปียกออกมา แล้วเช็ดไปยังแขนที่ถูกข่งซูสัมผัสเมื่อครู่อย่างไม่รีบไม่ร้อน จากนั้นก็เช็ดไปที่แฟ้มเอกสาร

พูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า“นี่เป็นความลับ ที่บริษัทนอกจากฉันแล้วไม่มีใครกล้าบอกเธอ เห็นแก่ที่เคยทำงานด้วยกันมาสองสามวัน ฉันยังพอมีน้ำใจอยู่ใช่ไหม?”

เมื่อข่งซูได้ยินคำพูดนี้ ก็ถอยห่างออกไปอย่างไม่อยากเชื่อในทันที รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย“เพราะฉะนั้นเมื่อคืน……เธอรู้ทุกอย่าง ? เธอจงใจเข้าไปในกับดักของฉัน?”

เซิงเกอไม่ตอบ เดินไปที่หัวโต๊ะของห้องประชุมเมื่อครู่

ในตอนที่นั่ง ขาที่เรียวยาวยกขึ้นไขว่ห้าง รูปร่างที่สวยงามปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนไร้ที่ติ

ตำแหน่งที่นั่งอยู่ต่ำกว่าข่งซูเล็กน้อย แต่ความสง่างามนั้นโดดเด่นอย่างมาก และทิ้งห่างกับข่งซูไปหลายเท่าตัว

ริมฝีปากเธอยกหยัก และพูดว่า“ข่งซู เธอคิดถึงหลินหงขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้น ก็ไปอยู่กับเขาเถอะ ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!