“ไอ้ห่า!แกมันปีศาจชัด ๆ”
ฟู่อินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นังสารเลวคนนี้ริอ่านยั่วลู่ฮั๋วต่อหน้าคู่หมั้นอย่างฉันเชียวหรือ!
เพื่อจับลู่ฮั๋วมาครอบครอง เธอสลัดความคุ้นชินในเมือง S แล้วตามเขามาที่เมืองฟาง ซึ่งตอนนั้นเธอใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนและความทุ่มเทไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ จึงจะได้หมั้นหมายกับเขาในที่สุด
ความรักที่เธอมีต่อเขา ผู้หญิงบนโลกนี้คงมีไม่เท่าเธออีกแล้ว
ทว่าลู่ฮั๋วมักจะบ่ายเบี่ยงการพบหน้ากับเธอทุกครั้ง ให้ฮัวหยุนใช้เหตุผลร้อยแปดปฏิเสธเธอ ครั้งนี้ก็ยังคงอ้างว่ายุ่งอยู่ แต่สิ่งที่เขาเรียกว่ายุ่งคือการกินข้าวกับนังสารเลวคนนี้หรือ?!
ฟู่อินยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ความโหดร้ายปรากฏบนใบหน้าที่แต่งได้อย่างประณีต เธอจ้องเขม็งเซิงเกอ ง้างมือขึ้นเตรียมพร้อมที่จะตบเต็มกำลัง
เซิงเกอไม่ขยับ ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
จากนั้น
ฟู่อินยังไม่ตบไปโดนแม้แต่เส้นผมของเซิงเกอก็ถูกจับไว้
ฮัวหยุนจับข้อมือเธอไว้ กล่าวเสียงเข้มขรึมว่า“คุณฟู่ ที่นี่คือangleนะครับ ไม่ใช่สถานที่ตบตีกัน ขอให้คุณสำรวมด้วยครับ”
ฟู่อินอยากชักมือกลับ ทว่าแรงของเธอมีหรือจะต้านแรงของฮัวหยุนไหว
เธอกล่าวด้วยความเดือดดาล“คุณปล่อยนะ คนหน้าไม่อายอย่างมัน ฉันอยากตบก็จะตบ ถ้าคุณขวางอีก ฉันจะจัดการคุณด้วยเลย”
ใบหน้าฮัวหยุนค่อย ๆ มืดครึ้มขึ้นมา ยังคงไม่ปล่อยมือ“คุณฟู่ครับ ประธานลู่อยู่ข้างใน คุณอยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่หรือครับ หากท่านประธานออกมาก็จะเห็นคุณในสภาพผู้หญิงนิสัยร้ายนะครับ?”
ผู้หญิงนิสัยร้าย?!
เธอเป็นถึงคุณหนูรองแห่งฟู่ซื่อกรุ๊ปในเมืองS เป็นคุณหนูที่เพียบพร้อมตั้งแต่ลืมตาดูโลก เธอจะทำลายภาพลักษณ์ของตัวเองต่อหน้าลู่ฮั๋วได้อย่างไร
เห็นเธอค่อย ๆ ได้สติกลับคืนมา เพลิงโทสะก็ดับวูบไป ฮัวหยุนจึงปล่อยมือ
เซิงเกอเห็นอีกฝ่ายโกรธ ทว่ากลับสามารถอดกลั้นไว้ได้ จึงอดหัวเราะเยาะไม่ได้
“ได้ยินมาว่า คุณหนูรองฟู่เป็นคนชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ทุกเรื่อง” เธอหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า พูดต่อไปว่า “วันนี้ได้เห็นกับตา แต่ทำตัวเป็นเต่าหัวหด ไม่สมคำร่ำลือเลย”
“แก”
ฟู่อินโกรธแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ข่มอารมณ์อยากฉีกกระชากอีกฝ่ายไว้ สุดท้ายได้แต่มองเธอเข้าลิฟต์อย่างสำราญใจ และหายลับไปจากสายตา
ยังคงอารมณ์เสียเช่นเดิม
นังสารเลวนี้ทำไมถึงกล้าท้าทายเธอแบบไม่ยำเกรงอะไรเลย?!
ถ้าฆ่านังสารเลวคนนี้ไม่ได้ เธอก็จะไม่ใช้นามสกุลฟู่!
เมื่อความแค้นบังหน้า เธอปรับอารมณ์ให้คงที่เสร็จแล้วก็มีชื่อคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาบนสมอง
ฟู่อินไปที่โรงพัก และขอเข้าพบผู้หญิงคนหนึ่ง
สักพัก ผู้หญิงสวมชุดนักโทษสีน้ำเงิน เส้นผมรุงรัง ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด ถูกตำรวจพามายังห้องเยี่ยมญาติ
แม้จะมีกระจกขวางทัศนียภาพ ทว่าฟู่อินก็ยังคงสะดุ้งตกใจ บังจมูกด้วยจิตใต้สำนึก กล่าวด้วยน้ำเสียงรังเกียจว่า “ข่งซู แค่ไม่กี่วัน เธอก็มอมแมมขนาดนี้แล้วเหรอ?”
ข่งซูเลียริมฝีปากอันแห้งแตก จ้องเธอด้วยความเคียดแค้น“ถ้าแกไม่รีบตัดความสัมพันธ์กับฉัน ฉันจะกลายเป็นแบบนี้เหรอ?”
สองวันก่อนข่งซูขอร้องให้ตำรวจติดต่อฟู่อินให้มาประกันตัวเธอ ทว่าฟู่อินไม่เพียงแต่ปฏิเสธการเข้าพบเธอ ซ้ำร้ายยังให้เธอรับเคราะห์เป็นผู้บงการเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้นยังยัดเงินให้ตัดสินคดีเธอโดยด่วนอีกต่างหาก
พรุ่งนี้เธอก็ต้องย้ายเข้าเรือนจำแล้ว ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีโอกาสเห็นดวงตะวันอีกไหม
เดิมทีเธอคิดว่าลู่เซิงเกอคือศัตรูตัวฉกาจของเธอ ทว่าความจริงแล้วฟู่อินถึงจะเป็นปีศาจที่ดันเธอลงนรก
ฟู่อินขมวดคิ้วมุ่น ยังคงใช้นิ้วปิดจมูก ซึ่งมีกระจกกั้นไว้สองชั้น ใช้กระบอกเสียงในการสื่อสาร
“เรื่องนี้ฉันก็จนปัญญา ฉันไม่ระวังทำให้คนในครอบครัวรู้ พวกเขาไม่ให้ฉันเปื้อนมลทิน ดังนั้นเธอจึงต้องเสียสละ”
“แต่เธอวางใจได้ ฉันจะช่วยเหลือเธอ รับรองว่าชีวิตของเธอจะสุขสบายแน่ แต่ต้องมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยน เธอต้องเล่าเรื่องของเซิงเกออย่างละเอียดให้ฉันฟัง”
เธอยิ้มอย่างมั่นใจว่าจะได้ในสิ่งที่ปรารถนา“ว่าไง?คุ้มใช่ไหม?”
ทว่าคิดไม่ถึงว่าข่งซูจะแหงนหน้าหัวเราะเสียงดังลั่น ทั้งยังทุบโต๊ะอย่างบ้าคลั่งอีกด้วย
ฟู่อินไม่เข้าใจ“ตลกมากเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...