ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 37

หลิวเหนียนเห็นซีดหน้าเขาเขียวช้ำก็รีบถาม

เขาหลุดออกจากห้วงความคิด สั่งการเสียงขรึมว่า“ต้องทำเรื่องย้ายกรรมสิทธิ์คฤหาสน์ให้เสร็จภายในวันนี้ สั่งให้ทนายเตรียมเอกสารให้พร้อม จากนั้นก็เอาไปยังเซิงเกอเซ็น”

“ครับ ผมจะไปเร่งเดี๋ยวนี้ครับ”

ตึกใหญ่ของangle

หลังจากข่งซูถูกจับกุม เซิงเกอก็ขาดผู้ช่วยไปอีกคน ตอนนี้ต้องวางแผนจัดงานประกวด เธอจึงตัดสินใจคัดเลือกจากผู้จัดการดาราและผู้ช่วยออกมาใช้งานหนึ่งคน

ณ ตอนนี้ ห้องทำงานเล็ก ๆ ของเธอมีพนักงานสาวที่มีส่วนสูงไม่เท่ากันประมาณหกเจ็ดคนยืนเข้าแถว

พนักงานสาวแถวหน้าหน้าตาสวยใช้ได้ ทว่ายืนได้ไม่ดี บิดไปบิดมา อิริยาบถไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย

เซิงเกอแค่ปรายตามองปราดเดียว ก็รู้สึกไม่ชอบท่าทางเช่นนี้

เธอกวาดสายตามองทุกคนหนึ่งรอบ และผู้หญิงที่ยืนแถวที่สองสะดุดตาเธอ

“คุณขึ้นมาด้านหน้าหน่อยค่ะ”

หญิงสาวคนนั้นนึกไม่ถึงว่าจะเรียกตน ทั้งตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน เดินเข้ามาสองก้าว “สวัสดีค่ะหัวหน้า ฉันชื่อซางเวยค่ะ”

เซิงเกอหาประวัติส่วนตัวเธอมาอ่าน

เป็นพนักงานใหม่จากชนบท ครอบครัวไม่มีประวัติเสื่อมเสียอะไร

เธอกำลังต้องการคนแบบนี้อยู่พอดี

“งั้นเอาคุณนี่แหละ เริ่มเป็นผู้ช่วยของฉันก่อนนะ”

ซางเวยตะลึงกับสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้

พนักงานคนอื่นไม่สบอารมณ์“หัวหน้าค่ะ เธอพึ่งมาทำงานได้หนึ่งเดือนเอง ยังอยู่ในช่วงทดลองงานค่ะ คุณเลือกแบบนี้ไม่ถูกกฎนะคะ?”

เซิงเกอชำเลืองมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ฉันก็คือกฎ”

ทุกคนจุกกับคำพูดของเธอ เมื่อไม่ถูกคัดเลือก จึงได้แต่เดินคอตกกลับไป

ซางเวยรู้สึกตื่นเต้นยิ่ง โค้งคำนับขอบคุณเธอยกใหญ่“ขอบคุณหัวหน้าที่ให้โอกาสฉันนะคะ ฉันจะทุ่มเทสุดความสามารถเพื่อบรรลุภารกิจที่ท่านมอบหมายให้ฉันทำค่ะ รับรองว่า......”

“พอแล้ว ฉันเข้าใจแล้ว แต่พูดมากก็ไม่สู้ทำได้ดีไม่ใช่หรือ?” เธอส่งสายตาเชื่อมั่นให้แก่ซางเวย ยื่นเอกสารกองหนึ่งไปให้ “รีบไปทำความเข้าใจข้อมูลพวกนี้”

“ค่ะหัวหน้า”

ซางเวยแบกเอกสารออกไป

เมื่อผู้ช่วยใหม่เดินออกไป เซิงเกอหมุนเก้าอี้ทำงาน หันหน้าไปมงอทิวทัศน์นอกหน้าต่าง จากนั้นก็นวดไหล่ด้วยความเหนื่อยล้า

ในเมืองฟางAngleไม่ใช่บริษัทบันเทิงใหญ่โต ก่อนหน้านี้ได้ใช้ชื่อเสียงของพี่สามเธอ จึงได้รับการร่วมมือจากผู้อื่น และทำกำไรในท้ายที่สุด

และเธอที่ต้องทำกำไรให้มากกว่าห้าปีที่ผ่านมาถึงร้อยละห้า เธอจึงต้องทำอะไรแปลกใหม่ ให้อลังการงานสร้างถึงจะได้

ถึงจะอันตรายไปหน่อย แต่หากฝ่าฟันอุปสรรค มันก็ไม่ใช่นิสัยของเธอลู่เซิงเกอแล้ว

เธอกำลังใช้ความคิด ซางเวยก็มาเคาะประตูอีกครั้ง

“หัวหน้าค่ะ เมื่อกี้มีสายโทรมาค่ะบอกว่าชื่อทนายหวูจากซื่อห่าย ขอเข้าพบท่านเพื่อลงชื่อย้ายกรรมสิทธิ์บ้านค่ะ”

เซิงเกอรู้สึกสงสัย“บ้านอะไร?”

“บอกว่าเป็นวิลล่าห่ายวานค่ะ”

คือคฤหาสน์ที่เธอกับเฟิงยู่เหนียนใช้ชีวิตกันระหว่างแต่งงานหรือเปล่า?

หย่าตั้งนานแล้ว ทำไมจู่ ๆ เฟิงยู่เหนียนถึงยกให้เธอ?

ชดเชยหรือว่ารู้สึกผิด?

ตลกสิ้นดี

“ได้ ฉันเลิกงานแล้วจะไป”

เซิงเกอไม่ได้ปฏิเสธ ถึงเธอจะไม่ขาดเงิน แต่เงินที่ลอยมาตรงหน้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยให้หลุดมือ

ยิ่งไปกว่านั้น การเก็บบ้านหลังนั้นไว้ ไม่แน่ว่าอนาคตอาจนำมาใช้ประโยชน์ได้

ภายในร้านกาแฟ

มู่จื่อหนิงใส่แว่นกันแดด เดินมาถึงโต๊ะที่ตั้งดอกกุหลาบสองดอกไว้บนโต๊ะ

เมื่อเห็นผู้หญิงสูงศักดิ์ตรงหน้า เธอก็ถอดแว่นกันแดดออก จากนั้นก็ปั้นรอยยิ้มอันเสแสร้งขึ้น “คุณฟู่ คุณต้องการพบฉันเหรอคะ?”

รองเท้าส้นสูงของเธอยกขึ้น ก่อนจะก้าวไปด้านใน

เมื่อเข้าไปใกล้ก็เห็นใบหน้าที่ควรหล่อสดใส ทว่ากลับย่ำแย่ของเฟิงยู่เหนียน โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ดำคล้ำเป็นพิเศษ

เธอทนไม่ไหว หัวเราะออกมา

ถึงจะไม่กระทบต่อความหล่อของเขา ทว่าเธอรู้จักเฟิงยู่เหนียนมาหลายปี พึ่งเคยเห็นเขาในสภาพไม่ต่างจากศพก็วันนี้แหละ

“ดูเหมือนช่วงนี้ตอนกลางคืนคุณเฟิงคงจะทำงานหนัก ลำบากจริง ๆ”

ใบหน้า เฟิงยู่เหนียนยิ่งมืดมน เงยหน้าจ้องเธอ“ปากของคุณเซิงนับวันก็ยิ่งจัดขึ้นทุกทีเลยนะ”

“แน่นอน” เธอเอามือกอดอก นัยน์ตาเผยความเย็นเยียบ“จะพูดจาดีก็ต้องดูคนด้วย และคุณก็ไม่คู่ควรให้ฉันพูดดีด้วย”

เฟิงยู่เหนียนขมวดคิ้ว เดินผ่านโต๊ะ ก้าวเท้ายาวไปหาเธอ

เซิงเกอเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว ปล่อยมือฟาดออกไป ทว่าเฟิงยู่เหนียนเอียงกายหลบไปได้

จากนั้นมือหนาก็เอื้อมมาจับไหล่เธอ เซิงเกอถอยไปหนึ่งก้าว ความเย็นยะเยือกแวบผ่านดวงตา เท้าที่ใส่ส้นสูงสิบสองเซนติเมตรยกขึ้น จากนั้นก็ถีบใส่ระหว่างขาของผู้ชายเต็มแรง

เฟิงยู่เหนียนรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดี ถอยหลังไปหนึ่งก้าว จากนั้นก็จับข้อเท้าของเธอได้อย่างแม่นยำ

……

หลิวเหนียนที่ยืนอยู่ที่สวนหย่อมได้ยินความเคลื่อนไหวก็ชะเง้อชะแง้ พลางเห็นพวกเขาสองคนต่อสู้กัน

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

แค่มาเซ็นชื่อ ไม่ชอบก็ไม่ต้องเซ็นก็สิ้นเรื่อง ทำไมถึงสู้กันล่ะ?

เขาทำหน้างุนงง เห็นความดุร้ายในนัยน์ตาเซิงเกอ ทุกครั้งที่เธอลงไม้ลงมือ มักจะเล็งไปยังจุดอันตรายเสมอ

เฟิงยู่เหนียนเป็นฝ่ายรับ ไม่ได้รุกเลย สถานการณ์อันตรายยิ่ง

เขาสบถเสียงเบา กะจะเอาให้ถึงตายเลยใช่ไหม?

ผู้หญิงจอมโหด!

กลัวเหลือเกินว่าวินาทีต่อบอสของตนจะเลือดนองพื้น

หลิวเหนียนห้ามตัวเองไม่ให้เข้าไปขวาง เขาบังหูตัวเองไว้ แล้วเดินหนีไปไกล ๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!