ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 38

คนในห้องรับแขกสู้กันไปสองยก

การโจมตีครั้งแรกของเซิงเกอล้มเหลว การต่อสู้หลังจากนั้นเธอไม่มีแรงเท่าเฟิงยู่เหนียน บวกกับใส่รองเท้าส้นสูงด้วย ทำให้ไม่สะดวก เธอถูกบีบให้ถอยติดผนังโดยไม่รู้ตัว

เฟิงยู่เหนียนยกริมฝีปากบางขึ้นมายิ้ม หมายจะจับข้อมือซ้ายเธอขึ้นเพื่อกดทับไว้บนกำแพง

ซึ่งเป็นลูกไม้เก่าที่เคยใช้มาหลายครั้งแล้ว

เซิงเกอผู้มีประสบการณ์ รู้ว่าเขาคิดจะพันธนาการมือทั้งสองข้างของเธอไว้ เธอจึงฉวยโอกาสตอนเขาจะคว้ามือซ้ายของเธอรีบเปิดปุ่มลับที่ซ่อนเข็มเงินไว้ในแหวนนิ้วขวา

เฟิงยู่เหนียนไม่มีการระวังตัว ลูกกระเดือกจึงถูกเข็มเงินจากแหวนมรกตของเธอ

โชคดีที่ก่อนหน้านี้พี่รองมอบแหวนให้เธอใส่ป้องกันตัว เข็มเงินเล่มนี้ถึงจะเล็ก แต่คุณภาพก็ไม่จิ๋วตาม ทนทาน

คล้ายกับทั้งสองถูกสะกดจิต

ใกล้จนสัมผัสลมหายใจของอีกฝ่ายได้

เฟิงยู่เหนียนขยับลูกกระเดือกเล็กน้อย หยาดเลือดไหลลื่นลงมาจากซอกคอ เสื้อเชิ้ตขาวราคาแพงแต่งแต้มด้วยสีแดงอย่างรวดเร็ว คล้ายกับต้นฝิ่นผลิดอกบานสะพรั่ง

เขาขมวดคิ้ว“ต้องโหดขนาดนี้เลยหรือ?”

เซิงเกอแสยะยิ้ม“ผู้ชายโฉดที่ตื้อไม่เลิกอย่างคุณจำเป็นต้องโหดอยู่แล้ว”

มุมปากเฟิงยู่เหนียนยกโค้งขึ้นนิด ๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้อีกครึ่งนิ้ว

คล้ายกับไม่เชื่อว่าเธอจะเอาชีวิตเขาในคฤหาสน์แห่งนี้

“ถ้าคุณเข้าใกล้อีกแม้แต่เซนเดียว ฉันจะแทงลูกคอคุณอย่างไม่ยั้งมือเลย ไม่เชื่อก็ลองดูได้”

ถ้อยคำเธอแผ่วเบา ทว่าเฟิงยู่เหนียนเห็นความอำมหิตจากนัยน์ตาเธอ

ผู้หญิงคนนี้โมโหขึ้นมา เธอสามารถกินคนได้เลย

เขายิ้มเบาบาง ปล่อยมือเธอ จากนั้นก็ถอยหลังสองก้าว

เซิงเกออิสระก็นวดข้อมือ จากนั้นก็เดินอ้อมโต๊ะไปดูหนังสือโอนกรรมสิทธิ์

เธอพลิกอ่านเร็วหนึ่งจบ มั่นใจว่าไม่ได้เล่นลูกไม้อะไร

จึงหยิบปากกาด้านข้างขึ้นมาเซ็นชื่อทั้งสองฉบับอย่างไม่ลังเล

จากนั้นก็ถือวิสาสะหยิบขึ้นมาหนึ่งฉบับ จากนั้นก็เดินออกไปอย่างไม่หันหลังกลับมา

เฟิงยู่เหนียนจ้องแผ่นหลังอันสง่างามของเธอ ยกมือขึ้นจับคอที่มีเลือดไหล สีหน้ายากจะหยั่งถึง

……

ตลอดทางที่เซิงเกอเดินออกจากคฤหาสน์

หลิวเหนียนมองเธอตลอด และหดคอด้วยจิตใต้สำนึก หลังจากเธอเดินผ่านเขา เขาก็รีบวิ่งเข้าไปดูอาการของเฟิงยู่เหนียน

เซิงเกอไม่แยแสเขา หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาซางเวย

“ช่วยฉันหาคนมาเปลี่ยนโฉมวิลล่าห่ายวานด้วย ทิ้งเฟอร์นิเจอร์เก่าแล้วซื้อใหม่ ดอกไม้ในสวนหย่อมก็ต้องปลูกใหม่ทั้งหมด”

“ค่ะหัวหน้า”

ซางเวยขานรับอย่างเชื่อฟัง จากนั้นถามต่อว่า“หัวหน้าจะเข้าไปพักเมื่อไหร่คะ? ดิฉันจะได้กะเวลาถูก”

เซิงเกอหัวเราะ“ใครบอกว่าฉันจะพัก?”

“ห้ะ?หัวหน้าไม่พักเหรอคะ?งั้น.....”

ซางเวยในสายยังไม่ทันพูดจบ เซิงเกอก็วางสายเสียแล้ว

เธอเดินตรงไปยังรถที่จอดอยู่หน้าประตู พึ่งจะเปิดประตูรถก็ได้ยินเสียงรถดังมาจากด้านหลัง

รถคันนั้นจอดในบริเวณที่ไม่ไกลออกไปนัก

มู่จื่อหนิงเดินออกจากท้ายรถ และเหมือนยังมีคนนั่งอยู่กับเธอคนหนึ่งด้วย โดยเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ทว่ามองใบหน้าไม่ชัด

เซิงเกอไม่คิดจะแยแสเธอ ปรายตามองปราดหนึ่งก็ละสายตากลับมา เตรียมจะขับรถจากไป

มู่จื่อหนิงวิ่งเหยาะ ๆ มาตรงหน้าเธอ จากนั้นก็จับประตูรถไว้ กล่าวเสียงตกใจว่า

“ทำไมเธอถึงมาอยู่ตรงนี้ได้?เธอยังตามตื้ออะยู่ไม่เลิกอีกเหรอ? ตอนนี้อะยู่กับเธอไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันแล้ว”

สองสามีภรรยามู่ซื่อกรุ๊ปร้องไห้ฟูมฟายผ่านกล้องไม่หยุดหย่อน

เซิงเกอแค่มองสองปราด ไม่ค่อยใส่ใจต่อสิ่งนี้

กระทั่งสามวันให้หลัง ตอนกลางวันเซิงเกอไปโรงอาหารเพื่อกินข้าวเที่ยง

สังเกตเห็นว่าวันนี้พนักงานรวมหัวซุบซิบกว่าปกติ สีหน้าก็ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง

ถึงแม้เซิงเกอจะรู้สึกแปลกใจ ทว่าเธอเป็นคนใช้ชีวิตแบบ2G ไม่ค่อยเล่นโซเชียล ดังนั้นจึงไม่ชอบฟังข่าวชาวบ้านด้วย

“หัวหน้าดูข่าวดังของเช้านี้หรือยังคะ?”

ซางเวยยกอาหารมาพร้อมกับผู้ช่วยอีกสองคนที่สนิทกัน จากนั้นก็นั่งด้านข้างเซิงเกอ

“ข่าวอะไร?”

เห็นเธอไม่รู้ ซางเวยจึงสวมวิญญาณขาเม้าท์“คุณไม่รู้ข่าวเรื่องคุณหนูแห่งมู่ซื่อกรุ๊ปเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เหรอคะ?พึ่งไม่กี่วัน มู่ซื่อกรุ๊ปก็ประกาศว่าจะรับลูกสาวคนเล็กที่รักษาโรคอยู่ต่างประเทศกลับมา”

เซิงเกอไม่เงยหน้า ตั้งใจกินข้าวต่อไป“แล้วแปลกตรงไหน”

“คุณรู้ว่าลูกสาวคนเล็กของมู่ซื่อกรุ๊ปคือใครหรือเปล่าคะ? คือคนที่ประธานเฟิงซื่อกรุ๊ปประกาศว่าจะหมั้นอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ชื่อมู่จื่อหนิงค่ะ”

มือของเซิงเกอชะงักค้าง

ซางเวยเห็นเธอตอบสนองเสียที จึงกล่าวด้วยความตื่นเต้น“คุณคนกำลังหัวเราะกับการกระทำของมู่ซื่อกรุ๊ป ลูกสาวคนโตพึ่งเป็นอัมพาต เสียใจไม่กี่วันก็จะจัดงานเลี้ยงฉลองรับลูกสาวคนเล็กกลับมาซะแล้ว......”

พนักงานสาวอีกสองคนที่ร่วมโต๊ะด้วยก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา และไม่ได้คิดเห็นเป็นอย่างอื่น ต่างก็ไม่พอใจกับการกระทำของมู่ซื่อกรุ๊ป ยิ่งมีคนกล้าคาดเดาว่าสถานะของมู่จื่อหนิงไม่ธรรมดา

ชั่วขณะนี้ ทุกคนกำลังพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างไม่หยุดปาก

เซิงเกอนั่งฟังเงียบ ๆ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร

ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงเรื่องหลายวันก่อน ตอนเธอจะออกจากวิลล่าห่ายวาน มู่จื่อหนิงเคยขู่เธอ

ตอนนี้ครุ่นคิดดูแล้ว อุบัติเมาแล้วขับของมู่ซิ่นซินซึ่งเป็นคุณหนูตระกูลมู่ต้องมีเงื่อนงำแน่

ตอนนี้มู่จื่อหนิงจากที่เป็นลูกนอกสมรส กลายมาเป็นลูกสาวที่มีหน้ามีตา แล้วต่อจากนี้เธอจะมีงัดแผนอะไรออกมาใช้อีกนะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!