บนธงอวยพรทุกอันเขียนแค่ตัวอักษรเดียว แถวแรกอ่านรวมกันเป็น“ทำสิ่งไม่ดีไว้ก็รับผลกรรมนั้นเอง”
แถวที่สองคือ“ทำตัวเองแท้ๆ”
กำลังบอกเธอว่ากรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง หาเหาใส่หัว!
มู่จื่อหนิงโกรธมาก ในดวงตามีแต่ความอาฆาต เริ่มปวดตัวขึ้นมา
มู่เจี้ยนเต๋ออ่านเสร็จก็ตกใจ
มีแค่หยุนเหม่ย ที่ดูเสร็จก็หัวเราะ รู้สึกบรรเทาอารมณ์โกรธได้ดี
และการหัวเราะของเธอนี้ สายตาของทั้งสองคนในห้องผู้ป่วยมองมาที่เธอทันที มู่จื่อหนิงก็ยิ่งโกรธจนสีหน้าดูเหยเก
หยุนเหม่ยหัวเราะจนหน้านิ่งไป รีบก้มหน้าลงและบ่น
“แค่กๆ ผู้หญิงคนนี้ไร้เหตุผลมาก ชัดเจนว่าไม่เห็นหัวมู่ซื่อกรุ๊ปเราเลย”
“สามี ถ้าคุณไม่สั่งสอนเธอ ไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรเกินไปอีก!”
เธอพูดจบ ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเคาะ
ชายหนุ่มที่สวมชุดทำงานเปิดประตูออกเบาๆ ถามว่า“ขอโทษนะครับนี่ใช่ห้องผู้ป่วยของคุณหนูรองตระกูลมู่ไหม?”
คนในห้องสบตากันไปมา หยุนเหม่ยจึงถาม“ทำไมคะ?”
“มีคนที่ชื่อคุณเซิงเกอคนหนึ่งสั่งดอกไม้ช่อหนึ่ง มาให้คุณมู่ครับ”
พูดจบ คนนั้นก็โบกมือไปด้านหลัง
จากนั้น กลุ่มคนงานก็สบตาเข้ากับสายตาสงสัยของทั้งสามคนตระกูลมู่ เดินเข้ามาพร้อมพวงหรีดขนาดใหญ่
แป๊บเดียว ทั้งห้องผู้ป่วย VIP ก็ถูกวางเต็มไปหมด
รวมพวงหรีดทั้งหมดสามสิบสองอัน วางเรียงกันตรงหน้ามู่จื่อหนิง
“เอ่อ…พวกคุณนี่……”
หยุนเหม่ยอยากว่ากลับ แต่ถูกมู่เจี้ยนเต๋อจ้องเขม็งด้วยความโกรธ จึงได้แต่ปิดปากอย่างไม่พอใจ
เจ้าหน้าที่ที่มาส่งดอกไม้ทำหน้าที่เสร็จ ก็โค้งตัวอย่างมีมารยาท“ขอให้ชื่นชมอย่างมีความสุข ไว้โอกาสหน้ามาสั่งใหม่นะครับ”
นี่แช่งเธอให้ตายนี่ และยังมีครั้งหน้าอีกหรือ?
นี่มันเป็นการเปิดเผยเจตนาเพื่อทำลายกัน!
หัวใจของมู่จื่อหนิงแทบจะระเบิดออก
“ออกไป!ไสหัวออกไป แค่กๆ……”
เธอแทบทนไม่ไหวที่จะโยนพวงหรีดเหล่านี้ไปที่หน้าคนกลุ่มนี้ทันที แต่เพิ่งผ่าตัดมา เลยไม่สามารถขยับตัวได้ ได้แต่จ้องไปด้วยความโกรธเท่านั้น
ยัยแพศยานี่!เกินไปแล้ว!
เอาป้ายธงมาว่าเธอว่าเวรกรรมตามสนอง และยังส่งพวงหรีดมาแช่งเธอว่าหาเรื่องใส่ตัว!
รังแกกันมากไปแล้ว!
“ยัยแพศยา!ยัยแพศยา!เอาไปทิ้ง โยนทิ้งไปเลย แค่กๆๆ……”
เธอโมโหจนอกอีแป้นแทบจะแตก ยังไม่ทันใจเย็นลง หันหน้าไปก็เห็นรูปตรงกลางพวงหรีดอีก
เป็นรูปที่เซิงเกอถ่ายเธอไว้ตอนเสื้อผ้าขาดอย่างน่าอับอายในงานเลี้ยง!
เปิดเผยเจตนาเพื่อทำลายกันนี่!
ความทรงจำอันน่าอับอายในงานเลี้ยงและการหัวเราะเยาะต่างเข้ามาในทันที
“กรี๊ด!ฉันจะฆ่าแก!”
ปากบวมที่พันผ้าหนาๆ ของเธอนั้นกัดฟันแน่น หายใจไม่ออก จนหมดสติไปทันที
……
ตอนเซิงเกอออกไปจากโรงพยาบาลไม่ได้เลือกไปทางประตูใกญ่ แต่ออกไปทางช่องทางปลอดภัย เดินไปถึงตรงทางเดิน ข้อมือก็ถูกคนรวบไว้จากด้านหลัง
เป็นเฟิงยู่เหนียนที่ตามมาตลอดทาง
บอดี้การ์ดทั้งสองคนเห็นแบบนี้ ก็จะลงมือทันที
แต่ถูกเซิงเกอหยุดไว้“ไม่ต้อง พวกนายไปพักเถอะ แค่ไม่ต้องไปไกลนัก”
พอบอดี้การ์ดทั้งสองคนเดินออกไป เซิงเกอจึงสะบัดมือของเฟิงยู่เหนียนออก แล้วลูบข้อมืออย่างสบายๆ“ถามมาสิ”
โหนกคิ้วของเฟิงยู่เหนียนขมวดแน่น ท่าทางดูบูดบึ้ง ประโยคแรกที่พูดกลับไม่ได้ถามมู่จื่อหนิง
“ผู้ชายสองคนนั้นเป็นอะไรกับคุณ?บอดี้การ์ด?คนของใคร?ลู่ฮั๋ว หรือว่าโจ๋วซิงโฮ๋?”
เซิงเกอยิ่งฟังยิ่งงง ผู้ชายคนนี้ตามออกมาเพื่อถามสิ่งนี้?
เธอแปลกใจ จึงพูดไปอย่างล้อเลียน“เป็นคนของฉัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...