หลิวเหนียนเพิ่งออกมาจากห้องสูบบุหรี่ ก็ได้ยินพยาบาลสองสามคนวิ่งไปบ่นไป
“เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูตระกูลมู่ ไม่ได้บอกว่าป่วยจำเป็นต้องพักฟื้นหรอกเหรอ เสียใจและโกรธหนักขนาดนี้ได้ไง พวกเราต้องยุ่งกันอีกแล้ว”
หลิวเหนียนยื่นมือไปหยุดพยาบาลแล้วถาม“เมื่อกี๊คุณพูดถึงใครคะ?คุณหนูตระกูลมู่?!”
“โรงพยาบาลเราจะมีคุณหนูตระกูลมู่ที่สามารถพักห้อง VIP ได้กี่คนกันล่ะ”
พยาบาลสะบัดมือของเขาออกแล้ววิ่งออกไปไกล
ในใจหลิวเหนียนไม่สบอารมณ์อย่างมาก
เขาเริ่มติดตามตั้งแต่เฟิงยู่เหนียนเพิ่งเข้าทำงานที่เฟิงซื่อกรุ๊ป นับดูแล้วอย่างน้อยก็เจ็ดแปดปีได้ เขาไม่มีญาติไม่มีเพื่อน เป็นเฟิงยู่เหนียนที่ให้งานเขา
และมู่จื่อหนิงเป็นคนแรกที่ยิ้มให้เขา และก็เป็นคนแรกที่พูดว่าเป็นเพื่อนกับเขา
สำหรับเขาแล้ว เฟิงยู่เหนียนคือครอบครัว มู่จื่อหนิงเป็นบุคคลที่ทำให้เขาอยากปกป้องยิ่งกว่าญาติ
เขาชอบมู่จื่อหนิง แต่ความชอบนี้ได้แต่ซ่อนไว้ในใจ และยินดีกับเธอ
แต่ตอนนี้ เห็นเธอไม่ได้อยู่อย่างสบายดีนัก และยังเห็นเฟิงยู่เหนียนตามจีบเซิงเกอ ตอนที่เธอป่วยเกือบตายแบบนี้ เขาก็รู้สึกไม่ยุติธรรมสำหรับเธอเท่าไหร่!
หลิวเหนียนกำฝ่ามือแน่น ในใจยิ่งแน่วแน่ขึ้นเรื่อยๆ
……
ออกมาจากโรงพยาบาล เซิงเกอก็ได้รับสาย
ได้ข่าวว่ามู่จื่อหนิงถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง เธอรู้สึกอารมณ์ดีทันที
จึงไปที่ฐานฝึกอีกครั้ง ถึงจะจัดการผู้หญิงแอ๊บเสร็จแล้ว ก็ต้องเร่งความก้าวหน้าของงานด้วย
เพราะว่าเมื่อคืนฟ็อลคส์วาเกินคันเล็กโดนแทงบัญชีเป็นของชำรุดแล้ว เธอยังไม่ทันได้ซื้อรถคันใหม่ จึงได้แต่เรียกรถไป
เจ้าหน้าที่เห็นเธอก็เคารพอย่างมาก ผู้รับผิดชอบรายงานอุปกรณ์ที่กำลังปรับปรุงและกระบวนการให้เธอฟัง
เซิงเกอวนอยู่รอบฐาน เดินไปประมาณรอบหนึ่ง รู้สึกไม่มีปัญหาอะไร รายการนี้น่าจะได้ซ้อม และถ่ายทอดสดในไม่ช้าแล้ว
มีเจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่งเห็นเธอ ดวงตาก็เป็นประกาย เข้ามาขอลายเซ็นอย่างเป็นมิตร
“พี่คะฉันเคยเห็นคลิปวิดีโอ lover ของพี่ พี่สวยมากจริงๆ รายการประกวดครั้งนี้ พี่จะตัดสินใจขึ้นไหม?พี่เป็นเซนเตอร์ในใจฉันเลย!”
เซิงเกอหัวเราะอย่างเขินอาย คิดไม่ถึงว่าฐานฝึกอบรมของตัวเองจะจับเหล่าแฟนสาวได้ ดันสมุดที่อีกฝ่ายหยิบออกมาจะให้เซ็นคืนกลับไปอย่างเสียดาย
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ใช่ดารา และจะไม่เป็นดาราด้วย เซ็นลายเซ็นไม่เหมาะกับฉันค่ะ”
พูดจบ เธอก็ปลีกตัวไปจากสาวน้อยคนนั้น แล้วเดินไปกับผู้รับผิดชอบฐาน
ตอนที่เธอหันกลับ แฟนคลับสาวคนนั้นยังคงจ้องแผ่นหลังเธออย่างไม่ละสายตา ใบหน้าที่ดูเคลิบเคลิ้มค่อยๆ หายไป ก้มหน้าลงมองสมุดโน้ตที่มีรอยนิ้วมือเซิงเกอ
พอผ่านเหตุการณ์เมื่อกี๊ไป เซิงเกอก็ไปดูหอพักและโรงอาหารของเหล่าเด็กฝึก และขอสมุดรายชื่อของเด็กฝึก 100 คนที่ได้รับการเลือก
ที่จริงแค่เปิดผ่านๆ แต่ในหน้าเกือบท้ายๆ ดันเห็นชื่อที่คุ้นเคยและใบหน้าที่คุ้นเคย
โจวเสี่ยวฉิง
เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอตอนอยู่สถานสงเคราะห์ ก่อนหน้านี้ป่วยหนัก ทำให้เธอเคยไปขอยืนเงินหลี่เฟยด้วย
สุดท้ายเนื่องจากไม่ได้ค่ารักษา โจวเสี่ยวฉิงโดนสถานสงเคราะห์ไล่ออกไป ตั้งแต่นั้นมาเธอสองคนก็ขาดการติดต่อ
คิดไม่ถึงว่าแค่ไม่กี่ปีนี้ จะได้เห็นโจวเสี่ยวฉิงในสมุดรายชื่อของเด็กฝึกที่เข้าแข่งขัน ดูเหมือนว่าไม่กี่ปีมานี้เธอจะอยู่อย่างมีความสุขดี
คนรับผิดชอบงานเห็นเซิงเกอหยุดหน้านี้อยู่นาน ก็ดูตื่นเต้นเล็กน้อย รีบพูดประจบออกไป
“คนนี้เป็นเพื่อนสนิทของผอ.เหรอ?ต้องให้พวกเราดูแลเป็นพิเศษไหม?”
เซิงเกอปฏิเสธ“ไม่ต้อง ใช้เส้นสายไม่ยุติธรรมกับเด็กฝึกคนอื่นๆ ฉันเชื่อว่าเธอก็ไม่ชอบ”
เธอยังไม่คิดจะเจอกับโจวเสี่ยวฉิง
เพราะว่าตอนนี้เธอกำลังเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วง จึงทำให้มู่จื่อหนิงและคนอื่นๆหาช่องโหว่ไม่ได้ โจวเสี่ยวฉิงเป็นเพื่อนของเธอ เธอไม่อยากให้เธอต้องเกี่ยวข้องและถูกทำร้ายไปด้วยเพราะสิ่งนี้
เซิงเกอปิดรายชื่อลงอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...