“ทำได้ดี”ถึงจะชม แต่ในแววตาเขากลับดูมีอะไรแอบแฝง
เขาเปิดข้อมูลที่หามานั้น ส่วนหลิวเหนียนอธิบายอยู่ด้านข้าง
“เรื่องที่คุณให้ผมไปสืบมาตอนนั้น ผมสืบได้ว่ากำหนดการของคุณมู่ตอนนั้น กับเวลาที่คุณประสบอุบัติเหตุสอดคล้องกันโดยสิ้นเชิง หมายความว่า เรื่องที่คุณมู่เป็นผู้มีประคุณช่วยชีวิตคุณเมื่อสิบสามปีก่อน เป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย”
หลิวเหนียนมองเขา ท่าทางดูมั่นใจ
เฟิงยู่เหนียนดูข้อมูลอย่างละเอียด คิ้วขมวดเล็กน้อย ดวงตาที่ลึกซึ้งทำให้มองอารมณ์ตอนนั้นของเขาไม่ออก
“อีกอย่าง ยังมีอีกเรื่อง”
หลิวเหนียนดูลังเล
“ว่ามา”เฟิงยู่เหนียนมองเขา สื่อให้เขาพูดต่อ
“ที่คุณให้ผมสืบเรื่องที่คุณมู่ถูกทำร้าย มีความคืบหน้าใหม่แล้วครับ ผลที่ได้มาผมแนบไว้ท้ายเอกสาร”
เฟิงยู่เหนียนเปิดไปหน้าท้ายๆ ตามที่เขาพูด มองเห็นภาพสองสามใบ
เขามองดูอย่าละเอียด คิ้วที่เดิมทีคลายออกอย่างสบายก็ขมวดเข้าอีก
ฟ็อลคส์วาเกินสีเขียวเข้มบนภาพนั้น อย่าว่าแต่พังเลย ถึงกลายเป็นขี้เถ้า เขาก็จำได้
พอคิดถึงตรงนี้ ในใจเขาก็โมโห จากนั้นก้มลงมองอย่างหงุดหงิด
ภาพที่เหลือนั้นใกล้เคียงกัน มีเพียงภาพสุดท้ายนั้นที่ต่างกัน
ในรูปภาพ นั้นมืดมิดเหมือนอยู่ท่ามกลางคืนมืด เห็นร่างไม่ชัดเจนนัก เขาพยายามแยกแยะออกมา จึงจำได้ว่าอีกคนคือเซิงเกอ
“จากรูปพวกนี้แล้ว และกำหนดการวันนั้นของคุณเซิงเกอที่หามาได้ เธอเคยปรากฏตัวในที่ที่คุณมู่ถูกทำร้ายจริง และภาพนี้”
เขาชี้ไปที่ภาพตรงกลาง พูดว่า“เซิงเกอเหมือนกำลังทำข้อตกลงกับใครอยู่”
“ที่อยู่หลังเธอ เหมือนจะเป็นฮัวหยุนผู้ช่วยที่อยู่ข้างลู่ฮั๋ว เป็นไปได้ว่าเรื่องนี้เซิงเกอจะให้ลู่ฮั๋วทำ ยังไงซะไม่ว่าผลจะเป็นแบบไหน เรื่องนี้ก็ต้องเกี่ยวข้องกับเซิงเกอแน่”
บนใบหน้าเฟิงยู่เหนียนมองอารมณ์ใดๆ ไม่ออกจริง ได้แต่จ้องภาพไม่กี่ภาพนั้นอย่างเขม็ง
“คุณมู่ที่อ่อนโยนจิตใจดี ดันถูกปฏิบัติเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าเซิงเกอจะโหดขนาดนี้!”
หลิวเหนียนกำหมัดแน่น พูดโน้มน้าวต่อไปว่า“คุณจะต้องตัดสินให้คุณมู่ สั่งสอนเซิงเกอให้ดี เพื่อระบายความโกรธให้คุณมู่!”
เฟิงยู่เหนียนมองเขาที่ดูท่าทางจริงจัง แล้วพยักหน้า
“โอเค ไว้กลับไปค่อยคุย”
ใบหน้าเขาคืนกลับไปนิ่งเฉยเหมือนเดิม ทำให้คนเดาไม่ออก
เช้าวันถัดมา
ในโรงพยาบาลก็ครึกครื้นอีกครั้ง
มู่จื่อหนิงเตรียมตัวพร้อมนานแล้ว พิงไปที่หัวเตียง เตรียมให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณะ
“ฉันรู้ว่ารับสัมภาษณ์ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ น่าจะมีคนคาดเดาความตั้งใจของฉัน กระทั่งว่าอาจจะผลักฉันไปสู่จุดปะทะอย่างรุนแรง”
เธอทำเป็นเข้มแข็ง พูดต่อไปว่า“แต่ฉันอยากเคลียร์อย่างจริงจัง ฉันกับประธานเฟิงแห่งเฟิงซื่อกรุ๊ปเป็นคู่รักกันตั้งแต่เด็ก พวกเราชอบพอกันตั้งแต่เด็กแล้ว ต่อมาเพราะว่าเรื่องหนึ่ง ทำให้ต้องแยกจากกัน”
“ฉันไม่รู้ว่าช่วงที่ฉันไม่อยู่เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ฉันบอกกับทุกคนได้เลยว่า ฉันไม่ใช่มือที่สามแต่อย่างใด และก็ไม่ได้ทำลายการแต่งงานของเขากับเซิงเกอด้วย!”
น้ำตาเธอไหลลงมาจากดวงตา แต่เธอกลับกัดฟันแน่น เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลลงมา
เสียงนักข่าวกดชัตเตอร์ดังขึ้นไปมา แสงแฟลชวิบวับไปมาไม่หยุด แสบตาเล็กน้อย จนเธอเกือบจะข่มอารมณ์นี้ไว้ไม่อยู่
แต่เธอก็ไม่กล้าผ่อนปรนลงเลยสักนิด
เธอต้องใช้ความน่าสงสารนี้ มารับความเห็นใจของทุกคน
“คุณมู่ พวกเรามีคำถามเล็กน้อยค คุณสะดวกตอบไหม?”นักข่าวยื่นไมค์ไปตรงหน้าเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...