ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 58

ซังเวยพูดอย่างตื่นตระหนก“คุณรีบเปิดเวยป๋อ ดูข่าวเถอะค่ะ!”

“ฉันยังขับรถอยู่ จะดูเวยป๋อได้ไง?”เซิงเกอทำอะไรไม่ถูก“ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญ งั้นฉันวางละนะ รอฉันกลับไปบริษัทค่อยว่ากัน”

“อย่าๆๆ!อย่าเพิ่งวาง!”

ซังเวยตื่นเต้นมาก ห้ามเธอไว้“ฮอตเสิร์ชนี้ส่งผลกระทบต่อคุณ คุณ ……”

ซังเวยยังคงไม่หยุด ความสนใจของเซิงเกอกลับถูกดึงดูดโดยหน้าจอขนาดใหญ่ของเมือง

บนหน้าจอใหญ่นั้น นายหญิงของตระกูลมู่ หยุนเหม่ยผู้เป็นแม่ในนามของมู่จื่อหนิง กำลังให้สัมภาษณ์ด้านนอกห้องผู้ป่วย บ่นเรื่องพฤติกรรมแย่ๆ ของเซิงเกออย่างฟูมฟาย

เซิงเกอสนใจทันที มองเวลาเล็กน้อย แล้วหาที่ว่างจอดรถ

ยังไงก็ยังมีเวลาอยู่ ดูคนตระกูลดีกว่าว่าจะมาไม้ไหน

“ภรรยาเก่าของประธานเฟิงคนนี้ ส่งธงมาเยาะเย้ยลูกสาวฉัน และยังส่งพวงหลีดมาแช่งลูกสาวฉันให้ตายไวๆ อีก!ผู้หญิงคนนี้ใจดำอำมหิตมาก!”

หยุนเหม่ยแกล้งทำเป็นเช็ดน้ำตา พูดต่อว่า:“ลูกสาวที่น่าสงสารคนนี้ของฉัน ถูกตบตีก็ว่าไปอย่างแล้ว นี่ยังถูกเธอทำแบบนี้ใส่อีก แผลยังไม่หายดี ก็หมดสติไปอีกแล้ว……”

“ทั้งๆ ที่ลูกสาวฉันไม่ผิดอะไรเลย เข้าใจเธอผิดที่งานเลี้ยงก็เรื่องหนึ่งแล้ว คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะใจแคบ ต้องแก้แค้นให้ได้!พฤติกรรมน่ารังเกียจและเย่อหยิ่งแบบนี้ ฉันจะต้องเปิดโปงออกไป!ให้ทุกคนรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ……”

เซิงเกอไม่มีอารมณ์ดูอีกว่าเธอจะพูดอะไรต่อไป ส่งเสียงไม่พอใจ ขับรถกลับไปบริษัท angle

ซังเวยตระหนักได้ว่าเธอไม่พูดอยู่นาน จึงวางสายไปอย่างเข้าใจดี

พอถึงบริษัท เธอก็ดริฟต์รถเข้าไปในโรงจอดรถอย่างสวยงาม เดินเข้าไปในอาคารบริษัทอย่างเยือกเย็น

คนสองสามคนกำลังรวมตัวซุบซิบนินทากันที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่ง มีคนเห็นเซิงเกอที่กำลังเดินเข้ามา จึงโน้มตัวและพูดอะไรอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันทันที

เธอไม่สนใจคำนินทาของคนเหล่านี้เลย แต่เลือกที่จะเดินตรงกลับไปที่ออฟฟิศของตัวเอง

ซังเวยรอเธออยู่ในห้องทำงานนานแล้ว เห็นร่างของเธอ ก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว

“ผอ. คุณมาเสียที คุณยังไม่ทันได้ดูข่าวใช่ไหมคะ?เรื่องนี้นับวันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วค่ะ!”

เธอพูดไป ก็เปิดหน้าของแท็บเล็ตยื่นให้เซิงเกอไปด้วย

คำร้องเรียนเหล่านั้นของหยุนเหม่ยก่อให้เกิดผลสะท้อนที่รุนแรง เป็นที่ฮือฮาอย่างมากในเน็ต

ชาวเน็ตจำนวนมากร่วมการถกเถียงในเรื่องนี้

ดีที่ชาวเน็ตส่วนใหญ่มีเหตุมีผล มีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป มีทั้งคนที่เห็นด้วยไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้

และยังมีคนจำนวนมากช่วยพูดให้เซิงเกอ แต่แป๊บเดียวก็กองจมอยู่ในคำด่าเหล่านั้น

ไม่ต้องคิดมาก ก็พอจะรู้ได้ว่าเป็นหน้าม้าทางโซเชียลที่ฝั่งมู่จื่อหนิงตั้งใจจ้างมาโดยเฉพาะ

ดูเหมือนว่าเธอมีประสบการณ์จากครั้งที่แล้ว จนฉลาดเสียที จ้างหน้าม้าทางโซเชียลมาล่วงหน้า ยึดพื้นที่ของความเห็นประชาชนทำให้ดูน่างสารเพื่อได้รับความเห็นใจจากทุกคน ทำให้เซิงเกอตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

เซิงเกอวาง iPad ลง แล้วเตรียมงานประกวดวงเกิร์ลกรุ๊ปต่อ ไม่สนใจเรื่องพวกนี้

“ผอ.คุณจะไม่จัดการอะไรสักหน่อยจริงๆ หรือคะ?”ซังเวยถามอย่างระมัดระวัง

“ไม่ต้องสนใจ ทำงานของคุณให้ดีก็พอ”

เซิงเกอตอบโดยไม่เงยหน้ามามอง

พายุเล็กๆ แบบนี้ไม่คู่ควรให้เธอต้องมาใส่ใจ

เธอกลับอยากจะดูว่า มู่จื่อหนิงจะทำให้เรื่องนี้วุ่นวายไปถึงจุดไหน

ซังเวยมองท่าทางเย็นชาของเซิงเกอ ในใจก็แอบถอนหายใจ ถอยออกไปเงียบๆ

มาร้อนใจเองคนเดียวแบบนี้ สู้ทำเวลา จัดการงานตัวเองให้เสร็จดีกว่า

ในโรงพยาบาล

หยุนเหม่ยสัมภาษณ์เสร็จ วินาทีที่นักข่าวจากไป เธอที่ยังร้องไห้อยู่ก็ซับน้ำตาทันที เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสะใจ

เธอรู้สึกขยะแขยงลูกสาวชู้คนนี้มาเสมอ หลังจากที่มู่จื่อหนิงเข้าบ้านมา เข้ามาอยู่ในตระกูลมู่แล้ว เธอก็แทบอยากจะให้สายตาของตัวเองกลายเป็นดาบแทงยัยสารเลวนี่ให้ตาย

ครั้งนี้ มู่จื่อหนิงถูกคนตบตีจนน่าเวทนา เธอก็ถอนหายใจแรงๆ

แต่มู่ซิ่นซินยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้ยังโคม่าอยู่ไม่ฟื้นขึ้นมา ส่วนมู่จื่อหนิงก็เป็นทายาทเพียงคนเดียว

เพื่อปกป้องตระกูลมู่ที่ถูกโลกภายนอกจับจ้องอย่างถมึงทึงก่อนที่มู่ซิ่นซินจะฟื้นมา เธอจึงต้องเอาใจมู่จื่อหนิงต่อหน้าคนอื่น แกล้งทำเป็นแม่รักลูกอันน่าขยะแขยงให้คนนอกดู

คิดถึงตรงนี้ หยุนเหม่ยก็ยิ่งเกลียดมู่จื่อหนิง

เห็นเธอนอนอยู่บนเตียง ท่าทางดูป่วย ในใจก็ยิ่งร้อนรน ใบหน้าดูดีใจเป็นพิเศษ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!