ไต้ลี่ตกใจกับสายตาที่แสนเยือกเย็นและดูถูก
ยังไม่ทันจะได้ออกฤทธิ์อีก ก็เห็นเธอถือโทรศัพท์ออกมา ท่องอย่างนิ่งๆ:“ไต้ลี่พนักงานประจำธรรมดาๆ ทำงานที่หยุนจี้มาห้าปี ลับหลังรองประธานฝ่ายกิจการท่านนี้ แอบมีชู้กับเจ้านายคนอื่นๆ เงียบๆ อยู่หลายครั้ง และยังถือโอกาสช่วงที่ไปทำงานเข้าสังคมต่างเมืองยั่วยวนลูกค้าอีกหลายคน เหอะ คิดไม่ถึงว่าเธอจะมีความสามารถนี้”
“แก!”
ความเย่อหยิ่งของไต้ลี่ที่เคยมีก็ลดลงไปเล็กน้อย“เธอไม่มีหลักฐาน นี่มันบิดเบือนข้อเท็จจริง!เชื่อไหมว่าฉันจะฟ้องเธอว่าหมิ่นประมาท?”
“อย่าเพิ่งรีบ ฉันยังพูดไม่จบ”
จากนั้นเซิงเกอก็อ่านข้อมูลบนโทรศัพท์ที่ให้คนไปสืบมาด้วยความสนใจ:“และยังยักยอกเงินหลวงกว่าสองหมื่นหยวน นิสัยเสียอย่างลักเล็กขโมยนี้ของเธอที่เอาออกมาจากสถานสงเคราะห์ ดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนไปเลยนะ”
“ถึงจะบอกว่าสองหมื่นกว่านี้ก็แค่เข้าคุก แต่ถ้าถูกบริษัทรู้……”
เธอชะงักไปเล็กน้อย ริมฝีปากสีแดงยิ้มอย่างมีชีวิตชีวา
ไต้ลี่หลุดลงตามเธอ ลมหายใจหยุดลง
“แต่ถูกบริษัทไล่ออก กลัวว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่รู้ว่าถ้าบริษัทในสายงานอื่นรู้ จะเอาชื่อเธอเข้าบัญชีดำไหม?”
เซิงเกอเก็บโทรศัพท์ ชื่นชมใบหน้าเหยเกของเธออย่างใจเย็น
“หลักฐานล่ะ?!”
ไต้ลี่ยังคงปากแข็ง“เธอแต่งเรื่องได้เยี่ยมมาก พูดซะฉันเกือบเชื่อ แต่ถ้าไม่มีหลักฐาน เธอก็อย่ามาพูดให้ร้ายฉัน!”
เธอมองบนใส่เซิงเกอ เพิ่งพูดจบไม่นาน โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เซิงเกอเลิกคิ้วขึ้นมาแล้วหัวเราะ ใช้สายตาตักเตือนเธอ:“มาแล้วนี่?”
ไต้ลี่จ้องเธออย่างโกรธเคือง พอเห็นเป็นหัวหน้า ก็รับอย่างมือสั่น
เธอยังไม่ทันทักทายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มไปที่ปลายสาย คำด่าของหัวหน้าก็ดังอยู่ข้างหูเธอจังๆ
“เยี่ยมไปเลยไต้ลี่ เห็นปกติคุณดูตรงไปตรงมา กล้ามากเลยนะ!”
หัวหน้าด่าไปอย่างโมโห“เรื่องพวกนั้นที่คุณทำผมรู้หมดแล้ว!หยุนจี้ดันมาเลี้ยงหมาหัวเน่าอย่างคุณได้ คุณจบเห่แล้ว!”
“ไม่นะคะหัวหน้า คุณฟังฉันอธิบายก่อน!”
ไต้ลี่กังวลมาก เสียงแก้ตัวเต็มไปด้วยความสะอึกสะอื้น“ทั้งหมดนี้มีคนตั้งใจใส่ร้ายฉัน คุณต้องเชื่อฉันนะคะ!”
“ใส่ร้าย?คุณเห็นผมโง่หรือ?”
หัวหน้าโกรธจนหัวเราะออกมา“รีบมาบริษัท ผมจะให้คุณไสหัวออกไป!”
ไต้ลี่อ้าปาก อยากอธิบายให้เขาฟัง แต่อีกฝั่งตัดสายไปก่อนอย่างทนไม่ไหว
เธอวางโทรศัพท์ลงอย่างหมดหวัง สายตาที่มองไปที่เซิงเกอมีแต่ความต่ำต้อยและขอร้อง ความดูถูกก่อนหน้านี้ก็หายไป。
ในเวลาครึ่งชั่วโมงสั้นๆ กลายเป็นเจ้าของทั้งโชว์รูมรถ และยังสืบเบื้องลึกทั้งหมดของเธอในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เธอทะเลาะกับติงเหลยได้อีก
ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวมาก!
“เธอเป็นใครกันแน่?!”
เธอมองเซิงเกออย่างหวาดกลัว ในทางกลับกันอีกคนนั้น ยิ้มริมฝีปากสีแดงเล็กน้อย สายตาดูเย็นชาและหยิ่งยโส ทั้งๆ ที่แค่ยืนเฉยๆ แต่ความทรงพลังที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายดูเหมือนมีมาตั้งแต่เกิด
ไต้ลี่จึงตระหนักได้ว่าตัวตนของเซิงเกอไม่ใช่เล่นๆ เลย ไม่ใช่คนที่หย่าแล้วและเป็นเด็กสาวกำพร้าธรรมดาๆ ในความทรงจำเธอคนนั้นอีก
“เซิงเกอ ฉันผิดไปแล้ว!ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปนะ!”
เธอวางท่าทีของตัวเองอย่างต่ำต้อยที่สุด ใบหน้ามีแต่ความอ้อนวอน
“ฉันเสียงานนี้ไปไม่ได้ ฉันผิดแล้วจริงๆ เธอได้โปรดเข้าใจ ปล่อยฉันไปสักครั้งนะ!”
เซิงเกอไม่พูดอะไรกับคำอ้อนวอนของเธอ เหมือนกำลังรอเธอจะพูดต่อไป
“เมื่อกี๊ฉันทำผิดเอง ไม่ควรทำให้เธออับอาย เธอเห็นแก่ที่พวกเราอยู่สถานสงเคราะห์มาด้วยกันหลายปีเถอะนะ คนสูงส่งอย่างเธอไม่ถือสาคนธรรมดาอย่างฉันหรอก ไว้หน้าฉันเถอะนะ ฉันเสียงานนี้ไปไม่ได้จริงๆ และถูกขึ้นบัญชีดำไม่ได้ด้วย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...