ในห้องเรียนชุลมุนวุ่นวายสุด ๆ
หยางหยางทั้งร้องไห้ทั้งด่าไปด้วย
ซู่เป่ารู้สึกคันยิบ ๆ บนหน้าเลยยกมือขึ้นคลำดู…
จี้ฉางเห็นว่าใบหน้าเธอถูกข่วนจนเลือดซิบ
จี้ฉางสีหน้าเย็นชา “เจ้าเด็กเคราะห์ร้ายคนนี้ ย่าของเขาคือใคร ข้าจะไปหาคืนนี้เลย!”
ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน พอเห็นเด็กเหลือขอคนนี้ด่าออกแต่ละคำ เดาว่าคงจะเรียนมาจากย่าของเขาสินะ
ซู่เป่าจัดการเด็กแล้ว
อย่างนั้นเขาก็ต้องไปจัดการคนแก่บ้าง
ไม่ใช่แค่คนแก่ รอก่อนเถอะเขาจะไปหายันพวกที่อยู่ในหลุม
เช็คบิลให้หมด!
**
จู่ ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิด นายหญิงซูเพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน โรงเรียนอนุบาลก็โทรมาหาแล้ว
“อะไรนะ ทะเลาะวิวาท”
หลังจากที่นายหญิงซูวางสาย ก็รีบตามคุณท่านซูไปที่โรงเรียนอนุบาลทันที
ระหว่างทางก็โทรหาซูอีเฉิน
“อะไรนะ ทะเลาะวิวาท ซู่เป่าได้รับบาดเจ็บไหม”
ประโยคแรกที่ลุงใหญ่ถามก็คือซู่เป่าได้รับบาดเจ็บไหม
หลังจากนั้นก็ทิ้งการประชุมกลางคัน แล้วก็รีบเดินทางไปโรงเรียนอนุบาลทันที
ระหว่างทางซูอีเฉินก็โทรหามู่กุยฝาน
“อะไรนะ ทะเลาะวิวาท ซู่เป่าชนะไหม”
ประโยคแรกของมู่กุยฝานคือซู่เป่าชนะไหม
ซูอีเฉิน “……#@¥#”
“ความผิดเขาเอง เขาไม่คิดว่ามู่กุยฝานจะมาไม้นี้”
หลังจากมู่กุยฝานวางสายลงก็ถอนหายใจ ก็รู้อยู่แล้วว่าเด็กอนุบาลทะเลาะกันคงไม่ร้ายแรงถึงชีวิตหรอก
ในเมื่อไม่ได้ร้ายแรงถึงชีวิต แน่นอนก็ต้องถามว่าชนะไหม
ถ้าหากชนะ ต่อให้เจ็บ ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องเจ็บกว่าซู่เป่าแน่นอน
ถ้าหากได้รับบาดเจ็บ ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องได้รับบาดเจ็บมากกว่าอย่างแน่นอน
ไม่ว่าอย่างไรฝ่ายเราจะไม่เสียเปรียบแม้แต่นิดเดียว!
**
คนขับรถของตระกูลซูเหยียบคันเร่งจนรถแทบจะบิน
ชวีเสี่ยงก็เหยียบคันเร่งมิดไมล์ภายใต้สายตาดุดันของซูอีเฉิน
รถออฟโรดของมู่กุยฝานก็ยิ่งเจ๋งไปเลย ขับอย่างบ้าระห่ำปาดซ้ายทีขวาทีตลอดเส้นถนนบายพาส
หนึ่งชั่วโมงต่อมา คุณท่านซูกับนายหญิงซู ซูอีเฉิน และมู่กุยฝาน ทุกคนมาถึงที่โรงเรียนอนุบาลพร้อมกันราวกับมารวมตัวกันประชุม
ทุกคนย่างก้าวเข้ามาในโรงเรียนอนุบาลหน้าตาบึ้งตึง และสายตาเย็นชา
“……” ผอ.ซวยแล้ว
โอ๊ย ๆ อยากจะร้อง
เหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิดเลย กลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น
ในที่สุดมู่กุยฝานก็เจอซู่เป่าที่ห้องสำนักงาน พร้อมทั้งเด็กผู้ชายที่ทะเลาะวิวาทกับเธอ
หน้าของยัยหนูถูกข่วนเป็นรอยแดงหลายรอยจนเลือดซิบ มีร่องรอยทาเบตาดีนฆ่าเชื้อมาแล้วนิดหน่อย มันดูค่อนข้างร้ายแรงเลยในคราแรกที่เห็น
บนใบหน้าเด็กผู้ชายคนนั้นก็มีสีที่มาจากการเช็ดเบตาดีนเหมือนกัน และยังคงสะอึกสะอื้นเป็นช่วง ๆ
ซู่เป่านั่งอยู่บนโซฟา ประสานมือวางบนเข่าอย่างเรียบร้อย
ทว่ากลับพูดอย่างฉุนเฉียว “นายถนัดตีคนอื่นนี่ เก่งนักก็อย่าร้องสิ”
“ฉันจะให้ย่าของฉันตีเธอให้ตาย!”
ซู่เป่าถอนหายใจ หันหน้าไปเจอมู่กุยฝานเดินเข้ามา ทันใดนั้นก็เบะปาก ตะโกนด้วยความรู้สึกผิด
“พ่อ!”
เมื่อกี้ยังไม่รู้สึกผิดเลย
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพอเห็นพ่อ ลุงใหญ่ คุณตา และคุณยายมาแล้ว ก็รู้สึกผิดขึ้นมา
มู่กุยฝานเดินขึ้นมาข้างหน้าสองก้าว อุ้มซู่เป่าขึ้นมาตรวจเช็คอย่างละเอียด
“ได้ยินมาว่าลูกทะเลาะวิวาทเหรอ”
ซู่เป่าหวาดผวา “อืม...”
“ชนะไหม”
ดวงตาทั้งคู่ของซู่เป่าส่องแสงประกายขึ้นทันที ชูหมัดน้อย ๆ ของเธอขึ้นมา “ชนะค่ะ!”
ผอ.และครูคนอื่น “……”
ผู้ปกครองของหยางหยางยังมาไม่ถึง พอเห็นความสูงพ่อของซู่เป่าถึงกลับผวา ถูกขู่โดยไม่รู้ตัวจนไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง
มู่กุยฝานมองไปรอบ ๆ แล้วยิ้มอย่างเย็นชา
“ซู่เป่า ลูกต้องจำไว้นะ พวกเราจะไม่รังแกคนอื่น”
“แต่ถ้าหากคนอื่นกล้ามารังแกพวกเรา พวกเราก็จะต้องทำให้เขารู้ว่า พวกเราจะไม่ยอมถูกรังแกได้ง่าย ๆ”
“เข้าใจไหม”
“อื้ม ๆ ๆ เข้าใจแล้วค่ะ!”
คุณท่านซูเพียงถามเสียงเย็นชา “เกิดอะไรขึ้น” ทว่าตอนคุณท่านซูทำหน้านิ่งเย็นชาก็แผ่รังสีน่ากลัวเป็นพิเศษ
“เรื่องนี้ คือว่า...ท่านฟังฉันอธิบาย...ครูฮวา...เธอมาเล่าสิ!”
ครูฮวาตัวสั่น ทำได้เพียงแค่กัดฟันเล่า “ตอนเข้าเรียนหยางหยางค่อนข้างดื้อ ดึงกิ๊บ และผมของซู่เป่า ซู่เป่าโมโหก็เลยลงไม้ลงมือ”
ครูฮวาปาดเหงื่อที่ผุดบนหน้าผาก
ถ้าพูดขึ้นมาจริง ๆ ฝ่ายที่ผิดไม่ใช่ซู่เป่า…
ซู่เป่าอดทนมาสามครั้ง ครั้งที่สามถึงลงไม้ลงมือ
ทว่ายังพูดไม่ทันจบ หญิงชราผมขาวเต็มหัวก็ผลักประตูเข้ามา ปั้ง!
เธอได้ยินสิ่งที่ครูฮวาอธิบายพอดี ไม่ถามอะไรแม้แต่คำเดียวก็เริ่มบ่น
“อ๋อ แค่ดึงผมเบา ๆ ก็ถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือทำร้ายกันเลยเหรอ เป็นใคร ลุกขึ้นยืนให้ฉันดูสิ ให้ฉันดูคนสารเลวที่โหดร้ายขนาดนี้สักหน่อยสิ”
หยางหยางรีบวิ่งไป ร้องสนั่น “ย่า เธอทำร้ายผม แล้วยังเตะเข่าผมอีก เจ็บมาก ๆ เลยครับ”
หญิงชราด่าด้วยความโมโห “มันกลับกันไปหมดแล้ว หลานหัวแก้วหัวแหวนของฉันก็กล้าดีมาทำร้ายเหรอ มันไม่มีเหตุผลเลย ผู้ปกครองสอนมาอย่างไรกัน”
มู่กุยฝานที่อุ้มซู่เป่าอยู่ มองต่ำลงมาที่หญิงชราที่สูงราวหนึ่งเมตรครึ่ง พูดเยาะเย้ย
“มา ไหนลองบอกเหตุผลให้ผมฟังหน่อยสิ”
เดิมทีคิดว่าผู้ปกครองของอีกฝ่ายจะพูดจามีเหตุผล อย่างนั้นทุกคนก็ค่อย ๆ พูดด้วยเหตุผล อันที่จริงแล้วเด็ก ๆ ทะเลาะกันก็เป็นเรื่องปกติ
ทว่าใครจะไปรู้ว่าพอมาถึงยังไม่ทันยืนให้นิ่ง ก็ด่าก่อนแล้วโยนความผิดต่าง ๆ มาที่ซู่เป่า
หญิงชราร่างเล็กเงยหน้าขึ้นด้วยความลำบาก ถึงจะมองเห็นมู่กุยฝานที่สูงราวกับเสาไฟฟ้า คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักมาก่อน
ไฟในอกก็ยิ่งพร้อมปะทุยิ่งขึ้น
“พวกคุณทำร้ายคนมีเหตุผลไหมล่ะ”
ครูฮวาก็รีบอธิบาย “คุณย่าของหยางหยางเข้าใจผิดแล้วค่ะ เริ่มแรกตั้งแต่ตอนทานอาหารเช้าหยางหยางล้อซู่เป่า พอถึงตอนซู่เป่าแนะนำตัวก็ก่อกวนอีก สุดท้ายก็มาดึงผมของซู่เป่า ซู่เป่าถึงอดทนไม่ไหวค่ะ”
หญิงชราถึงกับสตั้น
กลับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “พูดหน่อยเดียวเป็นอะไรไป เด็กเล็กจะพูดอะไรไม่ดีได้แค่ไหนเชียว แค่นี้ก็ทำร้ายคนอื่นแล้ว นี่มันใจแคบเกินไปแล้วมั้ง”
“อีกอย่างดึงผม มีเด็กผู้ชายคนไหนไม่ซนบ้าง ดึงสักหน่อยก็ไม่เป็นไรหรือป่าว แค่นี้ก็ทำร้ายกันแล้วเหรอ”
ครูฮวา “……”
เป็นครูจะต้องไม่ลำเอียง ต้องแก้ไขความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายให้ได้
บางทีอาจเป็นเพราะซูเป่าไม่ดื้อ บางทีอาจเป็นเพราะหญิงชราพูดมากเกินไปจนทำให้คนอื่นโกรธ
ครูฮวาหยิบกิ๊บกระต่ายน้อยที่มีเส้นผมติดออกมาจากในมือ “หยางหยางดึงค่อนข้างแรงเลยนะคะ”
เพียงแค่เห็นกิ๊บกระต่ายน้อยที่มีเส้นผมติดพันอยู่ ก็สามารถจินตนาการได้เลยว่าตอนนั้นใช้แรงขนาดไหนดึงออกมา
มู่กุยฝานสีหน้าเย็นชา
สองตายายตระกูลซู และซูอีเฉินรู้สึกชาไปทั่วร่างกาย
ผอ.ตัวผอมแห้ง กระซิบ “ครูฮวา...”
ครูฮวาเก็บกิ๊บ สีหน้าไร้อารมณ์ “ตอนทานอาหารเช้า ซู่เป่ากินเยอะหน่อย หยางหยางก็แซว แซวว่าซู่เป่าเป็นยัยพุงโต กินเยอะขี้เยอะ กินอะไรก็ไม่เหลือเลย”
หญิงชรา “……”
ครูฮวาก็พูดอีก “ซู่เป่าเป็นนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่ วันนี้มาเป็นวันแรก ตอนแนะนำตัวหยางหยางก็แซวซู่เป่าอีกว่า มันม่วง มันเทศ”
“……”
ว่ายัยพุงโต มันเทศแล้วไงละ เป็นเรื่องปกติของเด็ก ๆ น่ารักบริสุทธิ์คิดอะไรก็พูดออกมา
ตรงกันข้าม ซู่เป่าเพิ่งมาที่นี่วันแรก มนุษยสัมพันธ์ก็แย่มาก
ทำไมหลานของเธอไม่ว่าคนอื่น ว่าแค่เธอล่ะ
หลานของเธอทำไมไม่ทะเลาะวิวาทกับคนอื่นล่ะ แต่ทะเลาะแค่กับเธอ
แน่นอนว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นแหละมีปัญหา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...