ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 128

ซู่เป่าได้ยินครูเชอร์รี่ถามแบบนี้ ก็พูดอีกครั้ง

“หนูรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกต้องนะคะ ครูควรจะพูดให้จัดเจนเลยว่าเขาทำผิด แล้วค่อยให้เขาขอโทษหนูถึงจะถูก”

ทำไมถึงพูด ขอโทษ ไม่เป็นไร ทั้ง ๆ ที่ยังไม่อธิบายว่าอะไรผิดอะไรถูกเลย

ถ้าหากเด็กผู้ชายขอโทษด้วยความจริงใจ เธอจะพูดว่าไม่เป็นไรอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่าเด็กผู้ชายคนนั้นตอนขอโทษไม่ได้แสดงออกว่ารู้สึกผิดแม้แต่น้อย

ครูเชอร์รี่ตะลึง “อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ครูมองข้ามไปเอง ต้องขอโทษจริง ๆ นะ ครั้งต่อไปครูจะต้องจำให้ได้เลย โอเคนะ”

ซู่เป่า “……”

ทำไมต้องครั้งหน้า

ครั้งนี้ก็ช่างมันอย่างนั้นน่ะเหรอ

เจ้าก้อนแป้งไม่ค่อยสบอารมณ์ เธอไม่อยากสนใจครูคนนี้แล้ว

ครูเชอร์รี่ลูบแก้มของเธอด้วยความไร้เดียงสา พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

“เอ๊ะ ฉันพูดอะไรผิดอีกเหรอเนี่ย...”

ที่อีกด้านของห้องเรียน ครูฮวาซึ่งทำงานเสร็จแล้ว

“โอเค เด็ก ๆ มาเช็คชื่อกัน”

เด็ก ๆ ก็รีบวางสิ่งของที่อยู่ในมือของตัวเองลงทันที บ้างก็วิ่งมาอย่างเร็ว บ้างก็เดินเอื่อยเฉื่อย

ซู่เป่าก็วิ่งมาอย่างเร็ว เธอทิ้งครูเชอร์รี่ไว้ทันที แล้วไปหยุดอยู่ด้านหน้าครูฮวา

ดวงตาครูฮวาก็มีรอยยิ้มผุดขึ้นมา

เห็นนักเรียนที่เดินอืดอาดอยู่ด้านหลัง เธอเลยเตือน

“คุณตาแก่ ๆ เวลาเขาวิ่งยังเร็วกว่าพวกเธออีก หยางหยาง ซินซิน เฉินเฉิน สู้ ๆ”

“เด็ก ๆ ที่รีบวิ่งมาเก่งมาก ๆ ทุกคนต้องหัดเลียนแบบเพื่อน ๆ ที่วิ่งเร็วนะ โดยเฉพาะแบบซู่เป่านักเรียนใหม่ของห้องเรา”

เด็กสองสามคนที่เดินเอื่อยเฉื่อยก็รีบวิ่งมาด้านหน้า แม้แต่เสี่ยวหยางหยางก็รีบวิ่งขึ้นมาทันที

แท้จริงแล้วไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็ชอบได้รับคำชื่นชม

“เหมือนเดิมนะ ถ้าครูพูดว่า เด็ก ๆ พวกเราก็ขานรับว่า เฮ้ เฮ้ เฮ้ ครูจะลองฟังว่าเสียงใครดังที่สุด”

“เด็ก ๆ”

“เฮ้ เฮ้ เฮ้!”

ทันใดนั้นซู่เปาก็ตระหนักได้ว่าเขาเล่นแบบนี้กันนี่เอง

พอครั้งที่สองตอนที่ครูฮวาพูด “เด็ก ๆ ”

ซู่เป่าแผดเสียงออกมาอย่างดัง “เฮ้ เฮ้ เฮ้!”

เสียงนี้ดังจนทำให้นกกระจอกที่อยู่นอกหน้าต่างผงกหัวด้วยความสับสนแล้วกระพือปีกบินหนีไป

พวกครูก็ตกตะลึง

จี้ฉางเม้มปาก

ครูฮวาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา

“โอ้โห เสียงที่ดังที่สุดคือซู่เป่า ครูมอบสติกเกอร์หนึ่งอันเป็นการชื่นชม”

พลางติดสติกเกอร์ [เก่งจริง ๆ] บนหน้าผากของซู่เป่า

ซู่เป่าเบิกตากว้าง เอื้อมมือขึ้นไปสัมผัสมัน

เธอได้รับรางวัลด้วยอ่ะ!

โรงเรียนอนุบาลสนุกจริง ๆ!

ครูฮวาเริ่มเช็คชื่อ ซู่เป่าก็ตั้งใจดูว่าเพื่อน ๆ ขานรับกันอย่างไร

พอมาถึงตัวเอง ยังคงพูดด้วยเสียงดัง “มาค่ะ”

ครูอีกสองคนต่างก็พากันยิ้ม

เด็กคนนี้ตั้งใจมากเลย น่ารักมาก ๆ

ครูอิงเถาอดไม่ได้ที่จะพูด “ซู่เป่าน่ารัก ฉันตกหลุมรักจนขึ้นไม่ไหวแล้วนะ”

ครูที่อยู่ข้าง ๆ เธอพูดติดตลก “งั้นเธอต้องรีบมีลูกกับครูโจวสักคนแล้วล่ะ”

ครูอิงเถาเขินอาย “พูดอะไรกันเนี่ย พวกเรายังไม่ได้แต่งงานกันเลย”

ระหว่างที่กระซิบกระซาบกันอยู่ ครูฮวาก็เช็คชื่อเสร็จ จึงให้ซู่เป่าแนะนำตัว

ซู่เป่าก็พูดออกมาตามที่คุณยายได้สอนเธอไว้เมื่อคืน

“สวัสดีทุกคน ฉันชื่อซูจื่อซู่ ทุกคนสามารถเรียกฉันว่าซู่เป่าก็ได้

ปีนี้ฉันอายุสี่ขวบ ดีใจมาก ๆ ที่จะได้เป็นเพื่อนกับทุกคน”

พูดฉะฉานไม่ตื่นเวที ครูก็ปรบมือให้ นักเรียนก็พากันปรบมือตาม

ขณะนั้นเองเสี่ยวหยางหยางเด็กผู้ชายคนนั้นก็เริ่มที่จะทำเรื่องพิเรนทร์อีกแล้ว

เขาหัวเราะแล้วยักคิ้วหลิ่วตา “ซูจื่อสู่ ยัยนั่นชื่อจื่อสู่ (มันม่วง) ฮ่า ๆ ๆ”

“ยัยนั่นเป็นมันเทศลูกใหญ่ มันเทศลูกใหญ่ที่สามารถกินได้ขี้ดี แบร่ ๆ ๆ”

“……”

น้ำเสียงขอครูฮวาเปลี่ยนไป “หยางหยาง ตั้งฉายาให้คนอื่นเป็นพฤติกรรมที่ไม่มีมารยาท เธอทำแบบนี้สามารถทำร้ายจิตใจซู่เป่าได้ รีบขอโทษซู่เป่าเดี่ยวนี้”

เมื่อเห็นว่าครูน้ำเสียงจริงจัง เด็ก ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะลดเสียงให้เบาลง

และทุกคนก็พากันมองไปที่หยางหยาง

ทันใดนั้นหยางหยางก็รู้สึกอาย สีหน้าเก้อเขิน แล้วพูดขอโทษอย่างไม่เต็มใจ

“หึ!” ไม่ให้อภัย

ซู่เป่ามองไปที่ครูฮวา “หนูไม่อยากให้อภัยเขา ตอนที่เขากินข้าวก็ว่าหนูยัยพุงโต ครูเชอร์รี่ก็ให้เขาขอโทษหนู เขาก็ขอโทษแบบไม่จริงใจเลย”

ครูฮวามองไปที่ครูเชอร์รี่แล้วก็พูดกับซู่เป่า “ไม่เป็นไร ไม่อยากให้อภัยเขาก็ยังไม่ต้องให้อภัย รอหนูรู้สึกว่าสามารถให้อภัยได้เมื่อไหร่ก็ค่อยบอกว่า ไม่เป็นไร โอเคไหมคะ”

ซู่เป่าดีใจแล้วพยักหน้า

ครูเชอร์รี่กลับรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

เธอก็สอนอย่างนี้นี่นา

แต่เด็กสองคนนี้ไม่ฟังเธอ จะให้เธอทำอย่างไร...

ต่อมาครูฮวาก็แนะนำคุณครูให้ซู่เป่า และพวกครูก็แนะนำตัวเอง

โรงเรียนอนุบาลนานาชาติอู่เซี่ยงเป็นโรงเรียนอนุบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ตอนเริ่มแรกห้องหนึ่งรับนักเรียนแค่สิบคนเท่านั้น ต่อมาเพราะแรงกดดันจากทรัพยากร ก็เลยเปลี่ยนเป็นยี่สิบคนต่อห้อง

เดิมทีจะมีครูผู้สอนสองคน ครูพี่เลี้ยงสองคน ต่อมาเปลี่ยนเป็น ครูผู้สอนสี่คน ครูพี่เลี้ยงสามคน

ครูสี่คนรับหน้าที่สอนเป็นหลัก อีกสามคนรับหน้าที่เป็นครูพี่เลี้ยงเด็ก

ครูที่มีหน้าที่สอนเป็นหลัก เวลาเข้าชั้นเรียนก็จะควบคุม จัดลำดับการสอน พัฒนาศักยภาพ พัฒนาภาษา เป็นต้น ในขณะที่ครูพี่เลี้ยงจะคอยดูแลพวกเด็ก ๆ เป็นหลัก เช่น ช่วยเด็ก ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อเหงื่อออก พาเข้าห้องน้ำอะไรทำนองนั้น...

นอกจากมีครูประจำชั้นชื่อครูฮวาแล้ว ยังมีครูอีกสามคนชื่อครูองุ่น ครูเชอร์รี่ และครูส้มโอ โดยตั้งชื่อตามผลไม้เพื่อให้เด็กจำได้ง่ายขึ้น

ส่วนครูพี่เลี้ยงเด็กชื่อครูเหมียว ครูกระต่าย ครูนกยุง ใช้ชื่อสัตว์น่ารัก ๆ เป็นหลัก ให้แตกต่างไปจากครูผู้สอน

หยางหยางอารมณ์ไม่ดีนั่งลงที่เก้าอี้แล้วยืดขา เท้าก็เตะไปที่เก้าอี้ของเพื่อนคนข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายแล้วก็ยังไม่สลด

เด็กที่อยู่ด้านหน้าหันหน้ากลับมาด้วยความโมโห “แกจะเตะฉันทำไม!”

หยางหยาง “ไม่นะ ฉันเตะเก้าอี้ ไม่ได้เตะแกสักหน่อย!”

เด็กคนนี้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมหันหน้าไปหาครูเชอร์รี่ที่กำลังดูแลระเบียบในห้องเรียนอยู่ด้านหลังหยางหยาง

ครูเชอร์รี่ได้สติก็พูดว่า “เกิดอะไรขึ้น หยางหยางตั้งใจเรียนสิ ซินซินก็ตั้งใจเรียนนะ พวกเธอก็เป็นนักเรียนที่เก่งมากเลย”

ซินซินทำได้เพียงแค่หันหลังกลับ คนที่นั่งข้างเธอบังเอิญเป็นซู่เป่าพอดี

หยางหยางรู้สึกเบื่อก็เริ่มเล็งไปที่ผมจุกกลม ๆ สองข้างของซู่เป่า

เส้นผมดำเงานุ่มสลวยของเธอถักเป็นเปียแล้วม้วนให้เป็นจุกกลม ๆ ประดับด้วยกิ๊บกระต่ายสองตัวซึ่งดูน่ารักมาก

หยางหยางยื่นมือออกมาอย่างซุกซน และกระชากอย่างแรง

กิ๊บกระต่ายถูกกระชากจนหลุดออกมาถึงขนาดที่เส้นผมยังติดกิ๊บออกมาด้วย

ซู่เป่าเจ็บจนร้องออกมา

เธอก็หันกลับไปมองหยางหยาง แล้วพูดด้วยความโมโห “นายทำอะไร!”

ครูฮวาที่กำลังสาธิตท่าออกกำลังกายก็หันหน้ากลับมาด้วยความสงสัย

เมื่อเห็นซู่เปาโกรธ หยางหยางกลับคิดว่ายิ่งสนุกขึ้น ก็ยังยื่นมือออกไปจับดึงผมจุกเล็ก ๆ ที่อยู่บนหัวเธอ

ดึงไปก็พูดไปด้วย “คนอื่นถักเปียกันหมด ทำไมเธอถึงมัดจุกล่ะ ฉันช่วยเธอดึงออกถึงจะสวยขึ้นนะ”

จี้ฉาง “ให้ตายเถอะ อดทนจนถึงขีดสุดแล้ว ซู่เป่ารีบบอกครูฮวาเลย...”

ซู่เป่าโมโห ใช่ หมดความอดทนแล้วนะ

เธอเลื่อนเก้าอี้ออกอย่างสุภาพ

หลังจากนั้นเดินไปด้านหน้าของหยางหยาง

ยืนเขย่งเท้าแล้วจิกผมของหยางหยางอย่างแรง

หยางหยางรู้สึกเจ็บ ก็ยกมือตีไปที่ซู่เป่าอยากไม่รู้ตัว

ซู่เป่าก็ไม่อ่อนข้อให้ ยกมือขึ้นจับ แล้วก็เตะไปที่หัวเข่าของหยางหยาง

หยางหยางถูกเตะจนเซถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วก็ล้มลงไปกองกับพื้นเสียงดังตุ้บ…

เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ตอนครูฮวากำลังรีบวิ่งเข้ามาหาเด็กทั้งสองคน หยางหยางก็ถูกเตะเข้าไปแล้ว ร้องไห้ใหญ่เลย

“เธอตีผม เธอตีผม ผมจะฟ้องคุณย่า”

“นังสารเลว แกจะต้องไม่ตายดี”

หยางหยางร้องไปด้วยด่าไปด้วย แต่ละคำที่พ่นออกมาไม่รู้ว่าเขาไปเรียนมาจากใคร

ซู่เป่ายืนเท้าเอว ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอเต็มไปด้วยความดื้อรั้น ไม่ยอมแพ้ และหงุดหงิดสุด ๆ

จี้ฉางอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

เขาไม่คิดมาก่อนว่าเจ้าแก้มก้อนจะทะเลาะวิวาทตั้งแต่วันแรกของการมาเรียน

น่ะ น่ะ นี่...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน