ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1298

เจ้าของร้านเสื้อผ้าเสียใจจนอยากกระอักเลือดออกมา

เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าครั้งนี้ตัวเองจะเข้าตาจนจริงๆ

“ตัวเงินตัวทอง” ที่เขาติดตามไม่ใช่ตัวเงินตัวทอง แต่เป็นพญามัจจุราชผู้สูงส่ง!

“ท่านพญายม... ข้า... ข้าถูกใส่ร้าย!” เจ้าของร้านเสื้อผ้าเกลือกกลิ้งบนพื้นราวกับถูกสายฟ้าฟาด

ซู่เป่าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก้มมองเขาแล้วพูดว่า “เจ้าพูดต่อสิว่าถูกใส่ร้ายอย่างไร”

เจ้าของร้านเสื้อผ้า “...”

ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมก็เสียใจสุดๆ เขาเข้าไปยุ่งเรื่องชาวบ้านทำไม

แล้วดันไปเชื่อคำลวงโลกของเจ้าของร้านเสื้อผ้าซะงั้น

เห็นชัดๆ ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ท่านพญายมจะเป็นคน “ปล้น” แต่เจ้าของร้านเสื้อผ้ากลับบิดเบือนความจริงและพูดโกหก

“ท่านพญายม ข้าเองก็ถูกหลอกเช่นกัน” ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมรีบแก้ต่าง

ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมท่านพญายมถึงปรากฏตัวในร่างเด็ก แต่พวกเขาเป็นเพียงผีกระจ้อยร่อยจะกล้าพูดเรื่องของพญายมได้อย่างไร

ซู่เป่าไม่มองผู้ดูแลโรงเตี๊ยม แต่ยังคงจ้องมองเจ้าของร้านเสื้อผ้า “พูดต่อสิ”

ทันใดนั้น บารมีอันน่าเกรงขามของพญายม... ก็แผ่ซ่านออกมา ใบหน้าน้อยๆ มีสีหน้าเคร่งขรึมและแฝงไปด้วยความชอบธรรม ไม่มีผีตนไหนสงสัยหรือไม่เคารพเลย

“ท่านพญายม ข้า ข้า...”

เจ้าของร้านเสื้อผ้าแทบจะร้องไห้

ผีร้ายสองตนที่อยู่ข้างๆ ทนต่อบารมีอันน่าเกรงขามของพญายมไม่ไหว รีบแย่งกันพูดว่า “ท่านพญายมโปรดเมตตาด้วย ทั้งหมดเป็นเพราะเถ้าแก่บังคับพวกเรา”

“ใช่ๆๆ ทั้งหมดเป็นความคิดของเถ้าแก่ พวกเราแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น...”

ผีร้ายสองตนพูดไปพลางเอาหัวโขกพื้น

เจ้าของร้านพูดไม่ออก ถ้าเขารู้ว่าเด็กคนนี้คือท่านพญายม ให้เขาสิบใจเขาก็ไม่กล้าปล้นหรอก

“ท่านพญายมโปรดเมตตาด้วย...” เจ้าของร้านทำได้เพียงเอาหัวโขกพื้น ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ

ในเวลานี้ เขาเสียใจสุดๆ แทบอยากตบหน้าตัวเองหลายๆ ที ปล้นใครไม่ปล้น ดันไปปล้นพญายม

ทันใดนั้น เจ้าของร้านพลันนึกถึงแววตาของซู่เป่าตอนมองเสื้อผ้าในโดมแสง

กระทั่งตอนเธอจะจากไป สายตาคู่นั้นยังหันกลับมามองอย่างอาวรณ์

พญายมชอบเสื้อผ้าชุดนั้น!

เจ้าของร้านรีบพูดประจบว่า “ท่านพญายม ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่ ข้าน้อยผิดไปแล้ว ท่านพญายมได้โปรดให้โอกาสข้าน้อยอีกสักครั้ง...”

เขาเขยื้อนตัวเข้าไปใกล้เล็กน้อย แล้วพูดเสียงเบาว่า “เสื้อผ้าที่เหลืออยู่ในร้านของข้าน้อย ข้าน้อยยกให้ท่านหมดเลย ขอแค่ท่านอย่าถือสาคนต่ำต้อยอย่างข้าน้อยเลยนะ...”

นัยน์ตาของซู่เป่าไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ยังคงมองเจ้าของร้านเสื้อผ้าเงียบๆ

ที่แท้คำพูดของบรรพบุรุษก็หมายความว่าอย่างนี้นี่เอง พวกเขายกเสื้อผ้าให้เธอฟรีๆ จริงๆ

ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมตกใจจนหน้าซีดเผือด แทบอยากจะหักนิ้วมือเขา

“ข้าเปล่า...” เขาพูด

แต่คำแก้ตัวนั้นช่างดูไร้น้ำหนัก

ผีบำเพ็ญส่วนน้อยที่ปะปนอยู่ในหมู่ภูตผีต่างก้มหน้าก้มตา แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเห็นด้วยกับคำพูดของเจ้าของร้านเสื้อผ้า

ซู่เป่าจึงเข้าใจว่าผีบำเพ็ญในยมโลกเป็นแบบนี้จริงๆ

กฎแห่งป่ามืด?

เมื่อถูกค้นพบจะมีเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่อยู่รอดหรือไม่มีฝ่ายใดรอดชีวิตเลย

สรุปง่ายๆ ก็คือไม่คุณก็ฉันตาย

แท้จริงแล้วที่บรรพบุรุษพูดว่าการบำเพ็ญนั้นโหดร้ายมันหมายความว่าอย่างนี้นี่เอง และความจริงอาจโหดร้ายยิ่งกว่าที่เจ้าของร้านเสื้อผ้าพูดเป็นร้อยเท่า

ก็เหมือนนิทานที่เธอเคยได้ยินในโลกมนุษย์ เรื่องเลี้ยงอสรพิษ แมลงหลายตัวถูกขังรวมกันโดยไร้น้ำและอาหาร แมลงเหล่านั้นก็จะต่อสู้และกัดกินกันเอง ใช้เลือดเนื้อของอีกฝ่ายเป็นทรัพยากรสำคัญในการอยู่รอด

คนกินกันเอง... ใครอยู่ถึงสุดท้ายก็คือพญาอสรพิษ มันสามารถได้รับสิทธิ์ในการอยู่รอด

ทันใดนั้น ซู่เป่าพลันพบว่าสรรพชีวิตใต้กฎสวรรค์นี้ช่างเหมือนฝูงอสรพิษจริงๆ...

ซู่เป่าหันไปมองลุงเจ็ด

บางทีบรรพบุรุษอาจจะถูกจริงๆ...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน