ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1297

เมื่อซู่เป่าเห็นลูกกระสุนก็เข้าใจในทันที

“ลุงเจ็ดมีกายแสงสีทองเพราะผลบุญที่เต็มเปี่ยมจึงหนุนนำให้กระสุนเป็นแสงสีทองไปด้วย”

แสงสีทองเป็นตัวแทนความยุติธรรมและความเชื่อ

ความดีชนะความชั่ว แสงแห่งความยุติธรรมเอาชนะผีร้ายสองตนและเจ้าของร้านเสื้อผ้าได้จริงๆ

“นี่...”

ซู่เป่าและบรรพบุรุษมองหน้ากัน

ซูอวิ๋นเจาพูดว่า “โอ้ ยังมีอีก”

เขาล้วงเอาอาวุธลับ กลไก และของจิปาถะทั้งหมดออกมา

มีทั้งเชือกที่แข็งแรงและสามารถจัดเก็บไปในชั่วพริบตา มีดพับสวิสอเนกประสงค์ และมีดสั้นคมกริบ...

ถ้าไม่เอาออกมาก็ไม่มีทางรู้ว่าเขาซ่อนอะไรไว้มากมายขนาดนี้

ซู่เป่าและบรรพบุรุษถึงกับพูดไม่ออก

นัยน์ตาของซูอวิ๋นเจาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

เป็นผีบำเพ็ญสนุกชะมัดเลย

คุณดูสิ จะลงมือเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะทำให้อีกฝ่ายตาย

เมื่อก่อนตอนที่เขาต้องปะทะกัน บางครั้งถึงแม้ว่าจะเป็นศัตรู แต่ก็ต้องพิจารณาไว้ชีวิตอีกฝ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเลวร้ายลง... สรุปก็คือมักถูกจำกัดการโจมตี

แต่ที่นี่ไม่เหมือนกัน สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ

ซูอวิ๋นเจาพูดว่า “ครั้งหน้าเราจะไปที่ไหนกัน จะมีคนมาปล้นไหม”

บรรพบุรุษอ้าปากค้าง

ไม่ได้ๆ หมู่บ้านมือใหม่นี้ง่ายเกินไปสำหรับเขา!

ซู่เป่าดึงผ้าขี้ริ้วที่ยัดอยู่ในปากของเจ้าของร้านเสื้อผ้าออก ดูก็รู้ว่าเผลอคว้าจากบนโต๊ะ

ทันใดนั้น คำสบถด่าของเขาก็พรั่งพรูออกมาเหมือนคลื่นยักษ์

“หน็อยแน่ ที่แท้พวกเจ้าก็จงใจวางแผนเป็นนกต่อใช่หรือไม่”

“ละลายใจบ้างไหมที่หลอกล่อพวกข้ามา เพราะเสื้อผ้ามันแพงเกินไปก็เลยไม่อยากจ่ายเงินใช่หรือไม่”

“พวกเจ้าจ่ายแค่หินสีชาดสองก้อน แล้วคิดจะเอากลับไป”

“นี่พวกเจ้าปล้นกันชัดๆ มันเป็นอาชญากรรม ข้าจะไปฟ้องท่านพญายมให้ลงโทษพวกเจ้า”

เจ้าของร้านเสื้อผ้าแสดงสีหน้าแค้นเคืองอย่างกับผู้ร้ายกลายเป็นผู้ถูก

อีกอย่าง ตอนนี้เขาแค่ต้องหนีออกจากที่นี่ให้ได้ พอเขาออกจากตลาดผีนี้ได้แล้ว จะไปหรือไม่ไปตำหนักเหยียนหลัว ใครจะรู้ว่าเขาจะไปไหน ถึงตอนกลับมาค่อยบอกว่าเขาไปมาแล้ว

เมื่อเห็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าพูดอย่างมั่นใจและดูหนักแน่น ทุกคนจึงค่อนข้างเชื่อพวกเขา

เพราะผู้ดูแลโรงเตี๊ยมรู้จักกับเจ้าของร้านเสื้อผ้าก็เลยเชื่อคำพูดของเขามากกว่า และต้องการจะแก้มัดให้พวกเขาก่อน

แต่กลับได้ยินซู่เป่าพลันพูดว่า “เดี๋ยวก่อน”

เธอเอื้อมมือจับปกคอเสื้อของตัวเองก่อนจะดึงออก ทันใดนั้นแสงสีทองก็ส่องประกายต่อสายตาทุกคน จากนั้นชุดธรรมดาที่เธอใส่ก็กลายเป็นชุดทางการของพญายม บนศีรษะยังสวมหมวกทางการที่เป็นสัญลักษณ์ของพญายามอีกด้วย

เปลี่ยนชุดอัพเลเวลในพริบตาเดียวจริงๆ

ซู่เป่าเดินไปนั่งบนเก้าอี้สำหรับดื่มชาที่อยู่ข้างๆ ตามใจชอบ จากนั้นโยนผ้าที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะ

“ข้าอยู่ตรงนี้ พูดมาได้เลย” เธอเงยหน้าขึ้นและมองเจ้าของร้านเสื้อผ้าอย่างเย็นชา

ทุกคนตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ เจ้าของร้านเสื้อผ้าก็ถลึงตาโต ทันทีที่ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมเห็นดังนั้นก็รีบคุกเข่าลงพลางพูดอย่างหวาดกลัวว่า “ท่าน... ท่านพญายม”

ในยมโลกมีเสื้อผ้ามากมายหลากหลายแบบให้เลือกใส่ได้ตามใจชอบ แต่เสื้อผ้าของพญายมนั้นไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น ซู่เป่ายังมีออร่าและพลังอำนาจเฉพาะตัวของพญายม ไม่มีภูตผีในยมโลกตนไหนรับรู้มันไม่ได้ เธอคือพญายมจริงๆ

เจ้าของร้านเสื้อผ้าตกใจจนหน้าซีดเผือด หน้าซีดยิ่งกว่าพ่อของเขาที่ตายมาแล้วสามวัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน