ซู่เป่าตกใจมาก นี่เป็นความเป็นไปได้เดียวที่เธอคิดออก
ว่ากันว่าเดินคนละทาง ทัศนคติจะไม่ตรงกัน
ถ้าบรรพบุรุษเป็นท่านผู้เฒ่าคนนั้น แสดงว่าเธอและเขาเดินคนละทางจริงๆ
บรรพบุรุษพูดอย่างหงุดหงิดว่า “ท่านผู้เฒ่าอะไร ฉันเป็นบรรพบุรุษของหนูนะ ฉันเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าบรรพบุรุษเป็นแค่ผีบำเพ็ญธรรมดาเท่านั้น”
เพียงแต่อาณาเขตเยอะไปหน่อย กิจการก็เลยเยอะไปด้วย...
อธิบายไปตอนนี้เธอก็คงไม่เข้าใจ รอพรุ่งนี้เขาพาเธอไปดูสถานที่จริงแล้วเธอก็จะเข้าใจเอง
ซู่เป่ามองเขาอย่างสงสัย “ถ้าอย่างนั้นบรรพบุรุษก็อยู่ในขั้นจักรพรรดิเหรอคะ”
บรรพบุรุษหัวเราะฮ่าๆ “ฉันก็อยากอยู่หรอก แต่บรรพบุรุษของหนูเป็นแค่ผีบำเพ็ญธรรมดาจริงๆ พูดไปหนูก็ไม่เชื่อ เฮ้อ”
เขาล้วงของที่มีลักษณะคล้ายกับจี้เหรียญหยกสีแดงออกมาพลางพูดเชิงอบรมสั่งสอนว่า
“นอกจากความเป็นไปได้ทั้งสองอย่างที่หนูพูดมาแล้ว ยังมีอีกความเป็นไปได้หนึ่ง นั่นก็คือฉันพกอาวุธผีที่สามารถพลางตัวในเขตแดนได้ ทำให้ผู้อื่นมองไม่เห็น เข้าใจไหม”
ย่อมมีผีบางประเภทที่ไม่อยากให้ใครรู้สถานะของตัวเอง ดังนั้นจึงมีอาวุธวิเศษชนิดนี้ขึ้นมา
เขาเองก็ได้มันมาโดยบังเอิญ หากคู่ต่อสู้ที่อยู่ในเขตแดนเดียวกันรู้ว่าเขาอยู่ในขั้นยมทูตแล้ว แต่จู่ๆ วันหนึ่งกลับไม่สามารถรับรู้สถานะของเขาได้...
เช่นนั้นอีกฝ่ายก็จะคิดว่าเขาอาจเลื่อนขั้นแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงระแวดระวัง และไม่กล้าลงมือสุ่มสี่สุ่มห้า
“บางเวลาผีบำเพ็ญลึกลับหน่อยก็ดี ตอนไม่มีพลังอำนาจต้องถ่อมต่ำ แต่พอมีพลังอำนาจแล้วยิ่งต้องถ่อมตัว” บรรพบุรุษถือโอกาสสั่งสอนอีกครั้ง
ซู่เป่ายกมือขึ้น... แล้วจิ้มแก้มของบรรพบุรุษ
“ที่แท้บรรพบุรุษก็เป็นยมบาลขั้นปลายแล้ว เก็บความลับได้เก่งจริงๆ นะ”
ทันทีที่บรรพบุรุษนำอาวุธผีพลางตัวออก เธอก็รู้สึกได้ถึงพลังที่แท้จริงของบรรพบุรุษ
แม้ว่า... แต่...
เธอก็ยังตกใจมากอยู่ดี
เธออยู่ในยมโลกมาตั้งนาน ระดับยมบาลที่เธอเคยเจอก็มีแค่พวกฉู่เจียงหวัง รวมทั้งท่านอาจารย์ที่เพิ่งเลื่อนขั้น ผีขี้ขลาด ผีหลายใจ และอาเจีย
ในเมืองเฟิงตูจะมีการแบ่งแยกลำดับขั้นอย่างชัดเจน นอกจากระดับยมบาลและพญาผีหรือผีขุนศึกเจ็ดแปดตนที่เป็นลูกสมุนของพวกเขาแล้ว ส่วนพลเรือนที่เหลือล้วนเป็นผีธรรมดาทั้งสิ้น
คิดไม่ถึงว่าบรรพบุรุษจะแฝงตัวอยู่ในนั้น แถมยังอยู่ในระดับยมบาลอีกด้วย
โอ้ ไม่แน่อาจจะมีพวกที่พลางตัวคนอื่นๆ อยู่ แต่ซู่เป่าเชื่อว่ามีน้อยมาก น้อยจนนับนิ้วมือข้างเดียวได้
บรรพบุรุษหัวเราะร่า “เฮ้อ ผีก็คือผี ฉันก็เป็นแค่ผีแก่ตนหนึ่ง จะเรียกซ่อนได้ยังไง”
ซู่เป่า “...”
ฉันเชื่อคุณกับผีน่ะสิ ตาแก่อย่างคุณเจ้าเล่ห์จะตาย
“เดี๋ยวก่อนค่ะ... ทำไมถึงเงียบไปแล้ว ลุงเจ็ดเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ทันใดนั้นซู่เป่าก็นึกถึงลุงเจ็ด แล้วรีบกระโดดลงจากตั่งที่อยู่ข้างหน้าต่างทันที
“แย่แล้วๆ ลุงเจ็ดต้องถูกพวกเขาย่ำยีแล้วแน่ๆ” ซู่เป่ารีบวิ่งออกไปข้างนอก
บรรพบุรุษก็รีบตามไปด้วย
มัวแต่คุยกันจนเพลิน เกือบลืมไอ้หนุ่มซูอวิ๋นเจาไปเลย
เมื่อทั้งคู่มาถึงหน้าประตูห้องของซูอวิ๋นเจาอีกครั้ง บรรพบุรุษก็สงบสติอารมณ์ กลั้นหายใจ เตรียมตะโกนเสียงดังก้องว่าบังอาจ!
ซู่เป่าก็ถกแขนเสื้อพร้อมลุยแล้วเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...
รอบนี้หายนานมาก รอตอนใหม่อยู่นะคับ...