เถ้าแก่หงก้มหน้าครุ่นคิด คิดถึงความเป็นไปได้ที่จะแบ่งเงินปันผลให้พญายมตัวน้อยห้าเปอร์เซ็นต์
พญายมแล้วอย่างไร เป็นพญายมแล้วจะทำธุรกิจไม่ได้เหรอ? ใช่ไหม
ทว่ากลับได้ยินหลงจู๊หลีเอ่ยขึ้นว่า “เช่นนั้นห้าเปอร์เซ็นต์ก็แล้วกัน! ผู้หญิงอย่างเจ้าก็ไม่ง่ายเลยทีเดียว ข้าเองก็ไม่ต้องการเยอะ อีกอย่างการอบรมและการจัดการรายวันของพนักงานข้าจะช่วยเจ้าเอง”
เถ้าแก่หงยิ้มแต่ไม่พูดไม่จา
อบรมพนักงานงั้นเหรอ? โอ๊ะ การอบรมเพียงแค่ต้องมาฟังคำบรรยาย ไม่ต้องลงทุนอะไร เงินเดือนและค่าที่พักค่าอาหารของพนักงานที่สำคัญที่สุด เธอก็ยังต้องเป็นคนจ่าย
การจัดการรายวัน? เขาไม่ได้ทำอะไรก็จะยื่นมือเข้ามาจัดการเรื่องของเธอ ก็เหมือนกับการที่คุณเปิดร้านอยู่ดี ๆ จู่ ๆ ก็มีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาบอกกับคุณว่าผมจะช่วยคุณดูร้านเอง คุณแบ่งกำไรสุทธิให้ผมห้าเปอร์เซ็นต์นะ
มีเงินก้อนนี้ เธอสามารถรับสมัครผู้จัดการเก่ง ๆ ดี ๆ ได้สิบกว่าคนเลยด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำยังไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขโมยร้านไปอีกด้วย ทำไมต้องแบ่งเงินปันผลกับเขาด้วยล่ะ
เถ้าแก่หงพูดกับผีสาวพนักงานขายเสื้อผ้าในร้านว่า “เสี่ยวอวี๋ ไปหยิบสมุดบุญกุศลมาที แล้วจ่ายบุญที่สั่งสมให้หลงจู๊หลีไปสิบล้าน”
ซื้อข่าวด้วยสิบล้าน นับว่าแพงเป็นอย่างมาก ข่าวประเภทนี้ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวก็ต้องลือสะพัดมาอยู่ดี ถึงเวลานั้นซื้อข่าวนี้หนึ่งล้านก็นับว่าโง่แล้ว
เธอซาบซึ้งที่หลงจู๊หลีมาบอกข่าวนี้กับเธอในเวลานี้จริง ๆ ถึงอย่างไรบางครั้งข่าวที่เร็วกว่าก้าวหนึ่งก็สามารถช่วยชีวิตได้ ฉะนั้นจึงยอมให้สิบเท่า
สีหน้าของหลงจู๊หลีปั้นยากเล็กน้อย รับสิบล้านไป ก่อนจะประสานมือคารวะและเดินจากไป
กระทั่งกลับมาถึงโรงเตี๊ยม เขาถึงได้เอ่ยด่าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ไอ้พวกเนรคุณ นี่ข้าก็นับได้ว่าช่วยชีวิตนางเอาไว้ครั้งหนึ่ง ไม่นึกเลยว่าจะช่วยหมาป่าตาขาวเอาไว้!”
“สตรีก็ทั้งหน้าเงินทั้งชอบวัตถุนิยมกันทั้งนั้น ถุ้ย! พอรู้ว่าสามีตัวเองลงมาในนรกแล้วไม่เพียงแต่ยังไม่สลดใจ แต่ยังรีบกลับมารับช่วงต่อร้านเสื้อผ้าอีก ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้ว”
เขาประเมินเธอสูงเกินไป โชคดีที่เขายังถอยออกมาก้าวหนึ่ง เอาแค่ห้าเปอร์เซ็นต์!
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงได้หอบเอาทั้งคนทั้งเงินไปจนเกลี้ยงแล้ว
ไม่รู้จักชั่วดี!
ในขณะที่กำลังพึมพำด่าไป เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา
ท่าทางราวกับอายุประมาณเก้าขวบ สวมชุดเดรสลายดอกไม้สีเหลืองอ่อน มีสไตล์ของโลลิตาอยู่เล็กน้อย แต่สีสันไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างโลลิตาขนาดนั้น เพิ่มความโรแมนติกอยู่สองสามส่วนอย่างพอเหมาะพอดี
อ่อนโยนไร้เดียงสา น่ารัก ใบหน้าน้อย ๆ สวยจนเพริศแพร้ว เต็มไปด้วยแสงส่องประกาย
บุคลิกลักษณะแบบนี้ แตกต่างไปจากบุคลิกลักษณะของยมบาล
หลงจู๊หลีสติหลุดไปอยู่ครู่หนึ่งถึงได้ตอบสนองกลับมา จากนั้นก็รีบค้อมเอวเอ่ยขึ้นอย่างมีมารยาท “คารวะ...”
ซู่เป่ายกมือขึ้นห้ามไม่ให้เขาพูดต่อ
“หลงจู๊หลี ที่ปากคุณกำลังพร่ำด่าอยู่คือใครเหรอคะ?” ซู่เป่าเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
หลงจู๊หลีรีบฉีกรอยยิ้ม ก่อนจะตอบไปว่า “เปล่าหรอก เมื่อครู่มีพนักงานสองสามคนจัดการเรื่องได้ไม่ดี ข้ากำลังด่าพวกเขาอยู่น่ะ”
ซู่เป่าเองก็ไม่ได้พูดอะไร เธอหันหน้าแล้วเดินออกไป
บรรพบุรุษกับซูอวิ๋นเจาเดินตามอยู่ข้างหลัง ซูอวิ๋นเจาเอ่ยขึ้นด้วยการรอคอยเป็นอย่างยิ่ง “ต่อไปเราจะไปที่ไหนกันเหรอ?”
บรรพบุรุษบอกว่าจะพาเขาไปเปิดโลก!
เริ่มตั้งท่ารอคอยแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...
รอบนี้หายนานมาก รอตอนใหม่อยู่นะคับ...