ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1301

เถ้าแก่หงก้มหน้าครุ่นคิด คิดถึงความเป็นไปได้ที่จะแบ่งเงินปันผลให้พญายมตัวน้อยห้าเปอร์เซ็นต์

พญายมแล้วอย่างไร เป็นพญายมแล้วจะทำธุรกิจไม่ได้เหรอ? ใช่ไหม

ทว่ากลับได้ยินหลงจู๊หลีเอ่ยขึ้นว่า “เช่นนั้นห้าเปอร์เซ็นต์ก็แล้วกัน! ผู้หญิงอย่างเจ้าก็ไม่ง่ายเลยทีเดียว ข้าเองก็ไม่ต้องการเยอะ อีกอย่างการอบรมและการจัดการรายวันของพนักงานข้าจะช่วยเจ้าเอง”

เถ้าแก่หงยิ้มแต่ไม่พูดไม่จา

อบรมพนักงานงั้นเหรอ? โอ๊ะ การอบรมเพียงแค่ต้องมาฟังคำบรรยาย ไม่ต้องลงทุนอะไร เงินเดือนและค่าที่พักค่าอาหารของพนักงานที่สำคัญที่สุด เธอก็ยังต้องเป็นคนจ่าย

การจัดการรายวัน? เขาไม่ได้ทำอะไรก็จะยื่นมือเข้ามาจัดการเรื่องของเธอ ก็เหมือนกับการที่คุณเปิดร้านอยู่ดี ๆ จู่ ๆ ก็มีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาบอกกับคุณว่าผมจะช่วยคุณดูร้านเอง คุณแบ่งกำไรสุทธิให้ผมห้าเปอร์เซ็นต์นะ

มีเงินก้อนนี้ เธอสามารถรับสมัครผู้จัดการเก่ง ๆ ดี ๆ ได้สิบกว่าคนเลยด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำยังไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขโมยร้านไปอีกด้วย ทำไมต้องแบ่งเงินปันผลกับเขาด้วยล่ะ

เถ้าแก่หงพูดกับผีสาวพนักงานขายเสื้อผ้าในร้านว่า “เสี่ยวอวี๋ ไปหยิบสมุดบุญกุศลมาที แล้วจ่ายบุญที่สั่งสมให้หลงจู๊หลีไปสิบล้าน”

ซื้อข่าวด้วยสิบล้าน นับว่าแพงเป็นอย่างมาก ข่าวประเภทนี้ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวก็ต้องลือสะพัดมาอยู่ดี ถึงเวลานั้นซื้อข่าวนี้หนึ่งล้านก็นับว่าโง่แล้ว

เธอซาบซึ้งที่หลงจู๊หลีมาบอกข่าวนี้กับเธอในเวลานี้จริง ๆ ถึงอย่างไรบางครั้งข่าวที่เร็วกว่าก้าวหนึ่งก็สามารถช่วยชีวิตได้ ฉะนั้นจึงยอมให้สิบเท่า

สีหน้าของหลงจู๊หลีปั้นยากเล็กน้อย รับสิบล้านไป ก่อนจะประสานมือคารวะและเดินจากไป

กระทั่งกลับมาถึงโรงเตี๊ยม เขาถึงได้เอ่ยด่าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ไอ้พวกเนรคุณ นี่ข้าก็นับได้ว่าช่วยชีวิตนางเอาไว้ครั้งหนึ่ง ไม่นึกเลยว่าจะช่วยหมาป่าตาขาวเอาไว้!”

“สตรีก็ทั้งหน้าเงินทั้งชอบวัตถุนิยมกันทั้งนั้น ถุ้ย! พอรู้ว่าสามีตัวเองลงมาในนรกแล้วไม่เพียงแต่ยังไม่สลดใจ แต่ยังรีบกลับมารับช่วงต่อร้านเสื้อผ้าอีก ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้ว”

เขาประเมินเธอสูงเกินไป โชคดีที่เขายังถอยออกมาก้าวหนึ่ง เอาแค่ห้าเปอร์เซ็นต์!

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงได้หอบเอาทั้งคนทั้งเงินไปจนเกลี้ยงแล้ว

ไม่รู้จักชั่วดี!

ในขณะที่กำลังพึมพำด่าไป เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา

ท่าทางราวกับอายุประมาณเก้าขวบ สวมชุดเดรสลายดอกไม้สีเหลืองอ่อน มีสไตล์ของโลลิตาอยู่เล็กน้อย แต่สีสันไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างโลลิตาขนาดนั้น เพิ่มความโรแมนติกอยู่สองสามส่วนอย่างพอเหมาะพอดี

อ่อนโยนไร้เดียงสา น่ารัก ใบหน้าน้อย ๆ สวยจนเพริศแพร้ว เต็มไปด้วยแสงส่องประกาย

บุคลิกลักษณะแบบนี้ แตกต่างไปจากบุคลิกลักษณะของยมบาล

หลงจู๊หลีสติหลุดไปอยู่ครู่หนึ่งถึงได้ตอบสนองกลับมา จากนั้นก็รีบค้อมเอวเอ่ยขึ้นอย่างมีมารยาท “คารวะ...”

ซู่เป่ายกมือขึ้นห้ามไม่ให้เขาพูดต่อ

“หลงจู๊หลี ที่ปากคุณกำลังพร่ำด่าอยู่คือใครเหรอคะ?” ซู่เป่าเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

หลงจู๊หลีรีบฉีกรอยยิ้ม ก่อนจะตอบไปว่า “เปล่าหรอก เมื่อครู่มีพนักงานสองสามคนจัดการเรื่องได้ไม่ดี ข้ากำลังด่าพวกเขาอยู่น่ะ”

ซู่เป่าเองก็ไม่ได้พูดอะไร เธอหันหน้าแล้วเดินออกไป

บรรพบุรุษกับซูอวิ๋นเจาเดินตามอยู่ข้างหลัง ซูอวิ๋นเจาเอ่ยขึ้นด้วยการรอคอยเป็นอย่างยิ่ง “ต่อไปเราจะไปที่ไหนกันเหรอ?”

บรรพบุรุษบอกว่าจะพาเขาไปเปิดโลก!

เริ่มตั้งท่ารอคอยแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน