ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1310

ซูอวิ๋นเจาดีใจเป็นอย่างมาก

นี่เร้าใจยิ่งกว่าการเป็นสายลับของเขาเสียอีก แต่ว่าความเร้าใจประเภทนี้ไม่ต่างจากความเร้าใจประเภทนั้น

ปฏิบัติภารกิจในโลกมนุษย์ หากแพ้แล้ว สิ่งที่อยู่เบื้องหลังคือประเทศชาติและคนในครอบครัว

หากแพ้ที่นี่อย่างมากก็แค่เสียขาข้างหนึ่งเท่านั้น!

ซูอวิ๋นเจาความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม “อยากกินแขนขาของฉัน ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก! ฉันเชื่อว่าฉันเอาชนะมันได้!”

ซูอวิ๋นเจาล้วงมีดสั้นออกมาด้ามหนึ่ง อาศัยเงาเบื้องหลังของสองพี่ใหญ่ เข้าไปในศึกจริงอย่างรวดเร็ว

“หึ! เจ้ากระต่ายตัวน้อยอย่างเจ้า อย่าเพิ่งหนีไปนะ!”

สัตว์ประหลาดเห็นซู่กับบรรพบุรุษ ก็รู้สึกถึงความอันตรายแล้ว

กำลังจะแอบออกไป ทว่าซูอวิ๋นเจาก็พุ่งเข้ามา

สัตว์ประหลาด “...”

บรรพบุรุษและซู่เป่า “...”

เห็นลุงเจ็ดกำลังจะต่อสู้กับสัตว์ประหลาด ซู่เป่าก็เอ่ยขึ้นอย่างว้าวุ่น “บรรพบุรุษ ถ้างั้นช่างมันเถอะค่ะ? ตอนนี้ลุงเจ็ดดูมีความสุขมาก!”

บรรพบุรุษปากแข็ง “ไม่ได้ นี่เพิ่งไหนต่อไหนเอง นี่มันอย่างที่ง่ายที่สุดทั้งนั้น...”

ความโหดร้ายจริง ๆ...ช่างมัน ไประดับความโหดร้ายพิเศษ อย่างมากก็คอยคุ้มกัน

ยังจะทำอะไรได้อีก ใครใช้ให้ซูอวิ๋นเจาเป็นลูกหลานเหลนโหลนของตระกูลซูเขาล่ะ?

คนที่เป็นบรรพบุรุษก็ต้องปกป้องลูกหลานไม่ใช่เหรอ?

ซู่เป่าไม่รู้ว่าบรรพบุรุษใจอ่อนแล้ว เห็นเขายังไม่ยอมปล่อยไป เธอก็ครุ่นคิดแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ไม่อย่างนั้นเราให้ลุงเจ็ดไปหาประสบการณ์เพียงลำพังคนเดียวไหมคะ”

แน่นอนว่าไม่ได้ให้เขาไปหาประสบการณ์เองจริง ๆ ซู่เป่าเองก็กลัวว่าลุงเจ็ดจะเจอกับอันตราย

ก็คอยซ่อนอยู่ในที่ลับ รับรองความปลอดถับของเขาก็พอ

บรรพบุรุษพยักหน้า “งั้นก็เอาแบบนี้ก็แล้วกัน”

ครั้งสุดท้าย ให้ซูอวิ๋นเจาไปหาประสบการณ์ด้วยตัวเองคนเดียว หรือเป็นเพราะมีเขากับซู่เป่าอยู่ เขาถึงได้ไม่กลัวเพราะถือว่ามีคนหนุนหลังแบบนั้น

บำเพ็ญเลื่อนขั้นด้วยตัวเองเพียงลำพัง แตกต่างกับพึ่งคนอื่น

ในใจอันเห็นแก่ตัวของบรรพบุรุษยังคงหวังให้ซูอวิ๋นเจาไปเกิดใหม่ เขาใช้ชีวิตนี้มาอย่างโดดเดี่ยวกล้าหาญและไร้ชื่อ เขาหวังว่าชาติต่อไปของเขาจะได้มีชีวิตอย่างมีหน้ามีตาสง่าผ่าเผยได้ตามอำเภอใจ

ซูอวิ๋นเจากับสัตว์ประหลาดสู้กันขึ้นมา เพ่งความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่ตัวสัตว์ประหลาด ไม่ได้สนใจว่าซู่เป่ากับบรรพบุรุษหายไปตั้งแต่ตอนไหน

เขาจ้องสัตว์ประหลาด แม้ในปากเขาจะพูดว่าจิ๊บจ๊อย ทว่าในใจเขากลับหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

ซูอวิ๋นเจารู้ดีว่า ตัวเขาไม่สามารถพึ่งพาบรรพบุรุษและซู่เป่าไปได้ตลอด

การบำเพ็ญก็เหมือนกับการเติบโต ท้ายที่สุดก็ต้องเผชิญหน้าเพียงลำพัง

ฉะนั้นเขาจึงหวังว่าตัวเองจะปรับตัวเข้ากับยมโลกได้โดยเร็วที่สุด ปรับตัวเข้ากับพายุนองเลือดของการบำเพ็ญให้ได้

เดิมทีสัตว์ประหลาดยังหวาดกลัวซู่เป่ากับบรรพบุรุษ แต่ไม่นึกเลยว่าทั้งสองคนที่ทำให้มันอกสั่นขวัญแขวนจะออกไปแล้ว

มันอึ้งไปครู่หนึ่ง หมายความว่าอะไร?

ออกไปจริง ๆ เหรอ?

สัตว์ประหลาดขยับจมูก ดม ๆ ดมไม่ได้กลิ่นอายอะไรจริง ๆ

อ๋อ...ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง เดิมทีเจ้าไก่อ่อนนี่ไม่ได้เป็นพวกเดียวกับสองผู้มีอิทธิฤทธิ์นี่อยู่แล้ว!

งั้นมันก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้ว!

สัตว์ประหลาดจ้องซูอวิ๋นเจา นัยน์ตาพลันเปลี่ยนเป็นแดงฉาน เผยความตื่นเต้นออกมาอย่างไม่ปิดบัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน