ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1347

แกร๊ก!

แสงสีเหลืองนวลของโคมไฟดอกบัวแตกออกเป็นเส้น

สายตาของชายชุดดำฉายแววหวาดกลัว

เขานึกถึงตอนที่เขาเรียกพายุสายฟ้ามาให้เธอ ความรู้สึกหวาดกลัวที่รู้สึกได้มาตั้งแต่ที่ที่ห่างไปเป็นหมื่นลี่ในวันนั้น

และในตอนนี้เองเขาเพิ่งจะตระหนักได้ว่าพญายมตัวน้อยมีกฏแห่งวิถีข้อใหม่อยู่กับตัว

โคมไฟดอกบัวบรรลุกฎแห่งวิถีเก่าถึงได้ฝืนชะตาฟ้าลิขิตอย่างวันนี้ได้ แต่พญายมตัวน้อยกลับใช้กฎแห่งวิถีใหม่มาทำลายโคมไฟดอกบัวของเขา นี่มันก็เท่ากับว่าไม่วันใดก็วันนึงกฎแห่งวิถีใหม่จะมาทำลายกฎแห่งวิถีเก่าไม่ใช่หรือ?

"เมียมีเมียเปยมีเวิง..." ชายชุดดำมีเหงื่อเย็นไหลลงมาจากหน้าผาก ท่องคาถาเร็วขึ้นเขากลับหยุดเหงื่อเย็น ๆ ที่ผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องไม่ได้

นี่คือพลังพิเศษของเขา และตอนนี้เขาก็อยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นสูงแล้ว

อีกอย่างเดิมทีเขาก็อยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นสมบูรณ์แล้ว แต่เพราะว่าถูกแยกร่างก็เลยตกลงมาที่ระดับจับกลับพลขั้นสูง

ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาอยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นสูง แต่เก่งกว่าคนในระดับจักรพรรดิขั้นสูงอยู่มาก

แต่ทำไมทั้งที่พญายมตัวน้อยต่อสู้กับเขาในขณะที่เธออยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นต้น แต่เขาก็ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองแพ้เหล้าคาบและน่าหวาดกลัวแบบนี้

โคมไฟดอกบัวแยกออกจากกันและส่องแสงอ่อน ๆ ออกมา ทำให้รู้สึกว่ามันกำลังจะบาน

ในขณะเดียวกัน

ซืออี้หรันเลือดเปื้อนเต็มหน้า แต่เขาไม่มีเวลาจะเช็ด

เขากับซู่เป่าไม่ได้วางแผนว่าจะฆ่าอีกฝ่ายกลับไปยังไง แต่มีเป้าหมายคร่าว ๆ ว่าเขาจะโดนขังไว้แบบนี้ไม่ได้

ซืออี้หรันไม่มีกฎแห่งวิถีใหม่ เขายังคงฝึกฝนด้วยกฎแห่งวิถีเก่า ดังนั้นสำหรับเค้าแสงจากโคมไฟดอกบัวจึงเหมือนกดสวรรค์ที่ไม่อาจทำลาย การพยายามพุ่งชนมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้รู้สึกสิ้นหวังมากเท่านั้น

เขาล้มเลิกความคิดที่จะใช้คทาแหวกแสงที่ล้อมรอบออกไป

ขอบเขตของเขาต่ำเกินไปและมีเพียงครึ่งหนึ่งของเท้าของเขาที่ก้าวเข้าสู่อาณาจักรจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่เมื่อเทียบกับขอบเขตแล้วเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายชุดดำเลยนี่เป็นความจริง

แล้วจิตเทพล่ะ?

ทั่วทั้งยมโลกมีแค่จักรพรรดิตงเยว่กับซู่เป่าเท่านั้นพี่มีพลังจิตเทพ คนอื่นไม่มีใครมี

ถ้ามองจากมุมนี้ เขากับชายชุดดำถือว่าเท่าเทียมกัน

เมื่อคิดดูแบบนี้แล้วแสงจะคงไปดอกบัวนี่ก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสีย ถ้าเขาสามารถฝึกเอาพลังจิตเทพออกมาได้จากในนี้แล้วก็ล่ะก็…

คราวนี้ถือเป็นวิกฤติที่ถึงแก่ชีวิตจริง ๆ แถมยังเกี่ยวพันชีวิตของซู่เป่าอีกด้วย

ไม่มีทางให้ซืออี้หรันถอยได้อีกแล้ว มีแต่ต้องบังคับตัวเองให้ลองแล้วลองอีกพยามรวบรวมสมาธิถึงขั้นที่สมองเขาแทบจะระเบิด

เขารู้สึกว่าถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปสมองเขาต้องระเบิดแน่

แต่ซู่เป่าเคยทำสำเร็จมาก่อน ดังนั้นเค้าจึงไม่กลัว ถ้าการพยายามไม่ทำให้ตายก็พยายามให้ตายไปข้างนึงเลย

ซืออี้รันมีเลือดไหลจากทวารทั้งเจ็ด ทั้งหูทั้งตามีมีแต่รอยเลือดไหลลงมาเต็มไปหมด

แล้วในขณะนี้เองที่เขารู้สึกว่าเสียงสวดมนต์ในหูยิ่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ พลังสังหารก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ไฟสีเหลืองอ่อนสาดลงบนตัว บนหน้า บนผมของเขา ถ้าหากผ่อนคลายการต่อต้านลงสักหน่อยก็จะได้ยินเสียงดังพรวด แสงนั้นกัดกินเสื้อผ้าผิวหนังของเขาเหมือนกับพิษที่ร้ายแรงมาก…

ซืออี้หรันมีความรู้สึกว่า

เขากำลังจะตาย!

และในวินาทีนั้นเองก็มีบางอย่างพุ่งออกมาในความคิดของเขา!

สิ่งเดียวที่เขายึดติดอยู่ในใจเมื่อกี้นี้ก็คืออยากใช้จิตเทพเสกดาบคมคมขึ้นมาแหวกแสงโคมไฟดอกบัวนี้ออก

ตอนนี้เขาทำสำเร็จแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน