ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 136

ในกล้อง ซู่เป่าร้องไห้อย่างเสียใจ เธอไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ยิ่งไม่เข้าใจว่าทำผู้คนถึงกล่าวโทษเธอว่าเธอเป็นเด็กเลว

เธอน้อยใจอย่างมาก ยิ่งไม่เข้าใจโลกใบนี้

เธอกลัว แต่ก็กล้าหาญที่จะหาทางออก

ซู่เหอเวิ่นรีบวิ่งขึ้นไปหาแล้วรีบเอากระดาษไปให้เธอ “เด็กดี อย่าร้องนะ”

น้ำตาของซู่เป่าเหมือนเมล็ดถั่วที่ร่วงไม่ยอมหยุด

“พี่ ซู่เป่าไม่ได้ทำอะไรผิด”เธอสะอึกสะอื้น “ถ้าเขาบังแกล้งฉันอีก ฉันก็จะตีอีก”

ซู่เหอเวิ่นเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่กอดเธอไว้

“อืมอืม เธอไม่ได้ผิดอะไร ถ้าพวกนั้นยังมาหาเรื่องอีก พี่จะเข้าร่วมด้วย”

“เพราะพวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด” ซู่เหอเวิ่นพูดอย่างจริงใจ

ตอนท้ายของวีดีโอนี้ซู่เหอเวิ่นได้เช็ดน้ำตาให้กับซู่เป่า แต่พวกเธอลืมปิดกล้อง พอนึกขึ้นได้ก็วิ่งไปปิดกล้อง

คลิปนี้ไม่ได้มีการตัดต่อ ได้ทำการอัปโหลดแบบนี้เลย

ในอินเตอร์เน็ต

เมื่อได้ดูวีดีโอนี้ หลายๆคนกลับเงียบสงบ

เด็กผู้หญิงในคลิปดูเรียบร้อย มือวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

เธอนิ่งสงบ จนทำให้รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ

ประโยคนั้นที่ว่า [ทำไมตอนที่ใครต่อใครพูดความจริงกลับไม่มีคนเชื่อ แต่พอเป็นเพื่อนที่โกหกหลอกลวงถึงได้เชื่อกันหมด ฉันทำอะไรผิดหรือ]

ได้ทิ่มแทงหัวใจของผู้คนเป็นอย่างมาก

แต่พวกเขาเองก็ตอบไม่ได้เช่นกัน

บางคนเริ่มสงสัย [ฉันคิดว่า พวกเรากำลังเข้าใจอะไรผิดไปไหมนะ]

[ดูรอบแผลบนแก้มเด็กคนนี้ ดูเหมือนจะเจ็บหนักกว่าเด็กผู้ชายคนนั้นอีกนะ]

[น้ำตาไหล ฉันอดที่จะร้องไห้ไม่ได้ ก็ใช่หน่ะสิ สิ่งที่พวกเราเห็นนโลกโซเชียลมันเป็นความจริงจริงๆหรือ]

【ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น,แต่ตอนนี้ฉันเลือกจะเข้าข้างซู่เป่า แววตาของเธอโกหกไม่ได้!】

【ใช่หน่ะสิ เธอร้องไห้จนฉันเองรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ,ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดจริงๆ,สิ่งที่เธอตีเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด ถ้าเป็นฉันฉันก็จะทำเหมือนกัน!】

นี่เป็นบางส่วนที่แสดงความคิดเห็นอย่างอ่อนโยน แต่ก็หลีกเลี่ยงพวกปากปีจอไม่ได้:

【แหม เรื่องแค่นี้ให้เด็กออกมารับหน้าหรือ?คนรวยนี่ช่างมีการศึกษาดีจริงๆสินะ!เด็กนี่ร้องไห้ตั้งนาน ได้แค่นี้เองหรือ?】

【เธอดูเขาพูดสิ,เด็กตัวแค่นี้จะสามารถพูดถึงถ้อยคำแบบนี้เป็นหรือ?เห็นชัดๆว่ามีคนเขียนให้!】

【เด็กตัวแค่นี้ก็แสดงเป็นแล้วหรือ ฮ่าฮ่า,ทำไมถึงไม่เข้าเอกการแสดงหล่ะ ?อ้อๆ ฉันลืมไปว่าลุงคนนั้นของตระกูลซู่ก็อยู่ในวงการบันเทิงเหมือนกันนี่!】

【มิน่าล่ะจะแสดงเก่งขนาดนี้!มันปลอมมากไม่เนียนเลย,ถ้าสิ่งที่เธอพูดมีความจริงสักนิด ฉันจะไลฟ์สดก้มกราบโชว์พวกเธอด้วย ทุกคนรีบแคปที่ฉันพูดไว้ด้วยนะ ฮ่าฮ๋าฮ่า】

【ร้องไห้ตอนอยู่หน้ากล้อง เพื่อให้เห็นว่าตัวเองถูกกระทำหรือ?】

คุณย่าที่ยังอยู่โซนVIPของโรงพยาบาลที่เลื่อนเห็นวีดีโอของซู่เป่า。

เมื่อเธอเห็นซู่เป่าร้องไห้ ก็หัวเราะเสียงดังชอบอกชอบใจ。

เหอะเหอะ ยัยเด็กบ้า ร้องสิ ร้องเลย เพิ่งมาร้องอะไรเอาตอนนี้หล่ะ?

เมื่อวานยังเก่งอยู่เลยนี่?

แต่ไม่มีหลักฐาน ร้องไห้ไปจะได้อะไรขึ้นมา?

มันก็แค่คำพูด ถ้ามีปัญญาก็ไปหาหลักฐานมาสิ,ถ้าไม่งั้นก็อย่าคิดที่จะล้างความผิด!

แต่น่าเสียดายที่ในห้องเนิร์สเซอร์รี่ไม่มีกล้องวงจรปิด~

คุณย่ายิ้มอย่างพออกพอใจกับสิ่งทีได้เห็น。

**

บ้านของตระกูลซู่

หลังจากที่คุณนายซู่ดูคลิปเสร็จ เธออดไม่ได้ที่จะเขวี้ยงเก้าอี้ทิ้ง แล้วรีบไปหาซู่เป่า

ซู่อีเฉินกับบรรดาพี่น้องของเขาต่างก็กำหมัดแน่น หัวใจของเขาเหมือนโดนเอาอะไรทิ่มแทง

ตอนนี้ซู่เป่าเองสงบมากขึ้น นั่งเหม่ออยู่บนโซฟา

“ซู่เป่า หลานรักของยาย” เธอกลั้นน้ำตาไม่ได้อีกต่อไป

“คุณยาย ” ซู่เป่าตกใจ “ซู่เป่าร้องไห้ทำไมคะ ไม่ร้องนะไม่ร้อง”

เธอรีบหยิบกระดาษเช็กให้คุณยายแล้วพูดว่า “คุณยายสุขภาพไม่ดีอยู่นะ จะร้องไห้ไม่ได้”

นั่นทำให้คุณนายซู่ยิ่งอดที่จะร้องไห้ไม่ได้ เด็กคนนี้ช่างเป็นเด็กที่จิตใจงดงามเสียจริง แต่กลับมาปลอบประโลมเธอ

นั่นทำให้เธอรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม

“ซู่เป่า หลานไม่ต้องสนใจคนบนโซเชียลแล้วนะ คุณอาของหลานจะจัดการให้เอง。”คุณท่านซู่พูดอย่างอ่อนโยน

ซู่อีเฉินพยักหน้า “ใช่ ขอแค่ซู่เป่าเติบโตเป็นเด็กดีก็พอ เรื่องอื่นให้อาจัดการเอง”

ซู่อิ๋งเอ๋อร์มีอารมณ์รุนแรง “ใช่ ถ้าใครหน้าไหนกล้าพูดว่าหลานอีก ลุงห้าจะไปจัดการข้ามวันข้ามคืนเลย”

ซู่เป่ามอคุณตาคุณยาย คุณลุงคุณอาที่อยู่ข้างหน้า ทำให้เธอรู้สึกว่าที่พึ่งใจมากขึ้น

“อืมอืม” เธอพูด “แต่ฉันยังอยากรู้ ว่าบรรดาลุงป้าพี่พี่น้องๆรู้เรื่องแล้วใช่ไหม”

เด็กน้อยรู้สึกว่าเธอนั้นพยายามที่จะแก้ไขอย่างมากแล้ว。

คุณลุงคุณป้าทั้งหลายเมื่อก่อนไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้จะเข้าใจแน่ๆ。

ซู่อีเฉินลังเลใจ ไม่อยากให้เธอดูผลแสดงความคิดเห็น。

ซู่เป่ายังอ่านหนังสือไม่ได้,พวกเขาจึงอ่านให้ฟัง แต่พวกคำพูดแย่ๆเหล่านั้นพวกเขาข้ามไป。

แต่ซู่เป่ายืนยันว่าจะฟัง。

พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายดูฉัน ฉันเองก็ดูพวกเขา。

ตอนนั้นมีเสียงหนุ่งดังขึ้นมา:“ฉันอ่านเอง。”

นั่นคือเสียงของซู่เหอเวิ่น。

เขามองที่หน้าของหลาน,มีความคล้ายคลึงกับซู่อีเฉินและคุณท่านซู่อย่างมาก,แล้วค่อยๆเดินเช้ามา。

苏何闻看了粟宝一眼,问道:“确定不会哭鼻子?”

ซู่เหอเวิ่นมองที่ซู่เป่า “แน่ใจนะว่าจะไม่ร้องไห้”

ซู่เป่าส่ายหัว:“ไม่หรอก ซู่เป่ากล้าหาญมากนะ!”

หลังจากถ่ายคลิปเสร็จ,หลังจากที่เธอร้องไห้,จู่ๆเธอก็รู้สึกพลังความกล้าหาญของเธอ。

ตอนนี้เธอสัมผัสได้ว่าในใจของเธอมีความกล้าหาญมากขึ้น。

ซู่เหอเวิ่นพยักหน้า,แล้วค่อยๆอ่านถ้อยคำเหล่านั้นออกมา。

มีทั้งดีและทั้งที่ไม่ดีอยู่ในนั้น。

ประโยคที่ไม่ดี ให้พูดอย่างไรก็ฟังดูไม่ดี。

ตอนแรกซู่เป่ารู้สึกดีใจที่มีคนเชื่อคำพูดของเธอ

แต่พอได้ฟังประโยคแย่ๆเหล่านั้น กลับทำให้เธอเสียใจมากกว่าเดิม ……

“ไม่เป็นไรหรอก,อย่างน้อยก็มีบางคนที่เชื่อ。”ซู่เป่าปลอบใจทุกคน。

นั่นทำให้รู้สึกบาดใจอย่างมาก。

ความจริงแล้วซู่เป่ารู้สึกเจ็บปวดเสียใจ ,แต่ยังยิ้มที่จะปลอบใจทุกคน

เด็กดีแบบนี้,ทำไมพวกนั้นถึงกล้าพูดแน่ๆแบบนี้อีก จุดนี้เองที่เป็นจุดตัดสินใจว่าตระกูลซู่จะต้องเอาคืนพวกนั้นอย่างสาสม……

รอยยิ้มบนใบหน้าของซู่เป่า,แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บปวดอ้างว้าง……

【เด็กตัวแค่นี้แสดงดีเหมือนกันนี……】

【แค่บีบน้ำตาก็แต่งเรื่องได้ขนาดนี้?บนโลกนี้มีใครร้องไห้ไม่เป็นบ้างหล่ะ…】

【เด็กตัวแค่นี้แต่กลับโกหกหลอกลวง ช่างน่ารังเกียจเสียจริง……】

ซู่เป่ายิ่งคิดยิ่งอยากร้องไห้。

เธอเป็นเพียงเด็กสี่ขวบ,แต่นี่เป็นครั้งแรกที่สัมผัสถึงความรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก,โลกกำลังพังทลายลงราวกับกำลังดิ่งลงเหว รอบๆ มืดลง...

ราวกับว่าความตั้งใจของเธอไม่มีผลอะไรเลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นเอง ก็มีคลิปวีดีโอใหม่ที่เข้ามาพร้อมทั้งการแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม!

ในคลิปนั้น มู่กุยฝานเองก็อยู่ในคลิปวีดีโอด้วย,พร้อมกับสายตาเป็นประกายของเขา。

เขาพูดว่า:【ซู่เป่าไม่ต้องกลัว พ่อมาแล้ว。】

เขาใช้วิธีการหาภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณนั้น แล้วนำคลิปดังกล่าวมาเผยแพร่!

คลิปพวกนี้ไม่ได้ดีพร้อมมากมาย,มีถ่ายเห็นประตูหน้าห้องเรียนบางส่วน,บางส่วนก็เห็นแต่ประตูด้านหลัง,บางส่วนก็เห็นเพียงแค่หน้าต่าง。

ยังดีที่กล้องเหล่านี้มีคุณภาพความคมชัดที่ชัดเจน ถึงแม้จะซูมภาพขยายแล้วนำมาต่อกัน แต่ก็ไม่ทำให้ภาพแตกเลย จากนั้นก็รวมเป็นคลิปเดียวกัน,

ในคลิปนั้น ซู่เป่ากำลังทานอาหารอย่างตั้งอกตั้งใจ,ข้างๆมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังพูดอะไรอยู่สักอย่าง,จากนั้นก็ตามมาด้วยภาพการหัวเราะชอบอกชอบใจ。

เพื่อนรอบๆคนอื่นก็พากันหัวเราะไปด้วย นั่นทำให้ซู่เป่าโกรธมาก และพูดบางอย่างกับพวกเขา,

เด็กชายคนนั้นนอกจากจะไม่รับฟังแล้วยังทำหน้าตาล้อเลียนใส่เธออีกด้วย。

ตอนนั้นได้มีคุณครูท่านหนึ่งเดินมา เด็กผู้ชายพวกนั้นจึงพากันวิ่งหนีไป

เพียงครู่หนึ่ง ซู่เป่ายืนอยู่ข้างหน้าเพื่อนร่วมชั้นเรียนพูดบางสิ่งบางอย่าง จากนั้นก็เป็นเด็กผู้ชายคนนั้นกำลังหัวเราะเยาะซู่เป่า

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยินว่าเด็กชายคนนั้นพูดอะไร แต่ดูจากสีหน้าท่าทางก็ทำให้คนดูรู้สึกไม่ชอบใจได้

คุณครูกับซู่เป่าพูดบางอย่างกับพวกเขา สีหน้าของเด็กชายคนนั้นแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน และเรื่องนั้นก็ผ่านไป

จากนั้นไม่นานก็มาถึงจุดเด่ยของเรื่องนี้ เด็กชายดึงผมของซู่เป่าอย่างแรง ซู่เป่าดูเหมือนจะเจ็บอย่างมาก

เธอพูดบางสิ่งบางอย่างกลับไป เด็กชายคนนั้นไม่สะทกสท้าน แล้วดึงผมของเธอต่อ

ตอนนั้นเอง ซู่เป่ายังมีมารยาทมากพอที่ย้ายเก้าอี้ไปฝั่งข้างๆ แล้วค่อยไปดึงผมของเด็กชายคนนั้นกลับ จากนั้นทั้งสองก็เริ่มการทะเลาะเบาะแว้งขึ้นมา

ในภาพนั้น เป็นแบบเดียวกับที่ซู่เป่าพูดไว้ไม่มีผิด

พวกชาวเน็ตที่พูดถ้อยคำที่รุนแรงหยาบคาย และหัวเราะเยาะซู่เป่าเมื่อครู่กลับเงียบกริบ

พวกเขาต่างพากับหาความคิดเห็นที่ตนเองได้พิมพ์ทิ้งไว้และรีบลบออกอย่างเร็ว............

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน