จี้ฉางส่งเสียงหืมทีหนึ่ง
จู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนอสูรในมือจะไม่เหมือนเดิม คล้ายกับมีพันธะวิญญาณกับผู้อื่น
เขาสัมผัสต่ออีกครู่หนึ่ง มีพันธะแล้วจริงๆ
จี้ฉางปล่อยมือ
อสูรนี้มันไม่ธรรมดาจริงๆ เขาเชื่อว่าไม่ว่าใครจะเห็นเข้าก็ต่างอยากจับตัวกลับมาฝึกให้เชื่อง
แต่ในเมื่อทำพันธะแล้ว ก็หมายความว่ามันมีเจ้าของ สัตว์เลี้ยงของคนอื่นย่อมแย่งไม่ได้
อสูรที่กำลังมองเขาส่งเสียงอยู่ส่งเสียงเอ้ะทีหนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นขนของมันก็พองขึ้นเตรียมจะต่อยจี้ฉางอยู่ตลอด มันเล็งไปที่ดวงตาของเขาอย่างแม่นยำ
แต่ไม่คิดว่าเขาจะปล่อยมันออก
“ในเมื่อมีเจ้าของพันธะแล้ว ก็รีบไปหาเจ้าของแกเถอะ” จี้ฉางปรายตามองมันด้วยสีหน้านิ่งเฉย “ข้าไม่จับเจ้า มิได้หมายความว่าคนอื่นๆ จะทำเช่นกัน”
อสูร “จ๊าก” เป็นคนดีเหมือนกันนะ!
มันสะพายกระเป๋าเล็กๆ ก้าวหน้าหยั่งเชิงด้วยความสงสัยสองก้าว จากนั้นก้าวต่ออีกสอง
เห็นว่าจี้ฉางปล่อยมันไปจริงๆ ไม่ได้หลอกให้มันชะล่าใจ เป็นคนดีจริงๆ ด้วย
อสูรจึงวิ่งพรวดจากไป
จี้ฉางก็เดินทางของตนต่อ…
แต่แล้วห้านาทีต่อมา
หนึ่งคนและหนึ่งสัตว์พบกันที่เส้นทางเดียวกันอีกครั้ง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา…
ก็ยังคงเดินทางด้วยกัน
อสูรน้อย ‘ว้าว ผู้ชายเสื้อขาวนี้ต้องคิดจะตัดเครื่องในมันไปขายอยู่แน่’
มันชะงักฝีเท้าลง จดจ้องจี้ฉางอย่างโกรธเคือง “จ๊ากๆ”
มุมปากจี้ฉางกระตุก เขาเองก็รู้สึกหมดคำพูดเป็นอย่างมาก
ใครจะรู้ว่ามันจะบังเอิญขนาดนี้กัน...
“ข้ามิได้สะกดรอยตามเจ้านะ” จี้ฉางเอ่ยอย่างเอือมระอา
อสูรแสดงท่าทีไม่เชื่อ กรงเล็บสองข้างของมันเท้าเอวไว้ มันถลึงดวงตากลมโต “จ๊ากๆ”
จี้ฉาง “ไม่เชื่อก็ช่างเถิด ข้าไปก่อนล่ะ”
พูดจบก็เดินข้ามมันไป ลอยไปทางด้านหน้า ด้วยความเร็วที่ไม่ช้า ดูท่าคิดจะสลัดมันออกจริงๆ
อสูรสงสัยมากกว่าเดิม จนมองไม่เห็นร่องรอยของจี้ฉางแล้ว มันจึงวางใจลง สัมผัสตำแหน่งของบรรพบุรุษ และก้มหน้าเดินทางต่อ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
มุมปากของจี้ฉางกระตุกแล้วกระตุกอีก “เจ้าตามข้ามาทำไมกัน”
มุมปากของอสูรก็กระตุกแล้วกระตุกอีกเช่นกัน “จ๊ากๆ”
ไม่ได้ตามซะหน่อย
หากไม่ใช่เพราะมันวิ่งตามจี้ฉางทันด้วยความเร็วที่ราวกับบิน หนำซ้ำมีเพียงมันเท่านั้นที่สัมผัสถึงท่านบรรพบุรุษ มีแค่มันเท่านั้นที่รู้ว่าตนเองจะไปไหน...
มันคงสงสัยแล้วว่าชายหนุ่มชุดขาวคนนี้ตั้งใจดักรอมันอยู่ด้านหน้า
จี้ฉางหรี่ตาลงเล็กน้อย “อย่าตามข้ามา เจ้ากินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ตั้งมื้อละลูก ข้าเลี้ยงไม่ไหว”
เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่ามันจะปล้นเขานะ
“อสูรที่กินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์มื้อละลูกน่ะ คนทั่วไปใครจะเลี้ยงเจ้าไหวกัน...ดังนั้นเจ้าเลยคิดจะปล้นข้า...ที่แท้เจ้าเอาก็ชีวิตรอดโดยการจี้ปล้นงั้นเหรอ” จี้ฉางจดจ้องมัน
อสูรขนพองฟู่ ใครบอกกัน
มันเป็นอสูรที่เคารพกฎหมายเป็นอย่างดี
มันถลึงตาใส่จี้ฉาง ราวกับกำลังพูดว่า ‘ใส่ร้ายมันเดี๋ยวยิงตายซะเลย’
▄︻┻┳═一
อสูร “จ๊ากๆ จ๊ากๆ ๆ ๆ” (ข้าจะไปตามหาเจ้าของ)
มันใช้ภาษามือภาษาร่างสื่อความหมายของมันออกมาจนได้
จี้ฉางหลุดหัวเราะ “บังเอิญเชียว ข้าก็ไปตามหาคนเช่นกัน”
นัยน์ตาของอสูรเผยแววเหยียด “จ๊ากๆ” (นายน้อยของข้าเก่งมาก อย่าให้นายน้อยข้าจับตัวเจ้าได้ล่ะ มิเช่นนั้นเจ้าโดนยิงตายแน่)
จี้ฉางพบว่าเขาสามารถเข้าใจความหมายของอสูรได้อย่างง่ายดาย แม้จะไม่เข้าใจอย่างแน่ชัด แต่อย่างน้อยก็สามารถเข้าใจความหมายโดยรวม
เขาเอ่ยพูดอย่างเชื่องช้า “ศิษย์น้อยของข้าก็เก่งกาจมากเช่นกัน สังหารเจ้านายเจ้าได้ในพริบตา”
อสูรไม่ยอม มันส่งเสียงจ๊ากๆ พร้อมภาษามือต่อ
[นายน้อยของข้าสามารถล้มปีศาจตัวยักษ์ได้หมัดเดียว]
จี้ฉาง “ศิษย์น้อยของข้าหมัดทะลุฟ้า”
อสูรหัวเราะเย้ย โม้อยู่หรือไง
[นายน้อยข้าขึ้นฟ้าได้]
จี้ฉางกระตุกมุมปาก “ศิษย์ของข้าไม่เพียงแต่จะขึ้นฟ้าได้ ยังสามารถเหยียบสายฟ้าไว้ใต้เท้าได้อีก”
อสูรหมดคำพูด ทำไมคนนี้ถึงเป็นแบบนี้กัน ทำไมถึงขี้โม้ได้ขนาดนี้ ต้องเป็นเพราะเคยเห็นนายน้อยของมันผ่านด่านเคราะห์จากทิศไกลแน่ๆ ถึงขี้โม้ได้ขนาดนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...