ร่างนั้นยังมาไม่ถึง แสงเขียวลำหนึ่งก็ลอยเข้าใส่อสูรตัวน้อย
เป้าหมายคืออสูรงั้นเหรอ
แสงเขียวนั้นดูวังเวง ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันแน่ ถึงแผ่ไอเหน็บออกมาด้วย
ขนบนหางของอสูรตั้งชันขึ้น กระโดดไปอยู่หลังซู่เป่า พร้อมเกาะขากางเกงของเธอไว้
ซู่เป่ายื่นฝ่ามือออกมา แสงเขียวนั้นยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกตบกระจาย ร่วงลงบนพื้นอย่างปวกเปียก ดูแล้วน่าจะใช้งานไม่ได้แล้ว
ทุกคนตั้งใจมอง พบว่ามันคือกอเอี๊ยะหนังหมาชิ้นหนึ่ง
ซูจิ่งอวี้ฉงน “ผีกอเอี๊ยะหนังหมาหรือไง”
มู่กุยฝานยิ้มเย็นทีหนึ่ง “กอเอี๊ยะหนังหมาเป็นผีไหมไม่รู้ แต่สิ่งนี้เป็นผีแน่ๆ”
ในมือเขาหิ้วเงาดำไว้ เป็นคนที่วิ่งพุ่งเข้ามาเมื่อครู่
อ๋อ หรือพูดให้ถูกคือน่าจะเป็นผี
ผีตนนี้เป็นชายหนุ่ม ที่ร่างเล็กตัวเตี้ย ดวงตากลับสว่างเป็นอย่างมาก และกำลังกรอกตาวนอยู่
น่าจะเป็นเพราะคิดไม่ถึงว่าตนจะถูกจับตัวง่ายขนาดนี้ หลังความลนลาน เขานิ่งสงบลงทันที
บนหน้าเขาเป็นความลนลานที่ไม่ปิดบัง จากนั้นก็ก้มหัวโน้มเอวอย่างนอบน้อม “ขอโทษครับ ข้ามิควรมีความรู้สึกรักใคร่สัตว์เลี้ยงของพวกท่านมากจนเกินไป…”
มู่กุยฝาน “…”
ซูจิ่งอวี้ “?”
เดี๋ยวนะ คิดจะแย่งยังพูดให้สวยหรูขนาดนี้อีก
ซู่เป่าพูดทวนประโยคนั้นของเขา “รักใคร่เกินไปเหรอ”
“ขโมยก็คือขโมย แย่งก็คือแย่ง แย่งชิงของคนอื่นไม่สำเร็จ อย่ามาพูดแก้ตัว รักใคร่เกินไปอะไรกัน!”
ซู่เป่าหมดคำพูด
ความรู้สึกแรกคือผีตนนี้เสแสร้งจัง หนำซ้ำยังเป็นความเสแสร้งที่ทำคนอื่นรู้สึกไม่สบายใจนัก
ชายหนุ่มร่างเตี้ยพยักหน้าอย่างถี่รัว “ขอครับ ข้าผิดไปแล้ว ไม่คิดว่าพวกท่านจะเก่งกาจเช่นนี้ ข้ามันมีตาแต่ไม่มีแวว”
ก็ถ่อมตัว แต่ไม่มาก
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือบนตัวเขามีของของซูอวิ๋นเจา
เริ่มแรกซู่เป่าเพียงรู้สึกว่ากลิ่นไอบนผีตนนี้แปลกๆ ทั้งๆ ที่ไอบนร่างเขาครึ้มมาก แต่กลับมีไอความดีแปลกๆ
กลิ่นไอที่ต่างกันลิบลับผสมรวมกัน ย้อนแย้งเป็นอย่างมาก หนำซ้ำไอนั้นยังยิ่งอยู่ยิ่งคุ้นเคย จนซู่เป่าตอบสนองได้…ไอความดีนี้เป็นแสงทองบุญกุศลของคุณลุงเจ็ด
แม้เธอจะไม่ได้ขยับร่าง แต่จิตเทพของเธอสำรวจร่างผีหนุ่มตนนี้ทันที
เริ่มจากถุงหล่อเกที่แขวนไว้บนเอวเขา ด้านในมีเสื้อผ้าหลากหลายชุด กระทะ และยาสมุนไพร ครบครันเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเขาไม่ได้เปิดเผยสิ่งใดออกมาแน่ๆ เพียงแต่เขาไม่คิดว่าอสูรที่เขาอยากแย่ง เป็นอสูรของครอบครัวชายหนุ่มผู้นั้น
ชายหนุ่มสำรวจอย่างละเอียด หญิงสาวตรงหน้าและผีสาวข้างๆ ดวงตาและคิ้วมีความคล้ายคลึงกับชายหนุ่มผู้นั้น ผีแก่ตนนั้นแม้จะแก่แล้ว แต่ก็ให้ความรู้สึกที่คล้ายกับชายหนุ่มผู้นั้น
ดังนั้นกลุ่มตรงหน้าน่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน และที่เก่งกาจที่สุดคงจะเป็นผู้เฒ่าคนนั้นที่ไม่เคยเอ่ยปากพูดมาก่อน
เป็นผีบำเพ็ญกันทั้งครอบครัวนั้นหาได้ยากมาก ผู้ที่แก่ที่สุดย่อมต้องเก่งกาจที่สุด
เมื่อประมวลเสร็จ ผีหนุ่มพูดกับบรรพบุรุษที่ไม่ได้เอ่ยปากพูดมาก่อนอย่างนอบน้อมและจริงใจ “ท่านผู้เฒ่า โปรดเชื่อข้าเถิด ข้ามิเคยเจอคนที่พวกท่านตามหามาก่อน...เพียงแต่ข้าเคยเห็นเขาไปที่ดวงเนตรปีศาจ”
คำพูดครึ่งจริงครึ่งหลอกนั้นทำผู้อื่นหลงเชื่อง่ายที่สุด ผีหนุ่มสาบานว่าตนไม่ได้โกหกจริงๆ ซูอวิ๋นเจาไปที่ดวงเนตรปีศาจอย่างแน่นอน
โดยปกติ พวกเขารีบร้อนกันขนาดนี้ ก็น่าจะมุ่งตัวไปที่นั่นเลย ถ้าเป็นแบบนี้พวกเขาก็ต้องเลือกที่จะปล่อยตัวเขาไป หรือจะมัดตัวเขาไว้ก่อน ยังไงเขาก็ไม่กลัวอยู่แล้ว
อย่างที่คิด ภาพตรงหน้ามืดไป เขาถูกโยนเข้าไปในตำหนักแห่งหนึ่ง
ได้ยินเพียงครอบครัวนั้นพูดกันอย่างร้อนใจ “ท่านบรรพบุรุษ พวกเราไปหาคุณลุงเจ็ดกันก่อนเถอะ”
ผีสาวเองก็ร้อนรน “พลังแค่นั้นของพี่เจ็ด ไปไหนในแดนนรกก็เหมือนอาหารเดินได้”
ในใจชายหนุ่มถอนหายใจ พวกเขารีบร้อนอย่างที่คิดเลย
ผีที่พลังน้อย แต่แต้มบุญสูงขนาดนั้น ใครจะไม่อยากเขมือบกัน เป็นปกติที่พวกเขาจะร้อนใจ
วางใจแล้ว ขอแค่พวกเขาไม่มาสนใจเขา เขาย่อมมีวีธีหนีไปเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...