อวี๋เซินเหมี่ยวสิ้นหวังมากจนเขาแทบจะไม่มีแรงที่จะพูด
อี้ปินพูดอย่างหมดหวัง “เชอร์รี่น้อย ทำไมพวกเราถึงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ที่เธอเพิ่งพูดไปหมายความว่าไง...”
ขณะนี้หลินเสวี่ยอิงรู้สึกร้อนรนเหมือนไฟลนก้น
“ไม่ใช่นะ อี้ปิน…พ…พวกนายฟังฉันพูดก่อน…”
อวี๋เซินเหมี่ยว อี้ปินและโจวเซียวยืนอยู่หน้าหลินเสวี่ยอิงพร้อมกันทั้งสามคน เมื่อมองดูท่าทีอันร้อนรนของเธอ ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังโกหก
โจวเซียวมองไปยังอี้ปิน “นายก็คืออี้ปินสินะ คุณเองใช่ไหมที่ตามรังควานเชอร์รี่น้อย”
อี้ปินพูดด้วยความตกใจ “โจวเซียวเหรอ คุณเองสินะคนที่สะกดรอยตามเชอร์รี่น้อย!”
อวี๋เซินเหมี่ยวหรี่ตามองโจวเซียว "คุณคือโจวเซียวใช่ไหม เชอร์รี่น้อยบอกว่าคุณเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง ดูไม่เหมือนเลยสักนิด!"
ทั้งสามคนยืนประจันหน้าและกล่าวหากันไปมา
ละครรักน้ำเน่ายังคงดำเนินต่อไป ขณะนี้มีฉากหนึ่งที่ปรากฎขึ้นในหัวของหลินเสวี่ยอิง มีผู้ชายหลายคนกำลังต่อสู้กันเพื่อเธอ และเธอก็ตะโกนห้ามว่า ‘อย่าทะเลาะกันเลยนะ พวกนายไม่ต้องสู้กันหรอก…’
ผีหลายใจที่อยู่บนหัวของเธอ หัวเราะเสียงดังโหยหวยออกมา
หลินเสวี่ยอิงพูดออกมา “อย่าทะเลาะกันเลย อย่าทะเลาะกันเพราะฉันเลยนะ…”
ชายทั้งสามหยุดชั่วขณะและมองไปที่หลินเสวี่ยอิงอีกครั้ง
หลินเสวี่ยอิง "..."
โอ้พระเจ้า นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่ ควรจะวิ่งหนีไปไม่ใช่เหรอ
"ประธานซู ฉัน ฉันคิดว่าฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการ ฉันไปก่อนนะคะ..."
หลินเสวี่ยอิงต้องการรีบออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
แต่แฟนหนุ่มของเธอทั้งสามคนกลับขวางกั้นเธอเอาไว้!
“เชอร์รี่น้อย ผู้ชายสองคนนี้เป็นใครกันแน่ วันนี้ต้องพูดให้เคลียร์” อี้ปินกล่าว
ดวงตาของโจวเซียวเต็มไปด้วยความเศร้า "เธอได้เล่าว่าพี่เป็นโรคร้ายแรงแบบนั้นให้เขาฟังจริงๆ หรือเปล่า”
อวี๋เซินเหมี่ยวกัดฟันพูดและกำหมัดแน่น “เชอร์รี่น้อยบอกมาสิว่าทั้งหมดนี่ไม่จริง แล้วฉันจะเชื่อเธอ”
เมื่อคืนเธอยังนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาอยู่เลย...
อวี๋เซินเหมี่ยวไม่อยากใส่ใจกับเรื่องนี้อีกต่อไป เพราะไม่ว่าอย่างไร ครั้งแรกของเธอก็มอบให้เขาไปแล้ว
เขาสามารถให้อภัยความผิดพลาดครั้งก่อนของเธอได้ ตราบใดที่เธอเต็มใจที่จะอยู่กับเขาด้วยดี...
หลินเสวี่ยอิงพูดเสียงเบา “พวกคุณ…กำลังทำอะไรกันน่ะ…พวกคุณเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ฉันถือว่าพวกคุณเป็นพี่น้องกันเสมอเลยนะ”
โจวเซียวพูดอย่างสิ้นหวัง “พี่น้องงั้นเหรอ แล้วที่บอกว่าอยากจะแต่งงานกันล่ะ”
พี่น้องแต่งงานกันอย่างนั้นเหรอ
อี้ปินไม่อยากจะเชื่อ “ไม่ได้หรอก พี่น้องประสาอะไร แล้วความสัมพันธ์ลึกซึ้งของเราที่มันเกิดขึ้นล่ะ”
หลินเสวี่ยอิงตกใจมาก เรื่องแบบนี้หยิบขึ้นมาพูดได้อย่างไร!
เธอกำลังจะพูดปกป้องตัวเองเมื่อ แต่อวี๋เซินเหมี่ยวกลับพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ "เป็นไปไม่ได้! เมื่อคืนเธออยู่กับฉันเพียงคนเดียว...ฉันสาบานได้เลยว่าเมื่อคืนเธอมีอะไรกับฉัน...เธอยังบริสุทธิ์อยู่! "
โจวเซียว “…”
อี้ปิน “…”
พวกเขาสองคนรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าลงกลางศีรษะ ม้าเป็นหมื่นๆตัววิ่งวนเข้ามาอยู่ในหัวของพวกเขา
“เธอ…”
ทั้งสองจ้องไปที่เสวี่ยอิงชั่วขณะ และใช้เวลาสักพักกว่าจะได้สติกลับคืนมา
โจวเซียวพูดขึ้นมา “ตอนเชอร์รี่น้อยอยู่กับฉัน เธอก็ยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่”
อี้ปินกำมือแน่น “ฉันก็ด้วย…”
ไม่ว่าจะโง่แค่ไหน พวกเขาก็ยังเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่แปลกใจเลย หลังจากที่เธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งครั้งแรกกับพวกเขา เธอก็ปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์ครั้งต่อไป
พวกเขาอดทนจนถึงขีดจำกัดแล้ว ที่ได้จากเธออย่างมากสุดก็แค่ความกระชุ่มชวยหัวใจกับคำพูดหวานๆ ที่แสนจะว่างเปล่า…ในตอนนั้น
พวกเขาคิดว่าเธอแสนจะไร้เดียงสาและขี้อาย
ไม่คิดเลย แม้แต่สิ่งนี้ก็เป็นของปลอม
อวี๋เซินเหมี่ยวมองไปที่หลินเสวี่ยอิงด้วยความผิดหวัง
ถึงตอนนี้ ก็ยังมีบางอย่างที่ไม่เข้าใจ เธอเหยียบเรือสามลำงั้นเหรอ
พวกเขาถูกเธอตลบหลังโดยสิ้นเชิง พวกเขาที่เคยคิดว่าเธอไร้เดียงสาและน่ารัก กลับกลายเป็นว่าเป็นพวกเขาที่ไร้เดียงสาเสียเอง
โจวเซียวรู้สึกเหนื่อยมาก ถอยหลังหนึ่งก้าว ดวงตาของเขาแสดงความมุ่งมั่น "ในเมื่อเราเป็นแค่เพื่อนกัน ถ้าอย่างนั้นวันนี้ทุกอย่างก็จะจบลงที่นี่ ดูแลตัวเองดีๆ ก็แล้วกัน"
หลังจากพูดจบเขาก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง
จู่ๆ หลินเสวี่ยอิงก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอถูกฉีกเป็นชิ้นๆ และตะโกนว่า "พี่โจวเซียว!"
โจวเซียว หยุดไปสักพักและไม่หันกลับมามอง
เขาหายเข้าไปในฝูงชนอย่างรวดเร็ว
ฉากเศร้าและเพลงต่างๆ กำลังปรากฎขึ้นมาในหัวของหลินเสวี่ยอิง ‘♫ แม้ฉัน จะเข้าใจแล้วทุกๆ อย่าง แต่ไม่เคยมีเลยสักทาง ที่จะหยุดให้เธอไม่ไป ♫’
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเสียดายและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกราวกับหัวใจถูกบีบ
ฮือ ฮือ!
คนที่ปฏิบัติต่อเธออย่างดีที่สุดและรักเธอมากที่สุดคือโจวเซียว เธอไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นโจวเซียวที่ตัดสินใจเด็ดขาดที่สุด!
หลินเสวี่ยถือโอกาสนี้ไล่ตามเขาและวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้พร้อมๆ กัน
อี้ปินคว้าข้อมือของเธออย่างแรงและดึงเธอกลับมา "เชอร์รี่น้อย ทำไมถึงจะไม่ออกไปโดยไม่อธิบายอะไรเลยสักคำ เธอยังปล่อยเขาไปไม่ได้ใช่ไหม!"
อวี๋เซินเหมี่ยวคว้าข้อมืออีกข้างของหลินเสวี่ยอิงขึ้นมาทันที “เชอร์รี่น้อย คนที่เธอรักที่สุด สรุปคือใครกันแน่!”
อี้ปิน “โจวเซียวไม่อยู่แล้ว เธอจะเลือกเขา หรือเลือกฉัน”
อวี๋เซินเหมี่ยวจ้องมองไปที่หลินเสวี่ยอิง
นายหญิงซูตกใจมาก
หนุ่มสาวสมัยนี้...เกิดเรื่องอื้อฉาวขนาดนี้ยังรับได้อีกเหรอ
ขนาดได้เห็นใบหน้าที่ซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากของหลินเสวี่ยแล้ว ยังเลือกที่จะให้อภัยเธออีกเหรอ
จู่ๆ นายหญิงซูก็นึกขึ้นได้ว่าเธอแก่แล้ว เธอคงจะไม่เข้าใจ...
สำหรับหลินเสวี่ยอิง ในหัวของเธอยังคงพึมพำ
จะทำอย่างไรดี
พวกเขาทุกคนต้องการต่อสู้เพื่อเธอ
เธอร้อนรนใจมาก เธอรักพวกเขาทั้งหมด เธอเลือกไม่ได้จริงๆ !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...