ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 144

ซู่เป่ากำลังเลืกดูยาอยู่ที่ร้านของอี้ปิน อี้ปินนั่งดื่มชาอยู่ข้างใน เม้มริมฝีปากและจ้องมองเธอ

เขาจ้องมองไปยังเด็กตัวเล็กๆ อย่างเธอ กำลังคิดว่าเธอแสร้งทำเป็นรู้เรื่องเกี่ยวกับสมุนไพรจีน

ทันใดนั้น ซู่เป่าหยิบยาชิ้นหนึ่งขึ้นมา ใส่ปากแล้วเคี้ยว

นายหญิงซูรีบอุทานด้วยความตื่นตระหนก “ตายแล้ว กินไม่ได้นะลูก! คายออกมาเร็วเข้า…”

ซู่เป่าพูดอย่างจริงจัง “คุณยาย ซู่เป่ากำลังเลือกยาอยู่นะคะ!”

นายหญิงซูพูด ขณะที่กำลังเอาทิชชู่มาเช็ดปากเธอ “มีวิธีการเลือกยาแบบนี้ที่ไหนกัน…”

ซู่เป่าพูดต่อ “อันนี้เรียกว่าโสมตั่งเซียม บริเวณนี้จะมีรอยย่นเยอะ มีรากที่แน่นและหนา พอชิมดูแล้วมีรสชาติออกหวาน เป็นโสมที่มีคุณภาพดี!”

เธอท่องสิ่งที่จี้ฉางสอนออกมา

อี้ปินที่กำลังดื่มชาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เด็กคนนี้รู้วิธีดูสมุนไพรจริงๆเหรอ

ซู่เป่าหยิบโสมตั่งเซียมขึ้นมาสองสามชิ้น และซูอีเฉินก็ยื่นตะกร้าเพื่อให้เธอหยิบใส่โดยปริยาย

คุณลุงและหลานสาวพากันเลือกไปรอบๆ และทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ปรากฎขึ้น "ประธานซู! คุณอยู่ที่นี่เอง!"

หลินเสวี่ยอิงยืนอยู่ที่หน้าประตูร้าน มองดูซูอีเฉินด้วยความตื่นเต้น

เธอมัวแต่ตื่นเต้นดีใจจนไม่สังเกตเห็นอี้ปินที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ในร้าน และอี้ปินที่เห็นเธอเข้าแล้วก็ประหลาดใจมากเช่นเดียวกัน

อี้ปินที่กำลังจะเปิดปากพูด แต่ซูอีเฉินกลับพูดแทรกอย่างเย็นชาขึ้นมาก่อน “คุณพูดจบหรือยัง ผมพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าตระกูลซูไม่รับคำขอโทษของคุณ และพวกเราไม่ต้องการความรับผิดชอบอะไรจากคุณเช่นกัน แต่ผมขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่ามาก่อกวนกัน”

ดวงตาของหลินเสวี่ยอิงแดงก่ำ “แต่ฉันถูกไล่ฉันออกจากโรงเรียนอนุบาล! เป็นเพราะฉันดูแลซู่เป่าไม่ดี...”

ซูอีเฉินยิ้มด้วยความเย็นชา “โรงเรียนอนุบาลไล่คุณออกเพราะคุณคบกับผู้ชายสามคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งทำให้ศีลธรรมของครูเสื่อมเสีย ไม่เกี่ยวอะไรกับซู่เป่าเลย”

สีหน้าของนายหญิงซูดูไม่พอใจ “ฉันเองก็โดนเธอเป่าหู หลอกกันได้ทุกวัน เธอมักจะบอกว่าซู่เป่าถูกทำร้าย มันหมายความว่ายังไง”

หลินเสวี่ยอิงพูดออกมาเบาๆ “ฉันเปล่านะคะ…”

นายหญิงซูหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา "คำขอโทษของเธอน่ะมันปลอม ฉันรู้จุดประสงค์ของเธอดี!"

หลินเสวี่ยอิงส่ายหัวและน้ำตาก็ไหลลงมา “ฉันเปล่าจริงๆ นะคะ…”

อี้ปินกำลังตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินไปเมื่อสักครู่นี้

ส…สามคนงั้นเหรอ

ไม่ใช่ว่า…นอกจากเขาก็มีแค่โจวเซียนหรอกเหรอ

และเชอร์รี่น้อยเองก็ไม่มีความสัมพันธ์กับโจวเซียวในฐานะคนรัก เธอบอกว่าเธอแค่กลัวว่าโจวเซียวในจะฆ่าตัวตายเพราะโรคซึมเศร้า ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเกลี้ยกล่อมเขาก่อน

หลินเสวี่ยอิงยังคงจ้องมองไปที่ซูอีเฉินด้วยไม่พูดอะไร อี้ปินที่กำลังยืนขึ้นในขณะนี้ถูกชั้นวางของบังอยู่

เธอร้องไห้จนเกือบจะสำลัก "ประธานซู นายหญิงซู คุณเข้าใจฉันผิดจริงๆ..."

"ฉันมีแฟนสามคนตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่..."

อี้ปินถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินคำโต้แย้งของเธอ เจ้าเชอร์รี่ตัวน้อยของเขาจะเป็นคนแบบนั้นได้อย่างไร

แต่อย่างไรก็ตาม ประโยคต่อมาของหลินเสวี่ยอิงก็ทำให้เขาตกตะลึงทันที

"ฉันยังโสดอยู่ ไม่มีแฟนเลยสักคน ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณกำลังพูดถึงอะไร..."

ขณะที่ส่ายหัว เธอก็เช็ดน้ำตาด้วยความเศร้า "คุณซู ถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจกับฉันคุณก็บอกกันตรงๆ ได้ ไม่เห็นต้องมาใส่ร้ายกันแบบนี้..."

ความรู้สึกเย็นเฉียบแผ่ไปยังมือและเท้าของอี้ปิน และเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน

เชอร์รี่น้อยบอกว่าตัวเองโสด...ไม่มีแฟน!

แล้วเขาล่ะ เขาเป็นอะไรสำหรับเธอ!

ใบหน้าของซูอีเฉินเย็นชา ไร้ความรู้สึกในแววตา และเขาจะช่วยรื้อฟื้นความจำของหลินเสวี่ยอิงที่ 'ความจำเสื่อม' ไปชั่วขณะให้เอง

"แฟนของคุณคือโจวเซียว อี้ปินและอวี๋เซินเหมี่ยว ไหงงั้นล่ะ พึ่งไปอยู่กับอวี๋เซินเหมี่ยวมาแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับปฏิเสธว่าไม่มีแฟนซะงั้น"

ซู่เป่ามองไปที่ลุงของเธอ จากนั้นมองไปที่หลินเสวี่ยอิง

ท่านอาจารย์บอกว่าต้องรวมตัวแฟนทั้งสามคน ถึงจะจับผีหลายใจได้!

ตอนนี้ยังขาดอีกสองคน

ในขณะที่กำลังคิด ดวงตาของซู่เป่าก็สว่างขึ้น เธอเห็นโจวเซียวและอวี๋เซินเหมี่ยวอยู่ด้านหลังของหลินเสวี่ยอิง

หลินเสวี่ยอิงแก้ต่างอย่างร้อนรน “คุณซู ฉันคิดว่าคุณกำลังเข้าใจผิด ทั้งสามคนนั้นเป็นแค่เพื่อนของฉัน!”

“โจวเซียวเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องสมัยเรียน พวกเราสนิทกันมาก หลายคนมักเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ…”

“ส่วนอี้ปินเป็นแค่เพื่อนที่คอยดูแลฉัน ความสัมพันธ์ของเราบริสุทธิ์มาก เมื่อก่อนเขามักจะมาส่งข้าวให้ฉันอยู่บ่อยๆ ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามีคนเข้าใจผิดกันไปได้ยังไง”

“แล้วก็อวี๋เซินเหมี่ยว…ฉันเองก็ไม่ได้รู้จักเขาดีนัก วันนี้ฉันไปห้างและบังเอิญพบเขา ก็เลยได้พูดคุยกัน คุณบังเอิญไปเห็นเขาแล้วเข้าใจผิดหรือเปล่า”

หลังจากพูดจบ หลินเสวี่ยอิงก็ไม่ลืมที่จะพูดตบท้ายแสดงความจริงใจ "จริงๆ พวกเขาเป็นแค่เพื่อนของฉัน หากมันจะทำให้คุณเข้าใจผิด ฉันก็จะไม่คบค้ากับพวกเขาอีก..."

“ที่จริง…ที่จริงแล้ว คนที่เชอร์รี่น้อยชอบมาตลอดก็คือ…คุณซูนะคะ!”

ในขณะที่เธอพูด ใบหน้าของเธอก็แดงแจ๋ ราวกับเปลวไฟ

ตอนนี้เธอไม่กู่ไม่กลับแล้ว และอดไม่ได้ที่จะเพ้อฝันว่าพระเอกกำลังใส่ร้ายเธอเพราะเขากำลังหึงหวงและเข้าใจความสัมพันธ์ของเธอกับคนอื่นผิด...

จากนั้นเธอก็เอาแต่ร้องไห้เสียใจและพูดว่าคนที่เธอชอบก็คือเขายังไงล่ะ คนเลว! คนใจร้าย!

หัวใจของพระเอกก็เจ็บปวด และเขาก็จะอดไม่ได้ที่จะกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา...

เมื่อจินตนาการถึงฉากนี้ หัวใจของหอลนเสวี่ยอิงก็เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง และเธอก็เหลือบมองซูอีเฉินอย่างเขินอาย

เมื่อเหลือบไปเห็นอี้ปินอยู่ข้างหลังซูอีเฉิน

หลินเสวี่ยอิงก็ตกตะลึง ความตื่นตระหนกครอบงำในใจของเธออย่างรวดเร็ว

ที่น่าตกใจไปกว่านั้น เสียงที่คุ้นเคยสองเสียงดังมาจากข้างหลังเธอ

โจวเซียวหัวเราะอย่างน่าสมเพช และพูดอย่างสิ้นหวัง "สุดท้ายแล้ว พี่ก็ไม่ใช่อะไรสำหรับเธอเลยเหรอ"

ส่วนอวี๋เซินเหมี่ยว มันยากที่จะเชื่อว่าเชอร์รี่น้อยที่พึ่งหลับนอนกับเขาเมื่อคืน จะบอกว่าไม่รู้จักเขาดี!

“เชอร์รี่น้อย…นี่เธอ”

หลินเสวี่ยอิงไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าชายทั้งสามมาถึงและได้ยินสิ่งที่เธอพูด!

เธอตกใจและหน้าซีดทันที...

ซู่เป่าประหลาดใจ คุณป้าคนนี้มหัศจรรย์มาก ใบหน้าของเธอเหมือนมีสวิตช์เปิดปิดได้ สักพักหน้าเปลี่ยนสีแดง และสักพักก็เป็นสีขาวซีด สลับกันไปมา

น่าทึ่งจริงๆ !

หลินเสวี่ยอิงส่งเสียงพึมพำ เธออ้าปากพูดด้วยความตื่นตระหนก "พวก พวกคุณ... พวกคุณมาที่นี่ได้อย่างไร..."

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน