หลินเสวี่ยอิงรอคอยอย่างว่างเปล่าเป็นเวลานาน จนกระทั่งมืดลง ซูอีเฉินก็ยังไม่กลับมา เธอรู้สึกราวกับว่าตนเองถูกทอดทิ้ง และร้องไห้ตลอดทางขณะที่เดินกลับมา
เดินมาจนถึงบ้านของโจวเซียว ก็ได้พบว่าเขาย้ายบ้านไปแล้ว เมื่อเช้าเขายังอยู่อยู่เลย คืนนี้บ้านกลับถูกขายไปซะแล้ว
หลินเสวี่ยอิง “...”
เธอจึงตัดสินใจไปบ้านของอี้ปินอีกครั้ง
อี้ปินเป็นเถ้าแก่ของร้านยาในตลาดที่ใหญ่โตที่สุด เปิดบริษัทเล็กๆ เป็นของตัวเอง เขาอาศัยอยู่ในย่านที่หรูหรา ในบรรดาแฟนหนุ่มของเธอทั้งสามคน อี้ปินเป็นคนที่มีฐานะมากที่สุด
เมื่อหลินเสวี่ยอิงมาถึงเธอก็พบว่าเขาได้เปลี่ยนแม่กุญแจแล้ว และตัวเขาไม่ได้กลับมา แต่ประตูกลับเต็มไปด้วยข้าวของของเธอกองอยู่
ป้าแม่บ้านถามเธอว่าของพวกนี้เธอยังต้องการอยู่ไหม หากไม่ต้องการป้าแม่บ้านจะทำความสะอาดและเอาไปทิ้ง
หลินเสวี่ยอิงไม่มีทางเลือก นอกจากเปิดกระเป๋าเดินทางหยิบของใส่ให้มากที่สุด แล้วไปบ้านของอวี๋เซินเหมี่ยว
อวี๋เซินเหมี่ยวกำลังอยู่ในสภาพจิตใจย่ำแย่ เขาถูกไล่ออกเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ คิดไม่ตกว่าจะอยู่หรือตายดี
อีกทั้งคนที่เป็นเหยื่อก็คือเขา เขาเพียงแค่พาหลินเสวี่ยอิงเข้ามาในบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต…
เมื่อคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากหลินเสวี่ยอิงเพียงคนเดียว เขาก้รู้สึกเป็นทุกข์มาก
เมื่อได้เห็นว่าหลินเสวี่ยอิงมา เขาจึงล็อกประตูไว้ และตัดสินใจกลับบ้านเกิด
หลินเสวี่ยอิงร้องไห้ขอร้องเขาตลอดทาง แต่อวี๋เซินเหมี่ยวก็ไม่หันกลับมามอง
เธอหมดหวังและคงต้องพักในโรงแรมชั่วคราว ในอดีตมีแฟนหลายคนให้เงินเธอ เวลาเธอไปพัก เธอมักจะอาศัยอยู่ในโรงแรมระดับสี่ดาวขึ้นไป แต่เมื่อตัดภาพมาตอนนี้...
ค่าห้องไม่พอแล้ว!
เธออดไม่ได้ที่จะนั่งยองๆ ข้างถนนและร้องไห้เสียงดัง รู้สึกตัวเองเป็นเหมือนนางเอกตัวน้อยที่ตกเป็นเป้าในละคร อ่อนแอ ทำอะไรไม่ถูก และมีชะตากรรมที่น่าสงสาร เพราะพระเอกเข้าใจเธอผิด...
เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้ชีวิตข้างถนนและทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อพระเอกได้ตามหาและพบเธออีกครั้ง ดวงตาของเธอกลับไม่หลงเหลือประกายสดใสอีกต่อไปแล้ว...
ฮือๆ ชีวิตช่างโหดร้าย!
หลินเสวี่ยอิงรู้สึกว่าทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของเธอเลย ถ้าใครสักคนจะรักเธอจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาควรจะต้องรักทั้งหมดที่เป็นเธอ แล้วยอมรับข้อผิดพลาดของเธอได้อย่างนั้นเหรอ
ดังนั้นในตอนนี้ เธอมีเพียงความรู้สึกสงสารตัวเอง เศร้าและสมเพช แต่เธอไม่มีความคิดที่จะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย
ในขณะนี้ แท็กซี่ขับผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ล้อรถจมลงไปในแอ่งน้ำข้างถนน หลินเสวี่ยอิงก็ถูกสาดด้วยน้ำเสียข้างทาง...
ก้อนโคลนหรืออะไรบางอย่างกระเด็นเข้าปากเธอทันที
หลินเสวี่ยอิงวิ่งไปอาเจียนอย่างรวดเร็ว และหลังจากอาเจียนอยู่ได้สักพัก เธอก็ไร้เรี่ยวแรง กอดเสาป้ายรถเมล์และร้องห่มร้องไห้
น่าอายเหลือเกิน ไม่มีอะไรน่าสมเพชไปกว่านี้แล้ว
**
ซู่เป่าลากผีหลายใจกลับบ้านและมัดเขาไว้บนเตียง
ผีหลายใจโวยวาย "ปล่อยฉันนะ! ให้ตายเถอะ ปล่อยฉัน!"
เธอเป็นผีร้าย! มันสมเหตุสมผลไหมที่จะให้เธอใส่สายจูงเหมือนสุนัข
ซู่เป่าพูด "ไม่ว่าคุณจะตะโกนยังไงก็ตาม ไม่มีใครได้ยินหรอก"
ดังนั้นทำแบบนี้จึงไม่เป็นการรบกวนผู้อื่น
ซู่เป่าคิดว่านี่สมเหตุสมผลแล้ว
ผีหลายใจยังคงตะโกนด้วยความโกรธ
เสี่ยวอู่กระพือปีกและเดินตามซู่เป่าด้วยก้าวเล็กๆ "เสียงดังจัง เสียงดังมาก!"
ซูเหอเวิ่นโผล่เข้ามาแล้วถามว่า “ซู่เป่า เธอจับอะไรมาน่ะ”
ซู่เป่ามองไปยังเขา “พี่คงไม่อยากรู้หรอก”
ซูเหอเวิ่น “...”
รับประทานข้าวเสร็จ ซู่เป่าก็เล่นอยู่ที่ชั้นหนึ่งอยู่สักพัก จากนั้นค่อยเข้าห้องนอนไป
ผีหลายใจตะโกนมากจนควันออกมาจากคอของเธอ และเธอก็มีสภาพแน่นิ่งอยู่ที่ปลายเตียง ไม่อยากขยับไปไหน
ซู่เป่า: "คุณป้าผีหลายใจ ใจเย็นลงแล้วเหรอ"
ผีหลายใจ "ฮึ่ม"
ซู่เป่าย้ายม้านั่งตัวเล็กมานั่งข้างเธอ แล้วพูดอย่างตื่นเต้น "ฟังเรื่องเล่าเวลา!"
เธอวางคางของเธอลงและจ้องมองไปที่ผีหลายใจอย่างโหยหา
ซูเหอเวิ่นไม่รู้ว่าตัวเองเผลอตามมาตั้งแต่เมื่อไร เขาวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว และตั้งกล้องของเขาบนชั้นวาง
จากนั้นก็เปิดดูอย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นผีผู้หญิงในชุดสีแดงมองตรงมา เขาก็กลัวมากจนเข่าอ่อน รีบเข้าไปพยุงซู่เป่าไว้
“ซู่เป่า นั่งด้วยกันเถอะ”
ฮือๆ น้องสาวของฉัน!
มุมปากของจี้ฉางกระตุกและเขาพูดว่า "บอกข้าสิ เจ้าชื่ออะไร วันเดือนปีเกิด เกิดที่ไหน และเจ้าตายอย่างไร"
ในเวลานี้ผีหลายใจสงบลงมาก เมื่อนึกย้อนกลับไปตอนที่เธออยู่บนหัวของหลินเสวี่ยอิงก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนด่าออกมาว่า ‘บ้าเอ้ย’
“ผู้หญิงคนนั้นทำให้ฉันขยะแขยงแทบตาย” ผีหลายใจพูดด้วยความโกรธ “คุณจะเชื่อไหม ถ้าฉันบอกว่าผีร้ายอย่างฉันถูกจินตนาการของเธอบดบังตา”
จี้ฉาง “...”
ซู่เป่า “...”
ผีหลายใจอยากร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตา “เดิมทีฉันแค่อยากจะอาศัยร่างของเธอเพื่อดูดวิญญาณชั่วร้ายบ้าง ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนที่เพ้อฝันเก่งขนาดนั้น ”
พออาศัยอยู่กับหลินเสวี่ยอิงนานเข้า เธอก็เกือบลืมไปหมดแล้วว่าจุดประสงค์ของตัวเองคือมาทำอะไรกันแน่
พูดไปก็น่าอายเปล่า
จี้ฉางหัวเราะเยาะ “แล้วตอนที่เจ้าถูกจับ ยังตะโกนเรียกให้ปล่อยเจ้าออกไปอยู่เลยไม่ใช่หรือ”
ผีหลายใจมีสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก “นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง”
หากถูกจับได้อาจโดนจำกัดทิ้งได้
แต่ถ้าเธอทิ้งหลินเสวี่ยอิงไว้ข้างหลัง และหลบหนีไปได้ เธอก็อาจจะเจอคนอื่นๆ ที่สามารถอาศัยร่างของเขาได้อีก
ในโลกนี้...ผู้หญิงผู้ชายที่เจ้าชู้นั้นหายากอย่างนั้นเหรอ
"มีผู้ชายและผู้หญิงที่เจ้าชู้หลายใจมากมายในโลกนี้ ฉันสามารถหาคนที่ตรงกับดวงชะตาของฉันได้อย่างง่ายดาย แต่ฉันกลับตาบอดไปเลือกหลินเสวี่ยอิง"
จี้ฉาง “...”
ซู่เป่า “...”
ตาบอดอะไรอย่างนี้นะ!
นี่เป็นผีร้ายตัวแรกที่ได้รับผลกระทบจากการอาศัยร่างคนอื่นตัวแรกที่พวกเขาจับได้
จะว่ายังไงดี... เธอเป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร ไร้สาระ และไม่มีเหตุผล...
ผีหลายใจร้องไห้คร่ำครวญ “พวกคุณไม่รู้หรอก! เดิมทีตัณหาและความโลภของหลินเสวี่ยอิงควรจะกลายเป็นน้ำที่คอยหล่อเลี้ยงวิญญาณอย่างฉันไว้”
“สุดท้ายผลที่ออกมา...ช่างดีจริงๆ วิญญาณร้ายในร่างของฉันก็กลายเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงเธอแทน”
"ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงสมองตายแบบนี้ เธอเอาแต่เพ้อฝันทั้งวันว่าเธอเป็นนางเอกในละครทีวี เป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ เป็นสาวสวยที่อยู่ยงคงกระพันที่สุดในจักรวาล!"
“เธอจินตนาการไปไกลถึงขั้น เวลาเธอเป็นทุกข์ผมเธอจะยุ่งเหยิงและหยิกงอ เวลาที่เธอมีความสุขผมจะตรงสลวย เวลาดีใจจะมีดอกซากุระปลิวร่วงลงมา เวลาเป็นทุกข์หยาดฝนสีแดงก็จะตกโปรยปราย”
"โลกทั้งใบหมุนรอบตัวเธอ โดยมีเธอเป็นจุดศูนย์กลาง!"
"ถึงฉันจะเป็นคนเจ้าชู้หลายใจ แต่ฉันไม่ใช่คนงี่เง่า! เธอเป็นคนหลายใจ แต่ก็งี่เง่า และไร้สมอง ฉันไม่คิดว่าสมองของเธอปกติเหมือนทั่วไป"
ผีหลายใจบ่นมากราวกับว่าเธอเต็มไปด้วยความแค้นและอัดอั้นมานาน
ซู่เป่าถามด้วยความสงสัย: "แล้วคุณตายได้อย่างไร คุณตายแล้วกลายมาเป็นผีหลายใจ แปลว่าก่อนหน้านี้คุณก็ไม่ได้เป็นเหมือนครูเชอร์รี่ใช่ไหม"
ผีหลายใจขมวดคิ้ว "อย่ามาดูถูกฉันนะ!"
ทันใดนั้น เธอก็หยุดชะงักไปไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ผีหลายใจมีสีหน้าที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้บนใบหน้าของเธอ
เธอรู้สึกเสียใจและเสียดาย...
“ฉันเหยียบเรือสองแคม แล้วเรือก็ล่ม...”
ผีหลายใจพูดอย่างแผ่วเบา “ฉันยืนยันว่าบนโลกนี้ไม่มีใครน่าอนาถไปมากกว่าฉันแล้ว แฟนเก่าของฉันหลอกโกงเงินของฉันและหนีไปกับแฟนเก่าอีกคนของฉันอีกที...หนีตามผู้ชายน่ะ!"
ซู่เป่าและจี้ฉางต่างงุนงง "?"
หา... แฟนสองคนหนีไปด้วยกันงั้นเหรอ เรื่องประหลาดเช่นนี้คืออะไรกัน ชายสองคนจะหนีไปด้วยกันได้เหรอ
ซู่เป่าดูงุนงง และใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...