ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 148

ผีหลายใขถอนหายใจและพูดว่า "ฉันชื่อหนิงป๋ายเฟย ฉันเกิดในเมืองเซียวหลาน แม้ว่าครอบครัวของฉันจะไม่ได้เรียกว่าร่ำรวยมาก แต่ก็ยังถือว่ามีเงิน พ่อแม่ของฉันซื้อบ้านในย่านที่ร่ำรวยไว้หนึ่งหลัง"

"เพราะฉันเป็นลูกคนเดียวในครอบครัว พ่อแม่ของฉันจึงโอนบ้านให้เป็นชื่อของฉัน"

ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยหนิงป๋ายเฟยจริงจังกับการเรียนและมีความประพฤติดี เธอเป็นเด็กดีในสายตาของทุกคน

เพียงแต่ว่าไม่มีใครรู้เกี่ยวกับความป่าเถื่อนที่อัดอั้นในใจของเธอ ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเธอได้เป็นอิสระจากการอ้อมอกของพ่อแม่เป็นครั้งแรก เธอรู้สึกเหมือนนกที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

“ตอนนั้นฉันไปร้านเหล้า ไปร้านคาราโอเกะ ไปเที่ยวเล่น เพราะเธอรวยและหน้าตาดีจึงมีผู้ชายไล่ตามจีบมากมาย”

“แฟนคนแรกของฉันก็เป็นคนบ้านเดียวกันเ ครอบครัวของเขาก็คล้ายๆ กับฉัน หลังจากที่เราอยู่ด้วยกันได้ครึ่งปี วันหนึ่งฉันก็รู้สึกเบื่อขึ้นมาทันที”

ซู่เป่าเกาหัวและถามว่า "ทำไม"

ความรู้สึกของผู้ใหญ่นั้นเข้าใจยากเหลือเกิน

ทำไมถึงชอบได้ แล้วจู่ๆ ก็ไม่ชอบล่ะ?

ผีหลายใจพูดต่อ “อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่ด้วยกันมานานแล้ว…นานจนรู้ไส้รู้พุงของกันและกัน และดูเหมือนว่าพอมองไปถึงในอนาคต ฉันก็เห็นแต่จุดจบและทางตันน่ะสิ”

แค่รู้สึกว่ามันไม่น่าตื่นเต้นและน่าเบื่อ...

ณ ตอนนั้นจู่ๆ ก็มีผู้ชายอีกคนที่มีบุคลิกแตกต่างจากแฟนหนุ่มของเธออย่างสิ้นเชิงเข้ามาในชีวิตของเธอ

“ครอบครัวของเขามาจากชนบท เขานิสัยดีมาก ทำตัวดีจนบางครั้งทำให้คนอื่นรู้สึกลำบากใจ เขาจะคอยอ้อนฉันเหมือนกระต่ายตัวเล็กๆ มีเหตุผลและอ่อนโยน... ฉันชอบเขามาก”

ในไม่ช้า ผีหลายใจก็ตัดสินใจเลิกกับแฟนคนแรกและหันมาคบกับแฟนคนที่สอง

ซู่เป่าพยักหน้า "ถ้างั้นคราวนี้พอคุณได้คบกับคนที่ชอบแล้ว จะอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยไหม"

ผีหลายใจส่ายหัว "ไม่ เราเลิกกันหลังจากนั้นหนึ่งเดือน"

ซู่เป่าสับสน "ทำไมล่ะ"

ผีหลายใจกล่าวว่า "เขาเชื่อฟังเกินไป ไม่ท้าทาย และเขาเกาะติดฉันเกินไป!"

ซู่เป่า "..."

ไม่ใช่ว่าเหตุผลในตอนแรกที่เธอชอบเขาเป้นเพราะว่าเขาเกาะติดและเชื่อฟังเธอหรอกเหรอ

แล้วทำไมถึงเลิกชอบเขาในท้ายที่สุดเพราะเขาเชื่อฟังและเกาะติดมากเกินไปล่ะ

ซู่เป่าเม้มริมฝีปาก สงสัยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

จี้ฉางถามว่า "แล้วยังไงต่อ"

ผีหลายใจกล่าวว่า "หลังจากเลิกกัน ฉันพบว่าถ้าหัวใจของฉันปราศจากความรัก ฉันจะรู้สึกเคว้งคว้างมาก ตอนนั้นจู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าแฟนเก่าของฉันดีกว่า..."

เธอต้องการที่จะกลับไปอยู่ด้วยกันกับเขา แต่ทันใดนั้นรุ่นพี่อีกคนก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆเธอ

รุ่นพี่สุดหล่อ อบอุ่น ร่าเริง และชอบเอาใจใส่ผู้อื่น

หัวใจของเธอถูกล่อลวงไปอีกครั้ง

ซู่เป่าพยักหน้า เธอพอจะเดาสถานการณ์ออก "แปลว่าคุณก็เลือกที่จะคบกับรุ่นพี่คนนั้นเหรอ"

ผีหลายใจถอนหายใจ "ฉันเองก็ไม่อยาก แต่รุ่นพี่หล่อเกินไปจริงๆ เมื่อเทียบกับแฟนเก่าแล้ว ทุกอย่างที่เป็นรุ่นพี่ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยเหลือเกิน..."

จี้ฉางพูดอย่างเอือมระอา "เจ้านี่เจ้าชู้จริงๆ"

ผีหลายใจแก้ต่าง "ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ฉันทุ่มเทเต้มร้อยให้กับทุกความสัมพันธ์ และทั้งหมดนั้นฉันจริงใจ!"

ทุกครั้งที่เธอมีแฟนใหม่ เธอจะรู้สึกเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวโปรดตัวใหม่ รู้สึกมีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ

โดยเฉพาะช่วงข้าวใหม่ปลามันเธอและแฟนหนุ่มทุกคนเหมือนเป็นกาวใจ ได้สะพายเป้คู่รัก เป็นแฝดสยามตัวติดกันเป็นตังเม

ผีหลายใจชอบความรู้สึกของการตกหลุมรัก เธอไม่มีสมองแม้แต่น้อยตอนที่กำลังมีความรัก เพียงคำพูดไม่กี่คำของแฟนก็ทำให้เธอคลั่งรักจนไปไหนไม่ได้แล้ว เธอมักจะชอบทำสิ่งต่างๆที่คู่รักทำกัน เช่น เล่นน้ำกับแฟนของเธอท่ามกลางสายฝน ทอผ้าขนหนู หรือแม้แต่การซักชุดชั้นใน

จี้ฉางเม้มริมฝีปาก ชำเลืองมองผีหลายใจ แล้วถามว่า "ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็โดนฆ่าตายหลังจากเปลี่ยนแฟนใหม่ใช่ไหม"

ผีหลายใจ "ก็ไม่ถึงขนาดนั้น..."

เธอถอนหายใจ

หลังเรียนจบ ครอบครัวเริ่มยุให้เธอแต่งงาน และจู่ๆ พวกเขาก็รู้เรื่องที่เธอเคยคบกับแฟนคนแรก

เผอิญทั้งคู่รู้จักกันพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายจึงจับคู่เธอกับแฟนเก่า

"ตอนนั้นฉันอยู่ในช่วงอารมณ์เคว้งคว้างว่างเปล่า ก็เลยตอบตกลงไป" ผีหลายใจพูดต่อ “อาจจะเป็นเพราะฉันเหนื่อยกับการคบใครเล่นๆ และเริ่มรู้สึกอยากลงหลักปักฐานกับใครสักคน แล้วฉันก็คุยเรื่องแต่งงานกับเขาอย่างรวดเร็ว ถึงความสัมพันธ์ของเราสองคนจะไม่เหนียวแน่นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็ยังหวานชื่นเหมือนเดิม”

“ในเวลานั้นฉันก็ตระหนักได้ทันทีว่าฉันยังคงมีความรู้สึกกับเขาอยู่ และฉันเองก็มีความสุขมากด้วย...”

“ฉันรู้สึกพร้อมและเต็มใจที่จะก้าวเข้าสู่ชีวิตหลังแต่งงาน”

ซูเหอเวิ่นที่เงียบมาตลอดถามว่า "แล้วคุณหยุดที่คนคนนี้ไหม"

ผีหลายใจส่ายหัว: "ตอนนั้น แฟนคนที่สองมาหาฉัน"

“เขาพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่ลืมฉัน เขาบังคับตัวเองให้อวยพรฉันด้วยรอยยิ้ม...เขาพาฉันไปดูดอกไม้ไฟและอวยพรให้ฉันมีความสุขในชาติหน้า พอดอกไม้ไฟได้ถูกจุดขึ้นฉันก็เห็นเขาร้องไห้อย่างเงียบ ๆ "

ซู่เป่ากอดเสี่ยวอู่ไว้ แล้วกล่าวชื่นชม “พี่ชายช่างแสนดีจริงๆ ”

ผีหลายใจตะโกนขึ้นมา "ดีกับผีน่ะสิ! การตายของฉันเกี่ยวข้องกับเขานะ!"

ซู่เป่า ซูเหอเวิ่น จี้ฉาง "?"

ผีหลายใจกัดฟันและพูดว่า "เมื่อฉันเห็นน้ำตาของเขาในตอนนั้น หัวใจของฉันก็เจ็บปวด และฉันก็ได้รู้ตัวเองว่าฉันยังรักเขาอยู่!"

“แต่ฉันกำลังจะแต่งงานแล้ว และฉันก็รักแฟนคนแรกของฉันมาก จะทำอย่างไรได้ล่ะ”

หนิงป๋ายเฟยกำลังเตรียมงานแต่งงานกับแฟนหนุ่มของเธอ และแอบออกเดทกับแฟนหนุ่มที่แสนดีอีกคนหนึ่งในช่วงเวลาเดียวกัน

การมีความสัมพันธ์แบบลับๆ นี้ ทำให้เธอคิดไปเองว่าเธอรักแฟนหนุ่มคนที่สองมากขึ้นทุกวัน

“ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นหนี้บุญคุณเขา ฉันขอโทษเขา ให้เขาเลิกกับฉันเถอะ! แต่เขาบอกว่า ไม่ ตราบใดที่เขายังอยู่กับฉันได้ เขาก็ยินดีที่จะไม่เปิดเผยตัวตนไปตลอดชีวิต"

ผีหลายใจร้องไห้สะอึกสะอื้น "ฉันรู้สึกสะเทือนใจมาก ฉันจะปล่อยให้แฟนหนุ่มเด็กดีของฉันไม่ได้อะไรเลยได้อย่างไร ฉันจึงยกบ้านที่พ่อแม่มอบให้ให้เขา และซื้อรถให้เขาด้วยเงินเก็บของฉัน"

"หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ติดต่อฉันมาหลายวัน ฉันยุ่งกับงานแต่งงานเลยไม่ได้คิดอะไรมาก..."

“ฉันคิดว่าเขาคงกำลังซ่อนตัวอยู่ในความมืดและเศร้าใจ ตอนที่ฉันแต่งงานและแลกแหวนกัน ฉันยังคงคิดถึงเขาจากก้นบึ้งอย่างสุดหัวใจ”

“ให้ตายเถอะ และฉันก็มารู้ทีหลังว่าเขาขายบ้านและรถในเวลาไม่กี่วันนั้น เพื่อเอาเงินสดแล้วหนีไปภายในชั่วข้ามคืน!!”

ซู่เป่า ซูเหอเวิ่น จี้ฉาง "..."

ผีหลายใจรู้สึกสะเทือนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอพูดถึงสิ่งนี้ "จะหนีก็หนีไปสิ..."

"ฉันไม่รู้จนกระทั่งภายหลังว่าเขาหนีไปกับรุ่นพี่!!"

ผีหลายใจรู้สึกตื่นเต้นร้อนรนมากเมื่อเธอพูดถึงสิ่งนี้

"ฉันมันโง่ แฟนเก่าฉันโกงเงินฉัน แถมยังหนีไปกับแฟนเก่า! นี่เป็นสคริปต์ที่คนเขียนเอาไว้ทำหนังหรือยังไง”

จี้ฉาง "..."

ซู่เป่า “...”

ซูเหอเวิ่น “!”

ผีหลายใจร้องโหวกเหวกเสียงดัง "สองคนนี้โกหก!!"

บ้านถูกขาย และครอบครัวและสามีของเธอก็รู้เรื่องในไม่ช้า และสามีก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ตอนที่ภรรยาของตัวเองกำลังเตรียมแต่งงานอย่างมีความสุข เธอยังมีอารมณ์ไปนัดพบปะกับผู้ชายคนอื่นเป็นการส่วนตัว

แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็นเกย์อีก

"สามีของฉันขอหย่าทันที" ผีหลายใจสะอื้น "แต่หลังจากเรื่องราวเฮงซวยทั้งหมดนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ สามีก็คือคนที่รักฉันจริงๆ"

“ฉันไม่เห็นด้วยกับการหย่าร้าง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะตั้งใจแน่วแน่แล้ว”

“ฉันไม่มีทางเลือก ฉันขอร้องเขาสุดกำลังที่มีแล้วเขาก็ไม่หันกลับมามอง...ฉันจึงปีนขึ้นไปบนตึกที่สูงที่สุดในเมืองและขู่เขาด้วยความตาย”

“ตอนแรกฉันไม่อยากกระโดดลงจากตึกเลย ใครจะรู้ว่าสองสามวันนี้ฝนตกหนัก และตะไคร่น้ำบนหลังคาก็ลื่นเกินไป ดังนั้นการแสดงแกล้งฆ่าตัวตายจึงกลายเป็นเรื่องจริง...ฉันพลัดตกลงมา”

จี้ฉาง ซู่เป่า และซูเหอเวิ่นต่างอึ้งไปตามๆ กัน “...”

ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าเวทนาเหลือเกิน...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน