มู่กุยฝานเดินผ่านฝูงชนอย่างรวดเร็ว แล้วเห็นศีรษะคนลอยอยู่บนผิวน้ำจากที่ไกลๆ
ที่น่าแปลกก็คือมีหญิงสาวสองคนนั่งตัวเปียกอยู่ริมแม่น้ำและเอาแต่ร้องไห้
แต่เมื่อสักครู่เขาได้ยินว่ามีเด็กผู้หญิงสองคนตกน้ำ ช่วยขึ้นมาได้แล้วเหรอ
มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งร้องไห้ตะโกนว่า “ยังเหลือลูกสาวของฉัน ลูกสาวของฉัน”
เธอทั้งพูดทั้งรีบร้อนอยากจะลงแม่น้ำ
มู่กุยฝานดึงเธอไว้และพูดว่า “คุณอย่าลงไป”
หญิงวัยกลางคนไม่ฟังและดึงดันจะลงไป “ลูกสาวของฉัน รีบช่วยลูกสาวของฉัน”
แต่พวกลุงๆ ป้าๆ ที่อยู่บนฝั่งกลับตะโกนร้องอย่างร้อนรนใจว่า “ไม่ใช่ เป็นผู้ชาย... ยังเหลือผู้ชายอีกคน”
สรุปว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่
หญิงวัยกลางคนผลักมู่กุยฝานออกอย่างสุดแรง แต่ถูกมู่กุยฝานดึงกลับมา
เขาตะคอกว่า “คุณว่ายน้ำเป็นเหรอ”
หญิงวัยกลางคนส่ายหน้าอย่างประหม่า
มู่กุยฝานพูดว่า “อย่าลงไป รออยู่ตรงนี้ ได้ยินไหม”
พูดจบเขาก็กระโดดลงน้ำทันที ชีวิตคนแล้วแต่โชคชะตา แต่เวลาไม่รอใคร
มู่กุยฝานว่ายไปยังศีรษะที่ลอยอยู่
แต่คิดไม่ถึงว่าหญิงวัยกลางคนจะกระโดดลงน้ำในเวลานี้ ริมแม่น้ำค่อนข้างตื้น แต่ยิ่งไปทางใจกลางแม่น้ำยิ่งลึก เธอว่ายไปทางใจกลางแม่น้ำพลางตะโกนร้องอย่างร้อนรนใจว่า “ลูกสาวของฉัน ช่วยลูกสาวของฉันก่อน”
เธอเพิ่งพูดประโยคนั้นจบก็พลันเหยียบเท้าพลาด จากนั้นจมลงในแม่น้ำทันที
หญิงวัยกลางคนร้องตะโกนจากจิตใต้สำนึกและตะเกียกตะกายจากสัญชาตญาณ
“ช่วยด้วย...”
มู่กุยฝานหงุดหงิดมาก บอกเธอแล้วว่าอย่าลงมา ว่ายน้ำไม่เป็นและยังดึงดันจะลงมา
เขามองไปทางศีรษะที่โผล่ขึ้นมาใจกลางแม่น้ำ แต่มันไม่เคลื่อนไหวแล้ว
หญิงวัยกลางคนอยู่ใกล้เขากว่า ระยะห่างเพียงสองเมตร
ถ้าเขาช่วยคนที่อยู่ตรงใจกลางแม่น้ำก่อนแล้วค่อยกลับมาช่วยเธอ ป้าคนนี้อาจจะเสียชีวิตก่อน แต่คนที่อยู่กลางแม่น้ำไม่ขยับ อาจเป็นไปได้มากว่าเขาเสียชีวิตแล้ว
มู่กุยฝานเลือกที่จะช่วยผู้ที่มีโอกาสรอดชีวิตสูง คนเราเมื่อต้องเผชิญกับการช่วยเหลือในช่วงเวลาวิกฤตจะไม่ได้พิจารณาด้วยซ้ำว่าควรหรือไม่ควรช่วย จะพิจารณาแค่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
มู่กุยฝานว่ายกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วยกป้าคนนั้นขึ้นและออกแรงเหวี่ยงเธอขึ้นฝั่ง จากนั้นหันหน้าว่ายกลับไปยังใจกลางแม่น้ำ
ป้าคนนั้นลงล้มบนพื้นโคลนริมแม่น้ำอย่างจริงจังและร้องไห้คร่ำครวญ จากนั้นถูกคนดึงขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็ว และยังสามารถได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอจากไกลๆ
นายหญิงซูและซู่เป่าตามไม่ทันขายาวใหญ่ของมู่กุยฝาน ดังนั้นจึงมาถึงที่นี่ในเวลานี้
ซู่เป่ามองไปทางริมแม่น้ำ พลันร้อนรนใจขึ้นมาทันที
“คุณพ่อ คุณพ่อ” เธอรีบวิ่งลงไป
นายหญิงซูร้อนรนใจ “ซู่เป่า อย่าลงไป”
ซู๋เป่าหันหน้ากลับมา “คุณยายไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ซู่เป่าไม่วิ่งเล่นไปทั่วค่ะ คุณยายอย่าไปไหนเพ่นพ่านนะคะ”
เธอวิ่งลงไปทันทีที่พูดจบ
นายหญิงซูร้อนรนใจก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่สามารถลงไปได้ ถึงลงไปนอกจากจะสร้างความวุ่นวายแล้วก็ทำอะไรไม่ได้
เธอจับรีโมทไว้แน่น จากนั้นควบคุมรถเข็นให้ถอยหลังไปครึ่งเมตร เพราะริมแม่น้ำมีคนเยอะมากเกินไป เธอกลัวว่าถ้าไม่ระวังแล้วเกิดโดนคนวิ่งมาชนตกลงไปก็มีแต่จะเพิ่มความวุ่นวาย
นายหญิงซูถอยไปอยู่ในเขตที่ปลอดภัย จากนั้นรีบคว้าคนที่เดินผ่านไปมาและขอร้องเขาให้ช่วยลงไปดูซู่เป่า...
ขาสั้นๆ ของซู่เป่าวิ่งเร็วมากและในไม่ช้าเธอก็มาถึงริมแม่น้ำ เธอไม่หุนหันพลันแล่นแต่ยืนควักมืออยู่ริมแม่น้ำพร้อมทั้งตะโกนว่า “คุณพ่อ กลับมา”
มีคุณลุงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาและรีบอุ้มเธอขึ้น “เพื่อนตัวน้อย อย่าวิ่งเล่นเพ่นพ่าน”
ลมบนผิวน้ำแรงมาก มู่กุยฝานได้ยินเพียงเสียงว่ายน้ำของตัวเอง เขาว่ายมาถึงใจกลางแม่น้ำแล้วและคว้าตัวคนที่ลอยมากับน้ำ
ในขณะที่จับโดนเสื้อของเขา มู่กุยฝานเพียงรู้สึกถึงความเหนียวเหนอะหนะและฝ่ามือลื่นๆ
ตอนเขากำลังแปลกใจว่าคนคนนี้เพิ่งตกน้ำแต่ทำไมถึงรู้สึกเหมือนสัมผัสตระใคร่น้ำราวกับแช่อยู่ในน้ำมานาน แล้วคนที่ลอยอยู่ในน้ำก็พลิกมาเผยให้เห็นใบหน้าซีดเซียวและกรอกตาขาว น่ากลัวสุดๆ
เป็นผู้ชาย
มู่กุยฝานตกใจ และในขณะนั้นเองเขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างจับข้อเท้าของเขา แล้วดึงเขาลงไปก้นแม่น้ำอย่างแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...