ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 171

ซู่เป่ามองไปที่ผิวน้ำด้วยสีหน้าจริงจัง เธอไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ท่าทางที่เคร่งขรึมนั้นช่างต่างกับความน่ารักของเธอ

มีการติดตั้งอุปกรณ์ถ่ายทอดสดเป็นแถวข้างเขื่อนและมีบล็อกเกอร์ถ่ายทอดสดทุก ๆ สองเมตร ตอนนี้ชายฝั่งที่หนักอึ้งแต่เดิมตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงที่โดดเด่นกันไปในแต่ละรูปแบบ

“นี่คือสถานที่เกิดเหตุที่เด็กหญิงทั้งสามคนตกลงไปในน้ำ เพื่อน ๆ ช่วยกันกดติดตามผู้ประกาศข่าวด้วยนะครับ เราจะพาเพื่อน ๆ ติดตามเหตุการณ์ทั้งหมดและดูความคืบหน้าล่าสุดกัน…”

“ตอนนี้เรือกู้ภัยยังกู้อะไรขึ้นมาไม่ได้เลย ทุกคนดูจุดที่ผู้ประกาศข่าวชี้ตรงนี้ ซึ่งเป็นที่ที่พบศพผู้ชาย... และใช่ ทุกคนสามารถไปดูตะกร้าสินค้าได้ ในตะกร้าสินค้าทั้งหมดเป็นขนมเมล็ดแตงโม ทุกคนสามารถหยิบเมล็ดแตงโมมาทานเล่นพร้อมกับดูถ่ายทอดสดจากผู้ประกาศข่าวนี้ได้ด้วย สั่งตอนนี้จัดส่งเลยทันที!”

“มีเพื่อนคนไหนจะส่งแว่นกันแดดให้ไหม ตอนนี้ผู้ประกาศข่าวกำลังแข่งกับฝ่ายตรงข้าม เราจะไม่ยอมให้กระแสความร้อนแรงเรื่องเด็กหญิงที่ตกน้ำสามคนน้อยกว่าของฝั่งตรงข้ามใช่ไหม...มีเถ้าแก่ส่งเฟอร์รารี่มา! พี่น้อง! ขอบคุณเถ้าแก่มาก! เถ้าแก่ส่งโชคใหญ่มาให้! ทุกคนกดติดตามให้เถ้าแก่เป็นอันดับหนึ่ง!!”

ซู่เป่า “...”

เธอขมวดคิ้วด้วยความสับสนและถามว่า “พ่อคะ พวกเขากำลังทำอะไรอยู่!”

มู่กุยฝานชำเลืองมองไปที่บรรยากาศอันเลวร้ายแถวเขื่อนกั้นแม่น้ำ และพูดว่า “นี่คือขบวนร้อยอสูรท่ามกลางฝนตกหนัก ผู้คนที่ปะปนอยู่ในนั้นมีความสุขมากกว่าผีซะอีก...”

คนบางคนไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ที่จะดูความตื่นเต้น หรือพูดจาบั่นทอนกำลังใจในฝูงชน หรือเติมเชื้อไฟให้โหมขึ้นไปอีก ในสายตาของพวกเขาสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตมนุษย์ก็คือเรื่องผลประโยชน์เท่านั้น

ในใจคนมีความน่ากลัวเหมือนผี คนบางคนภายนอกดูเป็นคน แต่จริง ๆ แล้วน่ากลัวกว่าผีเสียอีก

ซู่เป่ากินอมยิ้มเงียบ ๆ

มู่กุยฝานพูด “ซู่เป่า หนูอยากให้พ่อทำอะไร”

ซู่เป่าส่ายหัวและพูดว่า “ตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะ”

ท่านอาจารย์พูดว่าผีมีหลายระดับ ผีบางตัวสามารถออกมาในเวลากลางคืนได้ แต่ผีบางตัวสามารถปรากฏตัวในสถานที่ที่มีไอหยินแรงในตอนกลางวัน

สถานที่ต่าง ๆ เหล่านี้ เช่น ก้นแม่น้ำ รังของวัชพืชริมสองฝั่งน้ำที่ไม่เห็นดวงอาทิตย์ตลอดทั้งปี ช่องสะพาน ล้วนเป็นสถานที่ที่มีไอหยินแรง

ผีตายโหงตัวนั้นฆ่าเด็กชายไปอย่างน้อยหนึ่งคนเมื่อวานนี้ และยังคว้าเท้าของพ่อด้วย

ซู่เป่ากังวลว่าผีตายโหงจะมีพลังเกินไปและฆ่าใครอีก ดังนั้นเธอจึงอยากออกมาดู

มู่กุยฝานพูดว่า “งั้นกลับกันตอนนี้เลยไหม”

จู่ ๆ ซู่เป่าก็ถือกล้องส่องทางไกลขึ้นและพูดว่า “เดี๋ยวก่อน...พ่อ เราไปอีกด้านหนึ่งกันเถอะ”

สวนสาธารณะริมแม่น้ำถูกสร้างขึ้นทั้งสองฝั่งของแม่น้ำหย่ง แต่ฝั่งนี้มีที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีผู้คนจำนวนมากอยู่ริมแม่น้ำ ในขณะที่มีอาคารสำนักงานอยู่อีกฝั่งหนึ่ง และมีผู้มาพักผ่อนหย่อนใจค่อนข้างน้อย

ในตอนกลางคืนยิ่งเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ฝั่งนี้คึกคัก ส่วนอีกฝั่งกลับเงียบสงัด

**

ซ่างชิงเป่ยถ่ายทอดสดอยู่ริมแม่น้ำหย่งเป็นเวลาสองชั่วโมง พูดจนปากแห้งลิ้นแห้ง ผิวหนังเกือบถูกแดดเผาจนลอก

แต่ในห้องถ่ายทอดสดยังมีคนน้อยมาก

เขารู้สึกหดหู่มาก พวกเขาออกอากาศเหตุการณ์เด็กหญิงสามคนตกน้ำในลักษณะเดียวกัน ห้องถ่ายทอดสดของคนอื่นเป็นที่นิยมมากแต่ทำไมของเขากลับถูกทิ้งร้าง

มันไม่ยุติธรรม!

ซ่างชิงเป่ยบิดฝาเปิดขวดน้ำ มองผู้ชมเพียงสิบเอ็ดคนในห้องถ่ายทอดสดและไม่มีอารมณ์ที่จะดำเนินการต่อ

ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อดื่มน้ำ ทันใดนั้นเขาก็เห็นชายร่างสูงคนหนึ่ง ‘อุ้มตัว’ เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ออกไปจากฝูงชน

ความสูงของเขาโดดเด่นมาก เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ขี่คอของเขาก็อยู่สูงกว่าผู้คนตรงนั้น

มองดูผู้ชมที่ยืดคอเพื่อมองไปที่แม่น้ำกันอย่างครึกครื้น และคนที่ถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายภาพไปทางแม่น้ำเช่นกัน

แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็นพ่อและลูกสาว

ดวงตาของซ่างชิงเป่ยเป็นประกาย ใช่ซู่เป่าคนนั้นหรือเปล่า!

หลังจากตัดต่อวิดีโอเกี่ยวกับซู่เป่ามาหลายวัน ซ่างชิงเป่ยที่คุ้นเคยกับซู่เป่ามากกว่าใครก็จำเธอได้ในทันที

เขาเก็บข้าวของและตามไปทันที

ดวงตาของซ่างชิงเป่ยเปล่งประกายอย่างสดใส ซู่เป่า = กระแสนิยม!!

ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน การจราจรบนสะพาน เสียงแตรรถ เสียงบี๊บ ๆ ของจักรยานไฟฟ้า และผู้คนกำลังรีบกลับบ้าน

บางคนก็หยุด ชี้ไปที่เรือกู้ภัยที่อยู่ไกลออกไปบนสะพานแล้วกระซิบกระซาบ

“ยังกู้อยู่เลย...คุณอ่านข่าววันนี้หรือยัง เด็กผู้ชายกระโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น คนที่ตกลงไปในน้ำได้รับการช่วยเหลือ แต่ตัวเขาเองกลับไม่ขึ้นมาอีกเลย...”

“ไม่ใช่ว่าคนที่ไปช่วยขึ้นฝั่งมาแล้วหรอกเหรอ”

“ที่คุณดูข่าวน่ะมันเมื่อตอนเช้า ข่าวล่าสุดเมื่อครู่นี้เพิ่งยืนยันมาว่าเด็กผู้ชายที่ตายเป็นนักเรียนมัธยมปลายแถว ๆ นี้... คนที่ขึ้นฝั่งคนนั้นน่ะเป็นคนที่สองที่กระโดดลงไปช่วย ได้ยินมาว่าเขาเป็นผู้ชายที่สูงมากเลยนะ”

“น่าสงสารจัง...ช่วยคนอื่นแต่ตัวเองกลับไปซะเอง”

หลังจากออกมาจากสวนสาธารณะ มู่กุยฝานก็วางซู่เป่าลง จูงเธอเดินไปตามทางเท้าของสะพาน และฟังคำวิพากย์วิจารณ์จากผู้คนที่เดินผ่าน

คนเหล่านี้พูดถูก ตอนที่เขากระโดดลงไปเด็กหญิงทั้งสองคนได้รับการช่วยเหลือขึ้นฝั่งไปแล้ว

พวกเขาได้รับการช่วยชีวิตโดยเด็กชายคนนั้น

มู่กุยฝานเดาว่า หลังจากเด็กผู้ชายกระโดดลงไปเขาน่าจะอุ้มเด็กผู้หญิงสองคนขึ้นมา และในขณะที่เขากำลังไปช่วยเด็กผู้หญิงคนที่สามเขาก็กลับขึ้นมาไม่ได้

สิ่งเดียวที่สงสัยในตอนนี้คือเด็กคนที่สามที่ตกน้ำอยู่ที่ไหน ตามหลักการแล้วเด็กทั้งสามคนตกลงไปในน้ำพร้อม ๆ กัน แม้ว่าเด็กคนที่สามจะจมน้ำก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือ แต่ศพก็ควรจะอยู่ในแม่น้ำ

การตายของเด็กผู้ชายก็น่าแปลกเช่นกัน...ดูไม่เหมือนตายด้วยความเหนื่อยล้าเลย

“ลงไปตรงนั้นกัน” มู่กุยฝานพูด “หลังจากข้ามสะพานไปหนึ่งร้อยเมตรจะมีประตูข้างไปยังสวนสาธารณะฝั่งตรงข้าม”

พ่อลูกเข้าไปในสวนสาธารณะและพบว่ามีผู้ประกาศข่าวที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่จำนวนไม่น้อย ถึงแม้ตรงนี้จะไม่คึกคักเท่าฝั่งตรงข้ามแต่ก็ยังมีผู้คนอยู่ไม่น้อยเลย

ส่วนใหญ่เดินตามเรือกู้ภัย และบางครั้งก็มีคนมาพร้อมกับอุปกรณ์ถ่ายทอดสด

มู่กุยฝานจึงไม่ได้สนใจซ่างชิงเป่ยที่ปะปนอยู่ในฝูงชน

ซู่เป่าถือหล่อแกขนาดเล็กที่จี้ฉางมอบให้เธอซึ่งมีขนาดเท่ากับนาฬิกาข้อมือ

“ที่นี่...”

ซู่เป่าพามู่กุยฝานไปที่ต้นไทรริมน้ำ

ต้นไทรมีขนาดไม่ใหญ่นัก ลำต้นหนาเท่าโคนขาผู้ใหญ่ แตกกิ่งก้านออกไปถึงผิวน้ำ รากอากาศแต่ละกิ่งห้อยตกลงสู่แม่น้ำ

เข็มของหล่อแกตรงนี้ไม่ขยับ

มู่กุยฝานถาม “ที่นี่เหรอ”

ไม่มีอะไรผิดปกติ

มู่กุยฝานปล่อยซู่เป่าและกำชับว่า “หนูอยู่ตรงนี้อย่าไปไหน พ่อจะลงไปดู”

พื้นโคลนข้างต้นไทรค่อนข้างลื่น มู่กุยฝานเดินลงไปสองสามเมตรอย่างระมัดระวัง และเงยหน้ามองไปที่รากของต้นไทรที่ปกคลุมด้วยพุ่มไม้...

เมื่อเห็นสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกกลัวจนหัวใจเต้นผิดจังหวะ ในหัวรู้สึกชาไปหมด!

เขาเห็นผู้หญิงผมยาวคนหนึ่งยืนอยู่ใต้โคนต้นไทร ผมสีเหลืองอ่อนห้อยลงมาข้างแก้มทั้งสองข้าง เธอห้อยศีรษะ สวมเสื้อตัวสั้นกับกระโปรงพลีทสั้นสีเทา

เธอยืนด้วยมือ มือของเธอซีดและบวม เล็บของเธอเป็นสีดำ และขาของเธอก็ซีดขาว เธอสวมรองเท้าโลฟเฟอร์สีดำ ถุงเท้าสีขาวล้อมด้วยลูกไม้สวยงามเข้าชุดกัน

ราวกับว่าได้ยินอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเด็กหญิงคนนั้นก็ตกลงไปในน้ำ จากนั้นเสียงโหยหวนก็ดังขึ้นในหูของมู่กุยฝาน

“ช่วยด้วย...มีคนตกน้ำ!”

...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน