ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1794

ซูอีเฉินได้ค้นพบทิศทางในการฝึกบำเพ็ญของตนเอง เหยาหลิงเยว่ก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยความก้าวหน้าทุกวัน

ทุกวันเธอจะคอยตรวจดูว่าเขาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว

ซูอีเฉินถึงกับพูดไม่ออก และด้วยเหตุนี้เขาจึงฝึกบำเพ็ญอย่างหนักมากยิ่งขึ้น

หัวของเหยียนปู๋อ้าวปลิวเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ความโกรธแค้นในใจของเหยียนปู๋อ้าวยิ่งสะสมมากขึ้น ทุกครั้งที่กินข้าวเขาจะตักอาหารมากินอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้ของกินจะไม่น่ากินเลยก็ตาม แต่เขาก็กินจนหมด

แม้ว่าจะออกล่าและถูกซ้อมทุกวัน แต่เหยียนปู๋อ้าวก็เริ่มรู้สึกว่าพลังของตนเพิ่มขึ้นช้าๆ

เขาแข็งแกร่งกว่าตอนที่เพิ่งมาถึงจิ่วโยวมากนัก!

ในที่สุดวันนี้เหยียนปู๋อ้าวก็ออกมาจากลานบ้านได้ แต่กลับพบว่าลานบ้านนั้นเงียบสงัด

ในที่ไกลๆ มีเสียงครึกครื้น ราวกับว่ากำลังมีพิธีอะไรบางอย่าง

“ใครเป็นเจ้าของบ้านนั้น?” เขามองไปที่ตัวเรือนหลักของลานบ้าน

เหยาจี๋เสียง ผู้ดูแลกระสอบทรายตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย “นั่นเป็นบ้านของจอมขมังเวทของเรา”

เหยียนปู๋อ้าวแอบถามอย่างไม่ให้ผิดสังเกต “จอมขมังเวท?”

เหยาจี๋เสียงอธิบายให้ฟังว่า “พวกเราที่นี่เป็นเผ่าแม่มด โดยที่จอมขมังเวทก็คือผู้ที่มีพลังเวทนั่นเอง”

เหยียนปู๋อ้าวเข้าใจแล้ว!

เขาเคยได้ยินเรื่องชนเผ่าแม่มดมาก่อนว่ากันว่าพวกเขาได้สูญหายไปจากประวัติศาสตร์นานแล้ว

ที่แท้คนเหล่านี้ไม่ใช่ชาวพื้นเมืองแห่งจิ่วโยว แต่เป็นชนเผ่าแม่มดหรอกหรือ?

ตามตำนานกล่าวว่าจอมขมังเวทสามารถเรียกลมเรียกฝน ปัดเป่าภัยพิบัติและรักษาโรคให้กับชาวบ้านได้...

เหยียนปู๋อ้าวเข้าใจหน้าที่ของจอมขมังเวทแล้ว ดูท่าจะไม่ต่างจากพวกนักพรตที่ท่องคาถาเต้นรำตามพิธีกรรมทั่วไป

เขานึกอะไรขึ้นมาได้ทันที แล้วก็มีแผนการในใจ!

เขาคิดวิธีที่จะเข้าหามหาจอมขมังเวทออกแล้ว!

ฝ่ายตรงข้ามจะต้องยกย่องเขาเป็นแขกผู้ทรงเกียรติอย่างแน่นอน!

**

วันนี้เป็นวันที่ชนเผ่าแม่มดประกอบพิธีขอพร

คนทั้งเผ่ามารวมตัวกันที่กลางแท่นบูชา สวมใส่เสื้อผ้าที่ฉูดฉาด บนใบหน้าและลำคอประดับด้วยสีสันหลากหลาย

พวกเขาจะนำสิ่งที่ได้จากการล่ามาแสดง ไม่ว่าจะเป็นขนนกสีสวย เกราะสัตว์ เขี้ยวสัตว์นักล่า หรือหน้ากากกระดูกสีขาว...

เหยาหลิงเยว่สวมชุดสีดำสง่างาม เปี่ยมด้วยกลิ่นอายแห่งความลึกลับ

บนใบหน้าของเธอสวมหน้ากากสีเทาเงินของจอมขมังเวท ซึ่งส่องประกายระยิบระยับ

ซูอีเฉินเองก็อยู่ในชุดสีดำ ผมยาวของเขามัดสูงเพิ่มความดิบเถื่อนในตัวเขายิ่งขึ้น

ถูซานฉานยืนมองชนเผ่าแม่มดเต้นรำไปพลางกินเนื้อย่างไปพลาง แล้วสายตาก็เห็นเหยียนปู๋อ้าวเดินมากับเหยาจี๋เสียง

"โธ่ คนที่มาเกาะกินมาถึงแล้วสินะ!" ถูซานฉานหัวเราะเยาะ

เหยียนปู๋อ้าวหัวเราะเย็นชา “แล้วพวกเธอแตกต่างจากฉันตรงไหนกัน?”

ก็ล้วนแต่เป็นคนที่ชนเผ่าแม่มดช่วยเอาไว้เหมือนกัน แต่แค่โชคดีหน่อยที่ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ดีกับเผ่าแม่มดเท่านั้นเอง

ตลอดทางที่เดินมานี้เขาได้กระชับความสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มในชนเผ่าถามอะไรเขาก็ตอบทุกอย่าง

เหยียนปู๋อ้าวไม่สนใจถูซานฉาน สายตาของเขาเหลือบไปเห็นจอมขมังเวทที่นั่งอยู่บนที่นั่งสูงสุด

เขาไม่รู้เลยว่าจอมขมังเวทผู้สวมหน้ากากนั้นคือเหยาหลิงเยว่

"ซูอีเฉินไปนั่งอยู่ตรงนั้นได้ยังไง?" เหยียนปู๋อ้าวขมวดคิ้ว เมื่อเห็นซูอีเฉินนั่งอยู่ข้างมหาจอมขมังเวท

ในตอนนั้นเอง เขาได้ยินเสียงผู้ชายหลายคนพูดคุยกันเบา ๆ ว่า

"เขามีอะไรดีนักหนา... อ่อนแอราวกับลูกเจี๊ยบ ความสามารถก็ไม่มี แต่กลับกล้ามานั่งข้างมหาจอมขมังเวท!"

"เขาน่ะ ใช้ก็แค่รูปลักษณ์หล่อ ๆ ของตัวเองเท่านั้นล่ะ! ก่อนหน้านี้จอมขมังเวทไม่เคยสนใจใครเลยแต่ทำไมกลับพาเขามาด้วยล่ะ?"

"จอมขมังเวทเลือกใครก็ได้ แต่ทำไมกลับเลือกเอาใจแค่เขาคนเดียว!"

เหยียนปู๋อ้าวถึงกับสะดุ้ง

เขาหัวเราะเย็นชา ซูอีเฉินที่เคยมีความสัมพันธ์อันดีกับภรรยาตัวเองในโลกหลังความตาย แต่พอมาอยู่ที่นี่เขากลับเอาตัวเข้าแลกเพื่อเข้าหามหาจอมขมังเวท

เหยียนปู๋อ้าวคิดถึงภรรยาของซูอีเฉินขึ้นมา เธอเคยเข้าประตูจิ่วโยวพร้อมกับซูอีเฉินและถูซานฉานแต่ตอนนี้กลับไม่เห็นเธออยู่ด้วย

ดูเหมือนว่าเธอจะถูกทอดทิ้งไปแล้ว

ถ้าต้องเลือกระหว่างภรรยาผู้ไร้ความสามารถกับจอมขมังเวท เขาก็คงเลือกมหาจอมขมังเวทเช่นกัน

"ไม่นึกเลยว่าจอมขมังเวทของพวกเธอจะเป็นผู้หญิง" เหยียนปู๋อ้าวพูดกับเหยาจี๋เสียง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน