ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 191

“พวกคุณรู้จักคำว่ามารยาทหรือเปล่า แอบดูของส่วนตัวคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต!”

พ่อเจียวเจียวแย่งจดหมายลาตายกลับมาอย่างโมโห

ส่วนเจ้าของช่องที่อยากดังนั้น ก็พูดอย่างยุติธรรม “สำหรับพวกคุณที่หน้าไม่อาย ใช้ลูกสาวตนเองมาหลอกเงินแบบนี้ ก็ต้องใช้วิธีเดียวกันในการจัดการ!”

ความจริงแล้วจิตใจมนุษย์นั้นเป็นอย่างไร คงมีแต่พวกเขาที่รู้แล้วล่ะ

จากนั้นครอบครัวเจียวเจียวก็ทะเลาะกับเหล่านักข่าวและเน็ตไอดอลขึ้นมา

ตำรวจเองก็มาถึง หลังตรวจสอบก็พบว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับซูลั่วแม้แต่นิดเดียวจริงๆ เรื่องทั้งหมดคือคนในบ้านเจียวเจียวรู้ว่าเขามีเงิน จึงอยากหาทางหลอกเงินเขา

ซูลั่วเลือกที่จะให้หรือไม่ให้ก็ได้

เหล่าเน็ตไอดอลและบล็อคเกอร์ที่ยืนดูต่ออย่างไม่กลัวเรื่องจะบานปลาย เริ่มพูดสาธยายเป็นบทยาว

บางคนบอก ‘การหลอกเงินคนอื่นจะปล่อยผ่านไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ มิฉะนั้นสังคมของเราวุ่นวายแน่’

แต่ก็มีคนบอก ‘ซูลั่วฐานะดี ตระกูลก็รวย เขาแค่ไม่มีลูกสาวก็น่าสงสารมากแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ควรให้เขาหน่อย’

คนเหล่านี้เป็นคนดีจริงๆ หรือตั้งใจพูดค้านเพื่อเรียกร้องความสนใจ ไม่มีใครรู้

แน่นอนว่า ยังมีแฟนคลับกลุ่มที่มาดักรอเพราะอยากจะ ‘ปกป้องพี่ชาย’ นั้น ตอนนี้ได้แลกมือกับญาติของเจียวเจียวอย่างดุเดือดแล้ว

สุดท้าย ปิดฉากของเรื่องนี้โดยที่ครอบครัวและแก๊งค์ญาติของเจียวเจียวถูกตำรวจจับตัวไป

แม่ของเจียวเจียวยังคงร้องไห้ต่อ แต่การร้องไห้ครั้งราวกับมีกลิ่นไอของความสติไม่ดีแฝงอยู่ ไม่มีใครเห็นว่าเจียวเจียวเกาะอยู่บนตัวแม่ของเธอราวกับกำลังแก้แค้น และพยายามเอาใบหน้าอันซีดเผือดของเธอไปแนบชิดกับแม่

ส่วนพ่อเจียวเจียวรู้สึกว่าตนแบกรับคำด่า ‘หากินกับความตายลูก’ หนำซ้ำยังถูกแฟนคลับของซูลั่วต่อยไปหลายหมัด จึงกำลังตะโกนด่าความไม่ยุติธรรมของโลกใบนี้ด้วยน้ำเสียงที่ทั้งอายทั้งเคือง

ส่วนเหล่าญาตินั้นของเขากำลังแสดงสีหน้าหัวเสีย เสียเวลามาตั้งนานกลับไม่ได้รับเงินแม้แต่แดงเดียว อีกทั้งยังโดนคนอื่นด่าเละ เมืองเล็กๆ ที่พวกเขาอยู่ คงรู้เรื่องกันทั้งเมืองแล้ว หลังจากนี้จะให้พวกเขาเงยหน้าใช้ชีวิตต่ออย่างไร…

ภายในใจของคนเหล่านี้ต่างมีความคับแค้น พวกเขาโกรธที่ซูลั่วรวยมหาศาลแต่กลับขี้งกเช่นนี้

……

ซู่เป่าส่ายหัวพร้อมกล่าว “โลกของผู้ใหญ่นี่ซับซ้อนจังเลย”

เธอมองผ่านกระจกใสของกระเป๋าสัตว์เลี้ยง ก็ยิ้มตาหยี “ใช่ไหมเสี่ยวอู่ คุณปู่เต่า!”

เสี่ยวอู่เหยียบบนกระดองเต่า เอนหัวมองซู่เป่าพร้อมกล่าว “ใช่ๆ! คนในเมืองแผนเยอะ ฉันจะกลับชนบท พื้นของชนบทลื่นกว่า ใจคนก็ซับซ้อนกว่า! โว้ะโอ…ฉันกลัวจนหนีไปเมืองเล็กๆ พบว่ากลับมีแต่หลุม~ วู้ว มีแต่หลุมพราง!”

ซู่เป่าปรบมือเอ่ยชม “ว้าว เสี่ยวอู่เก่งจังเลย!”

คุณปู่เต่ายื่นหัวออกมาอย่างหมดคำพูด เสี่ยวอู่เห็นเต่ายื่นหัวออกมาก็จิกลงไปทันทีอย่างกวนๆ เต่าหดคอ มันก็หดคอกลับไปตาม เจ้าเต่ารู้สึกเหมือนนกแก้วแสนน่ารำคาญนั่นจะหายไปแล้ว เพิ่งยื่นหัวออกไปก็ถูกจิกจนหดกลับมาอีกครั้ง

โมโหจนมันเลิกพยายาม หดคออยู่ในกระดองไม่ยอมออกมาอีก

เสี่ยวอู่เหยียบบนกระดองส่วนหัวมัน พร้อมกล่าว “เฮ้ เพื่อนรัก ไม่กล้าเล่นงั้นเหรอ”

เต่า “……”

ซู่เป่าหัวเราะคิกคักขึ้นมา

เทียบกับโลกผู้ใหญ่ที่แสนซับซ้อนแล้ว เสี่ยวอู่และคุณปู่เต่าใสซื่อกว่าเยอะเลย

เธอเอ่ยถาม “ลุงสี่ พวกเขาจะมาไหม”

ซูลั่วกล่าว “ไม่มาแล้ว”

คิดจะใช้คุณธรรมในการมัดมือชกเขา ก็ต้องมัดให้โดนซะก่อน ตอนนี้พวกเขากลายเป็นคนไร้ ‘คุณธรรม’ พวกเขามัดเขาไม่ได้อีกต่อไป เพราะงั้นพวกเขาท่าจะไม่มาอีกต่อไปแล้วล่ะ

กระทั่งเพราะโทรศัพท์และจดหมายลาตายที่ตกลงมา ทำให้พวกเขากุเรื่องในเน็ตไม่ได้อีกต่อไป พวกเขาทำได้เพียงถูกคนอื่นด่าจนเงยหน้าไม่ขึ้นอีกต่อไป

ซูลั่วอุ้มซู่เป่า ก้าวยาวๆ เข้าไปในบริษัท

วันนี้อุตส่าห์แย่งเสี่ยวซู่เป่ามาจากมือมู่กุยฝานได้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางคืนง่ายๆ แน่

ซูลั่วใส่กางเกงสูทสบายๆ คู่กับเสื้อเชิ๊ตสีดำตัวหนึ่ง เนคไทถูกแขวนไว้อย่างละหลวมบนปกเสื้อ บวกกับแว่นตากรอบสีทองบนสันจมูกสูงโด่ง ทำให้ดูมีความร้ายกาจภายใต้ความสุภาพ และแฝงไปด้วยความสง่า

ผู้ชายเช่นนี้ ในอ้อมแขนกลับอุ้มเจ้าก้อนแป้งเอาไว้ ความขัดแย้งนี้ทำให้แฟนคลับด้านนอกต่างกรี๊ดกร๊าดขึ้นมา

“อปป้าหล่อมาก!”

“กรี๊ดดด พี่คะ ฉันจะคลอดลูกลิงให้พี่!”

ซู่เป่าซบอยู่บนไหล่ของซูลั่ว ในตาเต็มไปด้วยความสงสัย

“ลุงสี่ ทำไมพี่สาวคนนั้นบอกจะคลอดลูกลิงให้ลุงล่ะ”

สีหน้าของซูลั่วครึ้มลง พร้อมกล่าว “เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าถามเรื่องพวกนี้”

ซู่เป่า “ก็ได้…งั้น ซู่เป่าขอถามอีกหนึ่งคำถามที่เล็กมากม๊ากหน่อยได้ไหม”

ซูลั่วเห็นซู่เป่าที่ชูนิ้วขึ้นมาประกอบ รู้สึกขบขันอย่างอดไม่ได้ “คำถามอะไร”

ซู่เป่ายังคงใสซื่อบริสุทธิ์ “ทำไมคนถึงคลอดลิงได้ล่ะ ลิงที่คลอดออกมาเป็นลิงหรือเป็นคน มันสามารถพูดภาษาคนได้ไหม เขาจะกินข้าวเหมือนพวกเรา หรือกินผลไม้กัน”

ซูลั่ว “……”

เจ้าตัวน้อย คำถามพวกนี้ คงไม่ใช่คำถามที่เล็กมากม๊ากแล้วล่ะ!

มุมปากจี้ฉางกระตุก เขาจิ้มไปที่หัวของซู่เป่า “อายุน้อยแต่ฉลาดเชียว”

ซู่เป่ากอดหัวของตนเองไว้ในทันที เธอกำลังถามคำถามจริงๆ นี่นา ทำไมผู้ใหญ่ถึงไม่ตอบกันล่ะ

ถังเถียนเถียนที่เพิ่งให้ปากคำตำรวจเสร็จวิ่งตามขึ้นมา ใบหน้าอ้วนๆ ของเขาเผยยิ้มคล้ายกับพระพุทธเจ้า

“คุณหนูซู่เป่าอยากกินเค้กไหม ลุงหาเชฟมิชลินมาให้หนูน่ะ มานี่เร็ว”

ซู่เป่าส่ายหัว “ไม่เอาแล้วค่ะ หนูสัญญากับยายไว้ว่าจะกินเค้กแค่วันละมื้อ วันนี้หนูกินไปแล้ว”

ถังเถียนเถียน “เอ่อ…เป็นไปได้ไหม ที่มื้อหนึ่งสามารถกินได้ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น”

ซู่เป่า “……”

เธอมองไปทางถังเถียนเถียน พยักหน้าอย่างเข้าใจอะไรบางอย่าง “มิน่าล่ะท้องของคุณลุงถัง เสื้อเชิ้ตยังใส่ไม่พอ”

ถังเถียนเถียนยิ้มตาหยี ไม่เคืองแม้แต่นิด

จี้ฉางกล่าว “อย่าลืมเป้าหมายที่เราออกมาครั้งนี้ล่ะ”

ซู่เป่าพยักหน้าอย่างถี่รัว “อื้มๆ ตกปลาๆ!”

เธอเรียนรู้การตกปลามาแล้ว อาจารย์บอกการตกปลาไม่ใช่ตกปลาจริงๆ แต่เป็นการใช้ลุงสี่เป็นเหยื่อล่อปลา ล่อให้ปีศาจร้ายที่ซ่อนอยู่ออกมา

ถังเถียนเถียนได้ยิน อ๋อ คุณหนูซู่เป่าอยากตกปลางั้นเหรอ

จัดไป!

เขาแอบออกคำสั่งอย่างไว ให้ใส่ปลาลงไปหลายถังในบ่อน้ำหลังบริษัท……

สายตาที่ซู่เป่ามองถังเถียนเถียนราวกับกำลังมองลูกชายคนโตผู้ใหญ่บ้าน

เธอกดเสียงต่ำ จากนั้นพูดกับซูลั่ว “ไปเร็ว ลุงสี่ไปเร็ว”

ซูลั่วเอ่ยถาม “เธออยากไปไหนกัน”

ซู่เป่า “ไม่ไปไหน เดี๋ยวซู่เป่าพาลุงสี่ไปเดินเล่นนะ!”

พูดจบเธอก็ขัดขืนเพื่อจะลงมา จับไปที่เนคไทของซูลั่วอย่างถนัดมือ ลากเขาพร้อมวิ่งไปด้านหน้า

ซู่ลั่ว “?”

อะไรกัน ทำไมเหมือนเธอกำลังจูงหมา……แค่ก

เขารีบถอดเนคไทออก ตอนนั้นเขาก็พูดกับดีไซเนอร์แล้วว่าเนคไทเส้นนี้มันเกะกะ เห็นไหม เขาว่าแล้ว

หลังผู้คนจากไป ภายในกลุ่มแฟนคลับ ก็มีผีผู้หญิงชุดแดงคนหนึ่งลอยมา

เมื่อกลายเป็นผีเธอสามารถสลัดการกีดขวางของยามได้อย่างง่ายดาย เธอเข้ามาในบริษัทถังหมิงเซิ่งซื่อ เดินเล่นไปทั่วอย่างตามใจ และหาซูลั่วไปทั่วทุกที่

“พี่ชาย…”

“พี่ชายอยู่ที่ไหนกัน~”

เจียวเจียวที่สวมชุดแดงลอยไปทั่วในบริษัท

“สิ้นสุดระเบียงทางเดินแล้วเลี้ยวซ้าย เป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวของฉัน” ซูลั่วกล่าว “พื้นที่ไม่มาก แต่สามารถพักผ่อนได้แปบหนึ่ง เล่นเหนื่อยหรือยัง หือ?”

จู่ๆ ซู่เป่าก็พูดขึ้น “ลุงสี่ ระเบียงทางเดินตรงนี้มันยาวเกินไป ด้านข้างทั้งสองของทางเดินเป็นห้อง ทางเดินเป็นเส้นตรงเส้นเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ…แบบนี้เรียกว่าฆาตทะลวงใจ”

ซูลั่วยักคิ้ว ถามขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ “หืม ซู่เป่าดูฮวงจุ้ยเป็นด้วย ฆาตทะลวงใจแล้วมันจะทำไมล่ะ”

ซู่เป่า “อื้มๆ จะเจอผี”

ซูลั่ว “……”

เขาพูดเงียบๆ “ไม่มีทาง”

กลางวันแสกๆ…ไม่มีทางกลางวันจะเห็นผี

ในหนังละครต่างๆ ผีมักปรากฏตอนกลางคืน

เพิ่งคิดเช่นนี้ เขาก็เลี้ยวเข้าห้องตรงมุมทางเดินก็เผชิญกับเจียวเจียวที่สวมใส่ชุดแต่งงานสีแดงยืนอยู่หน้าประตูห้องพักผ่อนเขา ได้ยินเสียงเธอก็หันหน้ามา จ้องมองมาที่เขาตรงๆ

ใบหน้าที่ซีดเผือดของเจียวเจียวเผยแววดีใจขั้นสุด ทำให้ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยว

“ง่ะ~พี่ชาย~”

ซูลั่ว “!!!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน