เมื่อเห็นสีหน้างุนงงของซู่เป่า มู่กุยฝานก็เลยถาม "เกิดอะไรขึ้น"
ซู่เป่าส่ายหน้าพลางพูด "ที่คุณตาคนนี้พูดมันไม่ถูกค่ะ"
ท่านอาจารย์บอกว่าถ้าขาของยายลุกขึ้นยืนได้แล้ว ต้องนวดให้ถูกวิธีก่อน เพื่อให้เส้นชีพจรค่อย ๆ ฟื้นตัว
ในเวลานี้ไม่ควรรีบลุกขึ้นยืนเด็ดขาด เมื่อถึงเวลาแล้ว จึงค่อยฝังเข็มสักระยะหนึ่งถึงจะสามารถฝึกเดินเยอะ ๆ ได้
คุณตาผู้เชี่ยวชาญพูดไม่ถูก
พอมาตอนนี้คุณยายอยู่ในอาการโคม่า ซู่เป่าคิดว่าควรจะเรียกคุณยายให้มีสติได้แล้ว แต่คุณตาผู้เชี่ยวชาญกลับบอกว่าไม่สามารถเรียกได้
ตอนที่ควรจะเป็นเวลาพักดันให้ยายเดินให้มากขึ้น ตอนที่ควรจะเรียกยายให้มีสติขึ้นมากลับให้คุณยายนอน
ซู่เป่ารู้สึกว่าคุณตาผู้เชี่ยวชาญทำอะไรไม่ถูกสักอย่างเลย
พอได้ยินคำพูดของซู่เป่า ผู้เชี่ยวชาญก็มองมา และขมวดคิ้ว
แต่ว่าเด็กน้อยมันจะไปเข้าใจอะไร ถ้าไปคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กแค่คนเดียวก็คงดูใจแคบเกินไปแล้วล่ะ
หมอประจำแผนกกล่าว "แต่ว่าตอนนี้นายหญิงได้ทำการผ่าตัดเสร็จสิ้นไปสองชั่วโมงแล้ว สามารถปลุกได้แล้ว"
"นายหญิงซูพักฟื้นที่สถาบันดูแลผู้ป่วยพักฟื้นของพวกเรานานเป็นเวลาห้าปี คุณจะรู้ดีกว่าพวกเราเหรอ" ผู้เชี่ยวชาญตอกกลับ
หมอประจำแผนก "เอ่อ..."
"สถานการณ์ของนายหญิงซูมันค่อนข้างพิเศษ เมื่อห้าปีที่แล้วมีเลือดออกในสมอง ก็เพราะรีบเรียกเร็วเกินไปทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะสูงเกินไป... บลา บลา บลา..."
เขายังคงวิเคราะห์อาการกับหมอ มือข้างหนึ่งไพล่หลัง มืออีกข้างยกขึ้นชี้วางท่าเหมือนลูกพี่
ซู่เป่าเม้มริมฝีปาก ฟุบลงข้างนายหญิงซู กระซิบเรียกเบา ๆ "คุณยาย คุณยาย ตื่นได้แล้ว!"
“คุณยายนี่ขี้เซาชะมัด! ถ้ายังไม่ตื่นอีก หนูจะตดเหม็น ๆ ใส่คุณยายเลยนะ!”
ผู้เชี่ยวชาญเริ่มหน้าบึ้งตึงพูดกับหมอประจำแผนก "บอกไปแล้วว่าอย่ารบกวนคนไข้ไม่ได้ยินเหรอ ไล่ญาติออกไปซะ ไม่ฟังคำสั่งหมอ ยุ่งวุ่นวาย!"
มู่กุยฝานเงยหน้าขึ้น และพูดเบา ๆ "สู้เชิญคุณออกไปไม่ดีกว่าเหรอ"
ผู้เชี่ยวชาญขมวดคิ้ว “คุณหมายถึงอะไร”
มู่กุยฝานไม่เคยเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะ แต่เขาได้ยินมาว่าเป็นลูกเขยของตระกูลซู ตอนนี้อาศัยกินนอนอยู่ที่ตระกูลซู
ดังนั้นจึงดูถูกมู่กุยฝานเป็นอย่างมาก
มู่กุยฝานยิ้มอย่างเย็นชา "เสียงลูกสาวผมยังไม่ดังเท่าคุณ ถ้าส่งเสียงดังไม่ได้จริง ๆ ก็ควรจะเป็นพวกคุณที่ต้องออกไป!"
ผู้เชี่ยวชาญถูกเขาพูดแบบนั้นใส่จึงโกรธขึ้นมา "พวกเรากำลังหารือเกี่ยวกับอาการป่วย ทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์ของนายหญิงซู!"
มู่กุยฝานชี้ไปที่ด้านนอกประตู "ปรึกษาอาการป่วยในห้องทำงานของหมอได้ไหม"
ผู้เชี่ยวชาญแทบสำลัก ถึงกับพูดไม่ออก
มู่กุยฝานไม่อยากจะสนทนากับเขา
แม้ว่าตอนที่อยู่บนรถ ซู่เป่าบอกว่าเธอคือผู้เชี่ยวชาญ เขาก็ไม่ได้จริงจังกับมัน
แต่ตอนนี้สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นต่อหน้าเขา
ขณะนั้นเองซูอี้เซินก็มาถึง เขาเป็นหมอประจำศูนย์มะเร็ง หลังจากจัดการเรื่องนายหญิงซูเสร็จแล้วเขาก็กลับไปทำหน้าที่ของเขา ตอนนี้เพิ่งเสร็จจากงาน
ซูอี้เซินเห็นซู่เป่า ก็นึกถึงสิ่งที่เธอพูดเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าไม่ควรปล่อยให้คุณยายเคลื่อนไหว
พอเห็นว่าผู้เชี่ยวชาญก็อยู่ด้วย เลยถามขึ้น "ผอ.อวี๋ ที่แม่ผมหกล้มสาเหตุมาจากการฝึกที่ไม่เหมาะสมหรือว่าฝึกบ่อยเกินไปไหม"
ผู้อำนวยการอวี๋ก็คือผู้เชี่ยวชาญที่มีหนวดเคราหงอกคนนั้น ตอนนี้เขาเริ่มไม่พอใจขึ้นมาอีกครั้ง
หมายความว่าอะไร!
บอกว่าการฝึกไม่เหมาะสม นั่นก็เท่ากับว่ากำลังสงสัยในตัวเขาอย่างนั้นเหรอ
สถาบันดูแลผู้ป่วยพักฟื้นของพวกเขาถือว่าเป็นผู้นำด้านการฟื้นฟูในประเทศ
และเขาก็เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญ คาดไม่ถึงที่กล้ามาสงสัยในตัวเขา
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา หากไม่ใช่เพราะสถาบันดูแลผู้ป่วยพักฟื้นของพวกเขา คิดเหรอว่านายหญิงซูจะฟื้นตัวได้ถึงระดับนี้
หากซูอี้เซินไม่ได้เป็นคนในตระกูลซู ผู้อำนวยการอวี๋คงจะสั่งสอนเขาไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...