ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 301

ตระกูลซู นายหญิงซูได้ยินคนพูดกันว่าตอนเช้าเมื่อสองวันก่อน เหมือนจะมีขโมยเข้ามาทางกำแพง และสุนัขก็เห่าไม่หยุดที่อาคารคนรับใช้

ระหว่างรับประทานอาหารเช้า เธอก็พึมพำ “คนรับใช้บอกว่าเช้าวันที่ 15 เดือน 7 มีขโมยเข้ามาทางกำแพง เหมือนจะแบกกระสอบสองใบไว้บนบ่า แต่ไม่เห็นมีอะไรหายไป หลังจากนั้นก็ไม่เห็นใครเลย...พวกคุณมีของหายกันบ้างไหม”

ซู่เป่ากับซูเหอเวิ่นที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ผงะไปครู่หนึ่ง สองกระสอบงั้นเหรอ

คุณท่านซูขมวดคิ้ว “ดูกล้องวงจรหรือยัง แน่ใจเหรอว่าแบกกระสอบเข้ามาสองใบ ไม่ใช่แบกออกไปเหรอ”

ขโมยเข้ามาทางกำแพง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

ย่านที่อยู่อาศัยนี้เป็นของคนมีอันจะกิน การรักษาความปลอดภัยก็ดีมาก แล้วคฤหาสน์ตระกูลซูยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย มีทีมรักษาความปลอดภัยมืออาชีพเป็นของตระกูลเอง

นอกจากนี้ ถ้าเป็นขโมยจริง ๆ ก็เป็นไปไม่ได้มั้งที่ขโมยจะขนของเข้ามาในตระกูลซู...

นายหญิงซูทำหน้างงยิ่งกว่าเดิม “คุณว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญไหม คืนนั้นกล้องวงจรเสียพอดีเลย”

ซูเหอเวิ่นสำลักและไออย่างหนัก

หัวขโมยมู่กุยฝานหยิบแก้วน้ำอย่างใจเย็นแล้ววางตรงหน้าซูเหอเวิ่นพลางพูดว่า “เดี๋ยวผมจะไปดูว่ามันสามารถกู้คืนได้ไหม”

นายหญิงซูพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นคุณไปดูให้หน่อย ฉันว่ามันแปลก ๆ ไม่มีเรื่องอะไรจะดีที่สุด”

มู่กุยฝานตอบเพียงอืม

ซูเหอเวิ่นตกตะลึงจนตาค้าง

สีหน้าอาเขยของเขาไม่แสดงพิรุจเลยแม้แต่น้อย ทำได้อย่างไรกัน

คนที่ปีนข้ามกำแพงในเช้าวันนั้นคือเขาชัด ๆ

และ 'กระสอบ' สองใบบนบ่าของเขาที่แบกอยู่...ก็คือเขากับซู่เป่า...

ซูเหอเหวินไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ซูอีเฉินก็ไม่แสดงออกมาเช่นกัน ราวกับว่ารู้อย่างทะลุปรุโปร่ง

ซู่เป่าวางชามและตะเกียบลง ก่อนจะพูดอย่างน่ารักน่าเอ็นดู “คุณยายหนูอิ่มแล้ว!”

ซูเหอเวิ่นวางตะเกียบลงอย่างรวดเร็ว “ผมก็อิ่มเหมือนกัน!”

นายหญิงซูตกใจ “กินแค่นี้เองเหรอ”

ซู่เป่าตอบ “วันนี้หนูจะไปฉลองวันเกิดของพี่ชีชีกับลุงสี่!”

เธอไม่อยากกินจนอิ่มมาก เธอยังแอบเหลือท้องไว้กินเค้กอีก

นายหญิงซูดูเหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ ก่อนจะตบหน้าผากตัวเอง “ยายเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย ลุงสี่ของหนูอยู่ที่กองถ่าย อีกเดี๋ยวยายไปส่ง”

วันสาทรจีนผ่านไป ทุกคนก็กลับไปทำงานตามปกติ ซูเยว่เฟยและคนอื่น ๆ ก็กลับไปทำงานเช่นกัน

ซูจื่อหลินและซูอิ๋งเอ่อร์ไปที่ไซต์ก่อสร้างตั้งนานแล้ว ส่วนซูอี้เซินก็ยุ่งมากจนเท้าแทบไม่ได้แตะพื้นเลย

ซู่เป่าพยักหน้าแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบน “คุณยายหนูไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะ!”

นายหญิงซูก็อิ่มเช่นกัน เธอวางตะเกียบแล้วตามขึ้นไป และยังไม่ลืมที่จะกำชับมู่กุยฝาน “อย่าลืมตรวจสอบกล้องวงจรด้วยล่ะ!”

มู่กุยฝานพยักหน้าอย่างเกียจคร้านพร้อมกับแสดงสีหน้าออกมาว่า ‘ปล่อยให้ฉันจัดการวางใจได้’

ให้ตรวจสอบคงตรวจสอบไม่ได้หรอก เพราะทำลายหลักฐานจนไม่มีชิ้นดีแล้ว

ไม่ให้นายหญิงรู้เด็ดขาดว่าเขาพาซู่เป่าออกไปกลางดึกคืนนั้น แถมตอนเช้ายังปีนกำแพงกลับมาอีก

นายหญิงคงจะสับเขาด้วยมือเปล่า

เมื่อทุกคนลุกออกไป ซูเหอเวิ่นก็กระวนกระวาย “คุณอาคงไม่ไปกู้คืนข้อมูลกล้องวงจรจริง ๆ หรอกใช่ไหมครับ”

มู่กุยฝาน “แหงสิ เธอคิดว่าไงล่ะ”

ซูเหอเวิ่น “...”

มู่กุยฝานลุกยืนขึ้นแล้วก็กดหัวของซูเหอเวิ่นอย่างลวก ๆ “ลูกผู้ชายเวลาเกิดเรื่องต้องใจเย็น ๆ”

พูดจบก็สะบัดเสื้อคลุมทหารสีเขียวแล้วเดินออกไปอย่างสง่างาม

เพียงไม่นาน รถออฟโรดมุทะลุดุดันก็แล่นออกไปอย่างโฉบเฉี่ยว แล้วหายไปอย่างรวดเร็วที่ปลายสุดของถนน

ซูเหอเวิ่นกระซิบ “ฉันไม่ใช่ผู้ชาย ฉันเป็นแค่เด็กชายตัวน้อย”

หึ เด็กน้อยที่ไหนจะมีนิสัยเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการกันล่ะ

**

ซู่เป่าเปลี่ยนเป็นชุดราตรีสีดำ คิดไปคิดมาดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง พี่ชีชีกำลังจะฉลองวันเกิด ต้องปิติยินดีสิ!

เธอจึงเปลี่ยนชุดอีกครั้งเป็นชุดราตรีสีแดง

คิดแล้วคิดอีกก็ยังรู้สึกไม่ถูกต้อง พี่ชีชีต่างหากที่เป็นเจ้าของวันเกิด

เธอจึงรีบเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงบานสีฟ้าทันที ชุดนี้สิถึงจะโอเค

เสี่ยวอู่ยืนอยู่บนโต๊ะ ตาถั่วเขียวดวงน้อยเอียงศีรษะมอง แล้วร้องเพลงอย่างไพเราะ “จะดำ จะขาว จะแดง จะเหลือง จะม่วง จะเขียว จะฟ้า จะเทา...จะเก่า จะใหม่ สไตล์ไหนสีไหนคุณเลือกได้เลย...”

ซู่เป่าหัวเราะคิกคัก ก่อนจะหารองเท้าสีขาวคู่โปรดเจอแล้วสวมใส่มัน จากนั้นก็หยิบหวีขึ้นมาเพื่อจะมัดผมตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน