ซูเป่ายกมือขึ้นแล้วโยนก้อนหินในมือออกไปพร้อมร้องฮ่า!
เฉินชางอวี๋หัวเราะเยาะ คอยดูเถอะ เขาว่าเธอก็แค่ดวงดี
ดูจากทิศทางที่เธอโยนไป เห็นชัดเลยว่าเอียง!
เขายืนอยู่กับที่ไม่ขยับ เอ๊ะ อะไรกัน?
วินาทีต่อมา…
ก้อนหินโยนไปโดนต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังเขาแล้วเด้งกลับมาโขกท้ายทอยเขาเขาดังก๊อก!
เฉินชางอวี๋: “?!”
แบบนี้ก็ได้เหรอ?
เฉินชางอวี๋ลมลงบนพื้นเสียงดัง คราวนี้ไม่ต้องรอให้เขาลุกขึ้นหนีก็มีเท้าข้างหนึ่งที่สวมรองเท้าบูทหนังเหยียบลงบนพื้น
มู่กุยฝานหัวเราะเสียงดัง สายตาเย็นชา “หนีสิ ไปต่อสิ”
เฉินชางอวี๋ไม่ยอมอยู่แล้ว เขาเอายันต์ที่เพิ่งเขียนขึ้นมาด้วยความรีบร้อนเมื่อกี้แปะบนตัวมู่กุยฝาน คิดไม่ถึงว่าจะมีแสงสีสองสว่างขึ้นมาจากตัวมู่กุยฝานเผายันต์ของเขาในพริบตา
ยันต์คุ้มภัย!
มีอาวุธแบบนี้อยู่ที่เท้าด้วยเหรอ แม่แต่นิ้วเท้าก็มียันต์คุ้มภัยด้วยเหรอ!
เฉินชางอวี้กัดกรามด้วยความเครียดแค้น — ใครกันที่อยู่เบื้องหลังคนพวกนี้?!
ใช้ยันต์อย่างกับใช้กระดาษชำระ มันสมเหตุผลไหมเนี่ย?!
เฉินชางอวี๋จ้องมู่กุยฝานแล้วพูดขึ้นมาด้วยเสียงดุร้าย “โลกนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ค่อยดูก็แล้วกัน!”
มู่กุยฝานพูดว่า “นายคิดว่านายเข้าไปแล้วจะได้ออกมาอีกหรือไง? จำคุกตลอดชีวิตรู้จักไหม”
เฉินชางอวี๋ไม่พูดอะไรเพียงแต่ถอนหายใจ
จะออกได้หรือไม่ได้มันขึ้นอยู่กับความสามารถของเขา ตัวคนออกมาไม่ได้ แต่วิญญาณล่ะ?
เขารู้อยู่แล้วว่าสักวันต้องมีคนจ้องจัดการเขา เขาจึงเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ก่อนแล้ว
เฉินชางอวี๋ยิ้มเยาะมุมปาก หลับตาลงแล้วไม่พูดอะไร
ตอนนี้เองก็มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นมากระทันหัน “คุณลุง หนูนับนิ้วทำนายให้แล้วนะ ชาตินี้คุณลุงจะมีกินมีใช้ มีชุดเหลืองใส่ แล้วก็กำไลแวววับกับสร้อยข้อเท้าด้วยนะ! ไม่ต้องลำบากเที่ยววิ่งไปวิ่งมาอีกแล้ว”
มู่กุยฝานเลิกคิ้วเล็กน้อย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเฉินชางอวี๋ต้องถูกส่งไปที่เรือนจำxx ที่นั้นมีเสื้อกั๊กสีเหลืองพอดี
มีชุดเหลืองให้ใส่จริงด้วย
เฉินชางอวี๋ไม่สนใจ เขาหลับตาทำหน้าเย่อหยิ่งไม่ยอมคน
จี้ฉางกอดอกหน้าตาไม่เรียบเฉย “กล้าขโมยวิญญาณต่อหน้าต่อหน้าท่านยมบาล บังอาจนักนะ”
“เป๋าน้อย จัดการเขาสิ อย่าให้เขามีทางรอดได้! ก่อนหน้านี้เจ้าใช้ตาข่ายดักวิญญาณมาตลอด คราวนี้อาจารย์จะสอนวิชาใหม่ให้เจ้า — คำสอนของพ่อ”
ซู่เป่าชะงัก อะ…อะไรนะ?
คำสอนของพ่อเหรอ?
เธอหันไปมองพ่อด้วยความสงสัย พ่อกำลังเรียกอาอีว่านปาเตากับอาปาสือเข้าไปมัดคนนั้นไว้
ซู่เป่ามองไปที่จี้ฉางอีกหน
จี้ฉางพูดว่า “คาถานี้สามารถผนึกวิชาของอีกฝ่ายได้ ทำให้วิญญาณเขาออกจากร่างไม่ได้”
อยากสลับวิญญาณนักใช่ไหม?
เขาจะจัดการผนึกเขาเสียเลย ต่อไปอย่าว่าแต่วิชามนต์ดำเลยแม้แต่พรสวรรค์ที่หาได้ยากก็จะโดนผนึกไปด้วย ต่อไปอย่าได้คิดจะทำเลวอีกเลย
นี่ก็เท่ากับเป็นการดับอนาคตเขาในวงการนี้เลย ดังนั้นคาถานี้จึงชื่อว่าดับอนาคต
เพียงแต่ว่าจี้ฉางคิดว่าชื่อนี้มันปกติธรรมดาเกินไป เด็ก ๆ ต้องจำไม่ได้แน่
สู้ชื่อที่เขาตั้งเองไม่ได้เข้าใจง่ายจำง่ายด้วย
จี้ฉางพูดว่า “คาถานี้มีหลักการเหมือนกับตาข่ายดักวิญญาณ ต่างกันที่ตาข่ายดักวิญญาณใช่ควบคุมวิญญานผี แต่คำสอนของพ่อนี้ใช้ควบคุมวิญญาณคนเป็น ท่องตามอาจารย์นะ…”
เขาทำหน้าจริงจังแล้วยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง
ซู่เป่ารีบยืนตัวตรง ยกมือขึ้นมาข้างหนึ่งตามแบบอาจารย์
จี้ฉางสูดหายใจเข้าลึก ๆ สายตาเฉียบคมแล้วตบลงไปที่ตัวเฉินชางอวี๋อย่างรวดเร็วพลางตะโกนว่า “เรียกพ่อสิ!”
ซู่เป่าทำตาม เธอรวบรวมสมาธิแล้วตบลงไปบ้าง ปากก็ตะโกนว่า “เรียกพ่อสิ!”
เฉินชางอวี๋ “…”
มู่กุยฝาน “?”
นี่เขามีหลานเพิ่มมาอีกคนเหรอ?
มู่กุยฝานอมยิ้ม น้ำเสียงมีความเกียจคร้าน “เรียกปู่สิ”
เฉินชางอวี๋ “…”
เป็นบ้าหรือไง จะจับเขาก็จับสิ ทำไมต้องเหยียดหยามกันด้วย?
ว่านเทากับว่านปาสือต่างก็กระตุกมุมปาก นายท่านตามใจคุณหนูใหญ่จริง ๆ… ขนาดอะไรแบบนี้ก็ยังเล่นด้วย
เฉินชางอวี๋ถูกพาตัวออกไปทั้งไม่เต็มใจ เขาไม่รู้เลยว่าที่ซู่เป่าตบเขาเมื่อกี้คือการปิดทางออกออกเขาทุกทางแล้ว
สมองของเขาทำงานอย่างรวดเร็ว เขายังคิดอยู่เลยว่าพอเข้าเรือนจำแล้วจะเขียนยันต์ยังไง จะทำพิธีให้ครบยังไง จากนั้นก็เปลี่ยนร่าง… โดยไม่มีใครล่วงรู้
ไม่รู้เหมือนกันว่าพอเขารู้ว่าตัวเองจะต้องถูกขังตลอดชีวิตออกมาไม่ได้อีก แถมไม่มีวิธีอะไรให้ใช้อีกแล้วด้วย… เขาจะรู้สึกผิดไหม?
โดยเฉพาะตอนนี้เขามีเงินเก็บหลายสิบล้าน ไหนจะคฤหาสน์หลายแห่งทั่วประเทศอีก
เข้าเรือนจำไปแบบนี้ทุกอย่างที่ทำมาก็ไร้ประโยชน์
เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดในชีวิตมนุษย์มีอยู่สองเรื่องก็คือ : ตอนชีวิตอยู่ ไม่มีเงิน… พอตายไปแล้ว เงินกลับยังอยู่…
มองดูเฉินชางอวี๋ที่ถูกคุมตัวไป ซู่เป่ารู้สึกว่าตัวเองได้ทำเรื่องยิ่งใหญ่สำเร็จไปอีกเรื่อง!
เริ่มตั้งแต่ที่ลุงสามเจอผีเจ้าสาว จนกระทั่งลุงสามโดนแปะหนังวิญญาณ
แล้วมาถึงตอนนี้เธอจับคนร้ายได้แล้ว!
ไม่สิ พ่อจับคนร้ายได้แล้วต่างหาก!
ซู่เป่ากอดขามู่กุยฝานแล้วประจบว่า “พ่อเก่งมากเลย พ่อเก่งที่สุดในโลกเลย!”
มู่กุยฝานเหลือบมองเธอ อดขำไม่ได้ “ว่ามาเถอะ จะกินไอติมรสอะไร?”
ก็แค่อยากให้เขาพาไปกินไอติมไม่ใช่เหรอ?
ไม่ต้องชมก็ได้ แค่บอกว่า ‘พ่อหนูอยากกินไอติม’ ต่อให้ต้องฝ่าดงปืนดงกระสุนเขาก็จะเอาไอติมมาเสิร์ฟให้ถึงปากอยู่ดี
ซู่เป่าชูมือขึ้นด้วยความดีใจ “หนูอยากกินรสสตอว์เบอร์รีค่ะ!”
สองพ่อลูกเดินจูงมือกันออกไปจากป่า
ซู่เป่าแกว่งมือใหญ่ ๆ ของมู่กุยฝานไปมาพลางพูดอย่างมีความสุขว่า “พ่อค่ะ เมื่อกี้ท่านอาจารย์สอนวิชาใหม่ให้หนูด้วย! มันสุดยอดมากเลยนะคะ!”
มู่กุยฝานชะงักไปชั่วขณะ แล้วก็ได้ยินซู่เป่าพูดต่อว่า “วิชานี้มีชื่อว่าคำสอนของพ่อ! ตบลงไปบนตัวคนร้ายหนึ่งทีก็จะสามารถผนึกวิญญาณไว้ในตัวเขาได้ แล้วเขาก็จะไปทำชั่วไม่ได้อีก มันสุดยอดมากเลยใช่ไหมคะ?”
มองดูเจ้าตัวเล็กที่มีความสุขจนหน้าแดง
มู่กุยฝานกระตุกมุมปาก ที่แท้อาจารย์ของซู่เป่าก็ไม่ปกติหรอกเหรอ?…
จี้ฉางบ่นอยู่ข้าง ๆ “ก็แค่ไอติมเอง ไอติมอร่อยตรงไหน…”
ในขฯะนี้ก็มีลูกน้องคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพูดเสียงเบาว่า “นายท่าน ชายหัวล้านคนนั้นจู่ ๆ ก็ตาเหลือก…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...