ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 520

กำไลข้อมือของแม่หยวนหยวนสีจางลง ไม่ได้ส่องแสงเป็นประกายเหมือนแต่ก่อน กลับมีความมืดมนเข้ามาแทนที่อย่างบอกไม่ถูก

เธอยังอบรมสั่งสอนหยวนหยวนต่อว่า “อันดับแรกเลยก็คือตอนคนกินข้าวกันจู่ ๆ ก็ไปเยี่ยมเยือน มันเป็นการขัดขวางการกินข้าวของคนอื่น ไม่มีมารยาท ตอนกินข้าวเป็นช่วงเวลาที่สนิทสนมใกล้ชิดกันมากที่สุดในครอบครัว ถ้าจู่ ๆ มีคนนอกมาทำลายบรรยากาศช่วงเวลาสนิทสนมใกล้ชิดกัน นั่นจะทำให้คนเขารู้สึกไม่ชอบง่ายมากเลย สุดท้ายตอนคนอื่นเขากินข้าวอยู่แล้วจู่ ๆ เราโผล่เข้าไปเยี่ยมเยือนก็จะดูเหมือนว่าเข้าไปขอข้าวเขากิน...”

หยวนหยวนพยักหน้า “หนูจะจำไว้ค่ะ”

พวกเธอทำได้เพียงแค่ขับรถกลับไป แม่หยวนหยวนกลัวสามีรู้ว่าเธอแอบซื้อหยก ก็เลยเอาไปซ่อนเก็บไว้อย่างระมัดระวัง ทั้งกำชับหยวนหยวนว่าห้ามบอกใคร

ทั้งคำสอนและการกระทำต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยิ่งทำให้หยวนหยวนได้เรียนรู้มากยิ่งขึ้น...

**

ด้านเขาร้าง

มู่กุยฝานยังคงขุดหลุมอยู่

เขาเดินไปรอบ ๆ ก้นหลุม พยายามหาไอหยินอย่างต่อเนื่อง ยิ่งทำให้วิตกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทว่ายังไม่พบอะไร

นึกถึงนายหญิงซูที่ยังรอข่าวซู่เป่าอยู่ที่บ้าน ตอนนี้มู่กุยฝานไม่รู้เลยว่าจะกลับไปบอกเธออย่างไรดี

ทุก ๆ วันนำข่าวกลับไปบอกเธอก็มีแต่ข่าวที่ทำให้เธอผิดหวัง...

มู่กุยฝานเดินมาเปิดประตูรถอย่างเงียบ ๆ แล้วนั่งลงที่เบาะคนขับ เวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ยังไม่ได้สตาร์ทรถ

เขาจุดบุหรี่อย่างฉุนเฉียว หากแต่เขาเป็นคนไม่สูบบุหรี่ เมื่อคนเราพออยู่ในช่วงจิตใจจวนจะสลาย ก็มักจะมองหาอะไรบางอย่างมาคอยค้ำยันจิตใจเอาไว้

มู่กุยฝานจุดบุหรี่ไว้แต่ก็ไม่ได้สูบ เพียงแค่เอามือพาดไว้ที่ขอบหน้าต่าง มองควันบุหรี่ที่ค่อย ๆ ลอยเลือนหายไป ราวกับว่าควันพวกนี้จะสามารถลดความหนักอึ้งภายในใจเขาออกไปได้บ้าง

ขณะนั้นเองด้านข้างรถมีคนเดินมาสองคน

สองคนนั้นเป็นนักข่าวอิสระ

เพื่อตามหาซู่เป่า ตระกูลซูและมู่กุยฝานจึงไม่ได้ขัดขวางคนพวกนี้

คิดว่าถ้าซู่เป่ายังมีชีวิตอยู่ แล้วได้เห็นข่าว บางทีอาจจะรู้ว่าพวกลุงและพ่อกำลังตามหาเธออยู่...จะได้ติดต่อมาได้

ดังนั้นตระกูลซูขุดหลุมใหญ่ขนาดนี้ ไม่ว่าใครก็สามารถมาถ่ายภาพได้

นักข่าวอิสระมองรูปถ่าย ก่อนจะพูดว่า “ตระกูลซูบอกว่าจะขุดทะเลสาบ แล้วสร้างบ้านพักตากอากาศติดทะเลสาบ...เอ๊ะ ทำไมดูเหมือนว่าจะไม่เหมือนแผนการที่วางไว้เลยล่ะ”

“นี่ก็เป็นเหตุผลที่ได้รับการอนุมัติ! ที่จริงแล้วไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังหาคน...”

“ใช่แล้ว เมื่อวานทางด้านมหาวิทยาลัยจงต้าก็มีบางอย่างผิดปกตินะ เหมือนว่าตอนกลางคืนได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องไห้ แต่พอเปิดประตูออกไปกลับไม่เจออะไร”

“เรื่องนั้นฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน ดูเหมือนว่าจะถูกนักพรตปราบไปแล้ว...ใครจะรู้ว่าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วล่ะ”

สิ้นเสียงพูด เงาของร่างสูงโปร่งก็มาปรากฏอยู่ใกล้ ๆ

“เมื่อกี้พวกคุณพูดว่าอะไรนะ”

นักข่าวผงะและใจสั่นรัวอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อเห็นใบหน้าเย็นชาที่เต็มไปด้วยความโกรธของชายตรงหน้า

“เรา...เรากำลังพูดถึงบ้านพักตากอากาศวิวทะเลสาบนี้ว่า...ออกแบบได้ดีมากเลย..."”

“ใช่ ๆ ทุกคนรอคอยบ้านพักตากอากาศวิวทะเลสาบแห่งนี้เป็นอย่างมาก...”

มู่กุยฝานสีหน้าเย็นชาก่อนจะพูดว่า “เรื่องผีน่ะ”

นักข่าวถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบพูดว่า “คือว่าทางมหาวิทยาลัยจงต้ามีผีผู้หญิง หลอกผู้คนอย่างอำมหิต ทำให้คนกระโดดตึกไปหลายคนเลย...หลังจากนั้นก็มีนักพรตมาปราบไปแล้ว”

มู่กุยฝานเงียบ ไม่นานก็ถามว่า “นักพรตผู้ชายหรือผู้หญิง อายุเท่าไหร่”

นักข่าวพากันส่ายหน้า “อันนี้พวกเราก็ไม่รู้จริง ๆ”

มู่กุยฝานก็หันหลังจากไป

สามเดือนมานี้ ขอเพียงที่ไหนปรากฏข่าวเกี่ยวกับผี เขาก็จะต้องไปตรวจเช็คดู

เขาเป็นกังวล...กังวลว่าถ้าหากลูกรักของเขายังมีชีวิตอยู่ แต่เพราะสาเหตุบางอย่างจะทำให้ลืมพวกเขา

นิยายพวกนั้นที่ซูจิ่นอวี้อ่าน เขาก็อ่านไปแล้วรอบหนึ่งเช่นกัน ก็เลยรู้จักพวกกลยุทธ์ต่าง ๆ

จะเจอการทำให้สูญเสียความทรงจำบ่อยที่สุด แล้วถ้าเกิดว่าลูกรักของเขาสูญเสียความทรงจำล่ะ

ดังนั้นเขาจะต้องหาเธอให้เจอให้ได้...

**

อีกด้านหนึ่งของชุมชนเมือง

มู่กุยฝานออกจากมหาวิทยาลัยจงต้า ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีความหวังพียงน้อยนิด แต่พอมาให้เห็นด้วยตัวเองก็รู้สึกผิดหวังอีกครั้ง ดวงตาก็เต็มไปด้วยความอ่อนล้าเกินจะอธิบาย

หลังจากรถออฟโรดสีดำขับออกไป

ในป่าเล็กด้านหลังมหาวิทยาลัยจงต้า มีเด็กน้อยคนหนึ่งกับหญิงสาวผมเผ้ากระเซอะกระเซิงหน้าตาสกปรกมอมแมมปีนขึ้นมา

ซู่เป่ามองไปทั่วทุกทิศด้วยความงุนงง “เอ๊ะ ที่นี่ใช่เขาร้างไหมเนี่ย ทำไมรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมือนเลย”

เหยาหลิงเยว่ยกมือขึ้น ดึงหนามที่ทิ่มอยู่บนคอออกมาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

จี้ฉางพูด “โทรศัพท์หาพ่อเจ้าก่อนเถอะ”

ซู่เป่ามองมือที่ว่างเปล่า

เธอไม่มีโทรศัพท์~

แต่ว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเธอไปหายืมเอาก็ได้

ถ้าไม่ได้ ก็ไปหาคุณอาตำรวจก็ได้

ซู่เป่าและเหยาหลิงเยว่ออกมาจากป่าเล็ก

มหาวิทยาลัยจงต้าตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเซียนหู ที่นี่มีประชากรน้อย ตอนนั้นจึงได้มีการย้ายมหาวิทยาลัยมาอยู่ที่นี่เพื่อจะพัฒนาเศรษฐกิจ

นักศึกษาของจงต้าก็น่าสงสาร บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนไปอยู่ชนบท เมื่อเทียบกับในเขตเมืองที่คึกคักเจริญรุ่งเรือง ที่นี่ก็ไม่ต่างจากชนบทเลยจริง ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน