หลังจากตระกูลไปแล้ว ผ้าที่คลุมอยู่บนหินก็ถูกลมพัดปลิวไป เผยให้เห็นแสงสีม่วงสะดุดตา
ลุงหนิวถือส้อมขนาดใหญ่เดินลาดตระเวน ก็เห็นหยกที่โผล่ออกมา
“เงินทองไม่สามารถเปิดเผยให้คนนอกเห็น…” เขาพึมพำและเห็นป้าอู๋กำลังจะหมักผักกาดดองอยู่ ก็เลยไปหยิบฟิล์มพลาสติกสีขาวที่เธอเตรียมไว้จะเอามาคลุมผักกาดดองมาพันรอบหินขนาดใหญ่สองสามครั้ง
ป้าอู๋ “เอ้ะ…ทำอะไรน่ะ! อันนี้ฉันจะเอาใช้ดองผักกาดนะ!”
พอมองไปที่หินที่ถูกพันแบบนั้นอีกครั้ง ก็เห็นว่าหินสีเทาโดยรวมในตอนนี้ข้างบนเหมือนเขางอกอย่างงั้นแหละ น่าเกลียดสุดๆ
ลุงหนิวบอกไปว่า “นี่คุณยังมีอีกสองกะละมังที่ยังไม่ได้เริ่มหมักไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวก็ไปเอามัสตาร์ดมาตากบนหินนี้สิ ทั้งสะอาดและแห้งไวด้วย”
ป้าอู๋ “…”
นี่ไม่ใช่หินธรรมดานะ จะให้เอาใช้ตากมัสตาร์ดเหรอ?
ลุงหนิวโบกมือ “คุณฟังผมก็พอ!”
พ่อบ้านเนี่ยเคยกำชับว่าหินก้อนนี้มีมูลค่าเกือบพันล้านและตอนนี้กำลังหาศิลปินแกะสลักที่เหมาะสมอยู่ ให้เขาจับตาดูดีๆ
“ของมีค่าอย่างงี้ ยิ่งไปจริงจังเท่าไหร่พวกขโมยมันก็ยิ่งจะสนใจมากกว่าเดิม เอามาใช้หมักมัสตาร์ดแบบนี้แหละดีแล้ว” ลุงหนิวเอ่ย
ป้าอู๋ถึงกับไปต่อไม่ถูก
ภายใต้การนำของลุงหนิว ในที่สุดป้าอู๋ก็เอามัสตาร์ดทั้งถังไปตากอยู่บนนั้น
“เอ๊ะ ดูสิ เอามาใช้ตากมัสตาร์ดก็เข้าอยู่นะ!” ป้าอู๋ประเมินอย่างพอใจ
เศษหินที่ถูกผ่าออกมาในตอนนั้น ซูอิ๋งเอ่อร์ได้เอาไปเก็บไว้ในห้องของเขาแล้ว มุมที่ขาดไปไม่เพียงแต่จะมีฟิล์มพลาสติกสีขาวมาห่อไว้ แถมยังมีมัสตาร์ดสองลูกที่ป้าอู๋วางลงไปด้วย
“ก็ดีนะๆ” ป้าอู๋เช็ดมือบนผ้ากันเปื้อนแล้วก็ไปยุ่งเรื่องอื่นต่อ
นอกคฤหาสน์ตระกูลซู มีรถสีดำคันหนึ่งค่อยๆ ขับผ่านไปอย่างช้าๆ
โดรนพกพาขนาดเล็กลำหนึ่งแอบบินอยู่เหนือบ้านตระกูลซูเงียบๆ
ในรถสีดำ มีคนหนึ่งถามว่า “บินสูงไปมองไม่เห็น! บินเตี้ยหน่อยไม่ได้เหรอ?”
อีกคนบอกว่า “ถ้าเตี้ยกว่านี้ก็จะโดนจับได้น่ะสิ รีบๆบินรอบหนึ่งแล้วรีบไป”
เขตที่อยู่อาศัยของคนรวยแถวนี้มีการคุมเข้มงวดมาก โดรนไม่สามารถบินตามใจชอบได้ และบินต่ำเกินไปก็ไม่ได้ พวกเขาแอบเข้ามาและรอมาเนิ่นนานกว่าจะมีโอกาสสามารถ ‘บิน’ โดรนได้
ที่แท้ก็เป็นพวกแก๊งโจรเจียงหนานนี่เอง
ข่าวลือที่ตระกูลซูได้หินหยกล้ำค่าไปนั้นได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ล่าสุดก็กำลังหาผู้ร่วมงานที่เหมาะสมอยู่
คนพวกนี้แอบย่องมาสังเกตการณ์หลายวันแล้ว จนในที่สุดก็รอถึงวันที่ตระกูลซูออกไปทั้งบ้าน
รถสีดำขับผ่านไป ภาพและวิดีโอจากโดรนก็อัปโหลดเข้ามาที่คอมพิวเตอร์ทันที
พวกโจรเบิกตากว้างมองหา “บอกว่าเป็นหินก้อนใหญ่มาก…ฉันว่าน่าจะซ่อนอยู่ในอาคารหลัก”
เขาชี้ไปที่อาคารหลักของตระกูลซู
“ประเด็นก็คือไม่รู้ว่าหินหยกนั้นหน้าตายังไง พวกเราก็ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งหมดแล้ว แต่ก็ไม่เห็นเบาะแสของหินหยกที่ถูกขนส่งเข้ามาเลยสักนิด…”
“ช่วงนี้นอกจากรถส่วนตัวของตระกูลซูเองแล้ว ก็ไม่มีรถคันอื่นที่เข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลซูเลย เพราะฉะนั้นก็น่าจะเป็นรถของพวกเขาเองที่ขนกลับไป”
“เนื่องจากขนเข้ามาด้วยรถส่วนตัว อย่างน้อยหินหยกใหญ่ที่สุดก็น่าจะไม่ใหญ่เกินที่เก็บของหลังรถนะ”
ในภาพมีหินขนาดใหญ่วางอยู่หน้าอาคารหลัก ข้างบนหินเต็มไปด้วยมัสตาร์ด
พวกโจรมองข้ามมันไปโดยอัตโนมัติ
ถึงยังไงกินก้อนใหญ่ขนาดนี้ ที่เก็บของหลังรถส่วนตัวก็คงยัดไม่พอหรอก
ไม่ต้องพูดถึงว่าข้างบนยังมีมัสตาร์ดตากไว้เต็มไปหมด ใครมันจะไปตากมัสตาร์ดบนหินหยกมูลค่าหลายพันล้านกันเล่า
“แม่งเอ้ย…ประเด็นก็คือเหล่าซานโดนจับไปแล้ว ไม่งั้นพวกเราก็จะยังมีคนช่วยสำรวจต้นทางให้อยู่ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ซวยขนาดนั้น พอเปิดประตูเข้าไปก็เจอตำรวจสี่คนดักอยู่”
“ก็บอกเขาแล้วว่าอย่าไปโลภกับของเล็กๆน้อยๆพวกนั้น แต่เขากลับบอกว่าการขโมยนั้นไม่มีขอบเขต”
ความสามารถอื่นๆ ของเหล่าซานอาจไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่การสำรวจต้นทางของเขานั้นถือว่าไม่เลวเลยล่ะ
คาดไม่ถึงว่าจะเข้าไปเจอกับตำรวจตรงๆ
พวกพวกแก๊งโจรนึกถึงเรื่องเหลือเชื่อนี้แล้วยังรู้สึกว่ามันไร้สาระมาก
“ค่อยหาทางสำรวจโครงสร้างในบ้านของตระกูลซูอีกทีแล้วกัน…”
แก๊งโจรพวกนี้เคยปล้นธนาคาร เคยขโมยตู้เซฟของคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมาแล้ว ถึงขั้นเคยแม้กระทั่งขโมยโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์มาแล้ว
เพราะฉะนั้นรอบนี้พวกเขายังคงมั่นใจเหมือนทุกที แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังจะเผชิญกับอะไรอยู่…
**
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...