ถึงแม้หยวนหยวนจะกลัวนิดหน่อย แต่เธอก็ยังถามไปว่า “งั้นฉันควรทำอย่างไร…?”
ผีสาวเข้ามาซบที่บ่าของเธอแล้วตอบว่า “ตอนนี้ที่ซู่เป่าได้รับการเอ็นดูขนาดนี้ล้วนเป็นเพราะเธอสามารถสอดแนมทุกอย่างในยมโลกแล้วมาช่วยที่บ้านจับผีและกำจัดสิ่งชั่วร้าย ทำให้ตระกูลซูยิ่งอยู่ยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ…ทุกคนถึงได้ชอบเธอขนาดนี้”
“เธอโกงชัดๆ!”
ผีสาวลูบที่ตาของหยวนหยวน “เธอก็ต้องเป็นแบบนี้ ทำให้เธอเบิกเนตรก่อน”
หยวนหยวนอึ้ง แบบนี้เหรอ?
เธอตื่นเต้นจริงๆ
“ต้องทำยังไง?”
ผีสาวยิ้ม “เด็กดีของฉัน แน่นอนว่าต้องดึงตาออกมาก่อน”
หยวนหยวนกลัวขึ้นมาทันที “อะไรนะ?ไม่เอา?”
ผีสาวเอ่ย “วางใจได้ ก็แค่เอาดึงเอาส่วนที่ขุ่นมัวของเธอออก ไม่ได้จะดึงลูกกระตาทั้งอันของเธอออกมา เธอไม่มีทางตาบอดหรอก”
หยวนหยวนดิ้นรนอีกครั้ง
ถ้าเกิดทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เรื่องจริง…งั้นลองหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรนี่
แต่ถ้าเกิดว่า…สิ่งที่ผีสาวพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริงล่ะ? จะให้ซู่เป่ามาแย่งทุกอย่างไปจากเธอแบบนี้ เธอไม่มีทางยอม
แววตาหยวนหยวนเริ่มเด็ดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
เธอจะต้องเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอกลับมาให้ได้!
หญิงสาวชุดแดงพอใจอย่างมาก แล้วยื่นมือไปที่ลูกกระตาของหยวนหยวน …
**
สัปดาห์นี้ซู่เป่าใช้ชีวิตด้วยสงบ (ขีดทิ้ง)อลม่านวุ่นวายสุดๆ
ทุกเช้าตื่นขึ้นมาก็จะต้องออกไปวิ่งกับพ่อสิบกิโลเมตร กลับมาก็เหนื่อยนอนซมอยู่กับพื้นและลุกขึ้นมาไม่ไหว
มู่กุยฝานยังผูกกระสอบทรายไว้ที่เท้าของเธอทั้งสองข้าง…
“ทำไมพ่อต้องวิ่งแบบนี้ด้วยล่ะ?” ซู่เป่าขมวดคิ้วถาม
ตอนนี้เธอแข็งแกร่งจนวิ่งได้สิบกิโลเมตรแล้ว ไม่งั้นคงวิ่งไม่ไหว
เดิมทีก็ไม่ไหวอยู่แล้วยังจะมาผูกอะไรที่เท้าอีก เธอเหนื่อยจนจะตายแล้วเนี่ย~
มู่กุยฝานเอ่ย “ที่ผูกของหนักไว้ที่เท้าน่ะ ก็เพราะจะให้หนูชินกับแรงโน้มถ่วงแบบนี้แล้วฝึกพลังเท้า…ถึงเวลาพอเอาของหนักที่ผูกไว้ออกไป…หนูก็จะสามารถกระโดดได้สูงมากในพริบตาเลยล่ะ”
ซูเป่าทำท่าเข้าใจ “เข้าใจแล้วค่ะ!”
เธอสามารถบินได้ในโลกใต้พิภพ แต่เธอกลับไม่สามารถทำได้ในโลกมนุษย์
“งั้นแบบนี้หนูก็สามารถกระโดดขึ้นไปบนกำแพงแล้วกระโดดข้ามมาได้ใช่ไหม!” ซู่เป่าถามด้วยความตื่นเต้น
มู่กุยฝาน “แน่นอนอยู่แล้ว…”
อีกด้านหนึ่ง นายหญิงซูก็ถือกระทะไว้ใบหนึ่ง
มู่กุยฝานก็เลยรีบแก้ประโยคหลังเป็น “…ไม่ได้ การกระโดดข้ามกำแพงเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เราต้องปฏิบัติตามกฎหมายนะ”
ซู่เป่า “…”
นอกจากวิ่งแล้วยังมีการฝึกการตอบสนองและฝึกความจำด้วย
มู่กุยฝานวางหม้อและกระทะไว้ในสวนแล้วให้ซู่เป่ามองแค่รอบเดียวแล้วใช้ความจำโยนหินลงในที่ที่กำหนดไว้
ได้ยินแต่เสียงปัง——เพล้ง!
นายหญิงซูวิ่งออกมาจากห้องครัวพร้อมกับแตงกวาในมือ “มู่กุยฝาน!”
มู่กุยฝานรีบแบกซู่เป่าที่กำลังปิดตาอยู่แล้วรีบวิ่งหนีไป
แล้วก็ยังมีการฝึกซ้อมความถึกด้วย มู่กุยฝานพาซู่เป่าแอบมานั่งอยู่ที่ริมทะเลสาบ “พร้อมหรือยัง?”
ซู่เป่าถอดเสื้อผ้าออกแล้ววิ่งเท้าเปล่ากระโดดลงไปในทะเลสาบเสียงดังโครม
“อดทนไว้ น้ำเย็นมาก!” มู่กุยฝานมองไปที่ตัวจับเวลา “ว่ายสิ!ว่ายขึ้นมาสิ เมื่อวานพ่อสอนหนูไปว่ายังไง?!”
สีหน้าเขาเย็นชา แต่สายตากลับจ้องตามติดซู่เป่า ในตอนที่เธอทนไม่ไหวแล้วจะจมน้ำก็จะดึงเธอขึ้นมา ไม่รู้ดึงเธอขึ้นมาไปแล้วกี่ครั้ง ในที่สุดซู่เป่าก็สำลักน้ำครั้งที่N จนเจียงจวินและโส่วว่างต้องกระโดดลงไปช่วย
จากนั้นก็ว่ายน้ำท่าหมาไปที่บริเวณที่เธออยู่
ซู่เป่าเรียนรู้ด้วยตัวเองโดยไม่มีครูสอน สิ่งที่พ่อสอนไปเธอก็ทำไม่ได้ แต่ว่ายน้ำท่าแรกที่เป็นก็คือท่าหมา
สุนัขสองตัวและมนุษย์หนึ่งคนว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน!
มู่กุยฝาน “…”
นายหญิงซูรีบถือผ้าขนหนูหนาๆ วิ่งเข้ามาแล้วพูดอย่างใจร้อนว่า “ต้องมาเรียนว่ายน้ำในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ด้วยเหรอ…”
“เป็นสาวเป็นแส้ ทำไมถึงเปลือยล่อนจ้อนแบบนี้!”
ซู่เป่าที่เพิ่งว่ายกลับมาที่ฝั่งก็ตะโกนบอกว่า “ไม่ได้ล่อนจ้อนนะคะคุณยาย หนูยังใส่กางเกงตัวจิ๋วนี้อยู่นะ!”
มู่กุยฝานดึงซู่เป่าที่เพิ่งกลับมาที่ฝั่งแล้วก็รีบหยิบผ้าขนหนูจากมือของนายหญิงซูมาอย่างรวดเร็ว…แล้วพลางห่มผ้าขนหนูให้ซู่เป่าพลางวิ่งหนีไปด้วย
“น้ำแข็งช่วยฝึกความถึกของมนุษย์!” เขาทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่ง
นายหญิงซูยืนอยู่ที่เดิมแล้วด่ากราดออกมา แต่ในใจปวดใจอย่างมาก พอเห็นคนวิ่งจนไม่เห็นเงาแล้วค่อยเก็บสีหน้ากลับมา
เธอเดินกลับไปเงียบๆ จำเป็นต้องฝึกซ้อมจริงๆ…รู้สึกเหมือนกับว่าเธอทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากปวดใจ
แค่สัปดาห์เดียวเอง เจ้าตัวเล็กก็ผอมลงขนาดนี้
เดิมทีก็อ้วนกลมอยู่หรอก แต่ตอนนี้กลับสามารถเห็นคางแหลมๆของเธอแล้ว
“ไม่ได้ ฉันต้องกลับมาตุ๋นไก่” นายหญิงซูพูดกับตัวเอง “แค่ตุ๋นไก่คงเสริมไม่พอ…ปลิงทะเลเหรอ? เด็กน่าจะกินปลิงทะเลได้นะ…ขอฉันคิดดูก่อนยังมีอะไรอีกนะ…”
เวลาผ่านไปไวมาก วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ตระกูลซูตกลงกันไว้ว่าจะไปที่เกาะหนีกวงเพื่อจัดงานวันเกิดชดเชยที่ซู่เป่าอายุครบ 5 ขวบก็มาถึงแล้ว
หานหานมีความสุขจนแทบจะลอยได้ เพื่อที่จะเล่นได้อย่างเต็มที่เธอก็เลยตั้งใจทำการบ้านสุดสัปดาห์ของเธอให้เสร็จทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับเธอเลยเหมือนกับกำลังทำสงครามอยู่เลย
“ไปกันเถอะๆๆ!” หานหานรีบวิ่งอย่างไว พอขึ้นรถไปแล้วก็วิ่งลงมาอีก “ถังน้ำๆ ถังน้ำฉันล่ะ!”
ซู่เป่าขานชื่ออยู่บนรถ “เสี่ยวอู่!”
เสี่ยวอู่ที่อยู่ในกระเป๋าสัตว์เลี้ยงเก็บความร้อนโผล่หัวออกมา “มาครับ!”
“เจียงจวิน!”
เจียงจวินโฮ่งอย่างเท่เลย
“โส่วว่าง!”
โส่วว่างเลียๆอยู่ที่ขาของซู่เป่า
“เสวียนหลิง!”
เสวียนหลิงนี่อยู่เป็นจริงๆ รีบกระโดดเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของซู่เป่าแล้วก็กลิ้งตัวเผยให้เห็นหนังท้อง “เหมียว~”
เสี่ยวอู่ส่งเสียงด้วยความกระตือรือร้น “เฮ้ย!”
มันรีบกระพือปีกแสดงความไม่พอใจออกมา “ไอ้แมวไร้ยางอาย!”
ซู่เป่าส่งเสียงเอ๊ะ ขาดใครไป…
“ไอ้หยา คุณปู่เต่านี่เอง!” ซู่เป่ารีบลงจากรถทันทีแล้วไปชนเข้ากับหานหานที่ถือถังน้ำอยู่
“โอ้ย!”
“โอ้ย!”
สองพี่น้องกุมหัวพร้อมกัน ถังน้ำในมือหานหานร่วงลงมา คุณปู่เต่าที่อยู่ข้างในก็กลิ้งลงมาด้วย
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?” หานหานมัวแต่ลูบหัวซู่เป่า ไม่ได้สนใจความเจ็บปวดของตัวเอง
ซู่เป่าส่ายหัว “เจ็บนิดหน่อยแต่ว่าไม่เป็นไรแล้วล่ะ! หัวพี่หานหานนี่ใหญ่จริงๆ!”
ทั้งสองคนหัวเราะคิกคัก คุณปู่เต่าที่อยู่บนพื้นเห็นพวกเธอไม่เก็บเขาขึ้นมาก็เลยคลานกลับเข้าไปในถังน้ำเงียบๆ
“ไปกันเถอะ!” หานหานยกถังน้ำขึ้นมา ส่วนซู่เป่าก็ชะโงกหน้ามองคุณปู่เต่า
เธอเอ่ย “เมื่อกี้พวกเราเพิ่งขานชื่อไป ตอนนี้หนูขานชื่อคุณปู่ คุณปู่เต่าต้องตอบว่ามาครับ!”
เต่า “?”
ซู่เป่า “คุณปู่เต่า!”
เต่า “…”
มันอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็…เอาหัวตัวเองเคาะที่ถังน้ำทีหนึ่ง
ปัง~
ซู่เป่าถึงกับอึ้งแล้วหัวเราะฮ่าๆทันที จากนั้นก็ยื่นมือไปจับที่หัวของเต่า “เจ็บไหมคะ?”
หานหานก็หัวเราะฮ่าๆด้วย “คราวหน้าปู่น่าจะลองใช้กระดองเคาะนะ!”
ทุกคนกลั้นไม่ไหวหัวเราะกันหมด
นายหญิงเดินมาหลังสุด บ่นพึมพำว่า “ช้าหน่อย ไม่รีบ เครื่องบินบ้านตัวเอง จะรีบไปทำไม…”
รถสิบคันค่อยๆขับออกจากบ้านตระกูลซู
คฤหาสน์สุดอลังการของตระกูลซูดูเหมือนว่าจะว่างเปล่าทันที มีเพียงหินขนาดใหญ่ที่ซู่เป่าเอากลับมาตั้งตระหง่านอย่างโดดเดี่ยวอยู่หน้าอาคารหลัก…
-
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...