ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 540

หยวนหยวนน้ำตาเอ่อล้น นายหญิงซูไม่เกรงใจแม้แต่นิด พูดตอกหน้าเธออย่างแรง ทำให้เธอรู้สึกถึงความอับอาย…

ในขณะที่เธอไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไร รถคันหนึ่งก็ได้ขับเข้ามา ชายคนหนึ่งลากเธอและคุณแม่ออกไปโดยไม่พูดไม่จา

เวลาย้อนกลับไปเมื่อสิบนาทีที่แล้ว

มู่กุยฝานเห็นว่าของขวัญชิ้นใหญ่ถึงมือแล้ว จึงโทรเรียกให้ว่านปาสือส่งขยะออกไปด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด

ว่านปาสือเองก็ขับรถขยะมาจริงๆ…ขยะก็ต้องลากด้วยรถขยะ

เขาโยนมู่เหม่ยหัวและหยวนหยวนเข้าไปในรถขยะอย่างเด็ดขาด จากนั้นขับออกทะเลโดยไม่หยุดพัก

สิบห้านาทีต่อมา

ตุบ!

มู่เหม่ยหัวและหยวนหยวนถูกโยนลงบนพื้น รวมทั้งกระเป๋าเดินทางของพวกเธอก็ถูกโยนทิ้งอีกด้าน

เมื่อกี้เรือขับเร็วเกินไป ลมตีจนใบหน้าของพวกเธอเจ็บปวดไปหมด และข้างหูดังเป็นเสียงวืดๆ …

ดังนั้นพวกเธอทั้งคู่จึงยังไม่ได้สติ

ผมของมู่เหม่ยหัวตั้งเป็นทรงรังนก เส้นผมสลวยของหยวนหยวนก็โซซัดไปมาจนปลิวติดหน้าไปหมด

ใบหน้าถูกลมตีจนด้านชา สีหน้าพวกเธอเหม่อลอย

พักหนึ่งกว่ามู่เหม่ยหัวจะได้สติ เธอโกรธจนตัวสั่น “นี่มัน…มันกล้าทิ้งพวกเราออกมางั้นเหรอ พวกเราเป็นผู้บริโภค พวกมันหมายความว่ายังไงกันแน่!”

เธอโมโหมาก จึงไถ่ถามออกมาเสียงดัง “นี่น่ะเหรอการบริการของเกาะหนีกวง พวกเรามาใช้บริการด้วยความหวังดี แต่เพียงเพราะเสิร์ฟเค้กผิดก้อนหนึ่ง ตระกูลซูก็ทิ้งพวกเราออกมาแบบนี้เลย!”

ผู้คนที่ขวักไขว่ไปมาหยุดลงอย่างสงสัย

มู่เหม่ยหัวยังคงใส่สีตีไข่ต่อ บอกว่าเกาะหนีกวงหลอกลวงพูดบริโภค เอาเปรียบผู้บริโภค พวกเธอถูกไล่ออกจากห้องพักโดยไม่มีเหตุผล ถูกโยนออกนอกเกาะ หนำซ้ำพวกเธอยังคิดจะโทรรายงานกับกระทรวงอีก

ในขณะที่พวกเธอกำลังพูดถึงจุดที่ดุเดือดที่สุด คนมุงดูก็ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ

จู่ๆ จอภาพตรงจุดขายบัตรก็กระพริบ ฉายฉากที่มู่เหม่ยหัวประจบตระกูลซูออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ

ไม่เพียงเท่านี้ ระหว่างที่เธอกำลังออกจากร้านอาหารชั้นห้า เธอยังพูดด้วยน้ำเสียงอิจฉา ‘สมกับเป็นคุณหนูน้อยของตระกูลซู หวงอย่างกับอะไรล่ะ อยากรู้ว่าวันหนึ่งถ้าเธอตาย ตระกูลซูจะร้องไห้จนเป็นสภาพไหนกัน’

สายตาที่ทุกคนมองมู่เหม่ยหัวและหยวนหยวนเปลี่ยนไปในทันที

“ฉันก็คิดว่าเกาะหนีกวงรังแกผู้บริโภคจริงๆ ซะอีก ที่แท้ก็ทำตัวเองซะก่อน”

“ที่แท้ยัยนี่เป็นชู้นี่เอง ไม่เป็นไร ทุกคนที่เป็นชู้ไม่มีวันได้ตายดีซะหรอก”

“สาปแช่งลูกคนอื่นในงานเลี้ยงวันเกิด หากเป็นฉันคงลงมือตบไปหลายฉาบแล้ว ตระกูลซูยังใจดีเกินไป!”

“บ้าหรือเปล่า ปากเสียขนาดนี้ ไม่มีความสัมพันธ์กันยังหน้าด้านไปประจบเขาอีก ถูกเขาโยนออกจากงานก็มาโวยวายใส่ร้าย น่าขันชะมัด”

ผู้คนที่มุงดูสีหน้าเหยียดหยาม และพูดดูถูกพวกเขา

แผนมู่เหม่ยหัวไม่สำเร็จหนำซ้ำยังทำชื่อเสียงตัวเองแย่กว่าเดิม เธอไล่เก็บของตัวเองอย่างทรหด จากนั้นจึงลากหยวนหยวนวิ่งออกไป

หยวนหยวนเองก็อยากร้องไห้ ที่เธอคิดมันไม่ใช่แบบนี้!

คนร้ายในซีรี่ส์ยังสามารถอยู่ได้ตั้งสิบกว่าตอน ทำไมเธอเพิ่งขึ้นไปก็ถูกโยนลงมาเลยล่ะ ทำอย่างกับเธอแค่ไปส่งลูกแก้วอย่างงั้นล่ะ

เธอเป็นตัวเอกเชียวนะ

ทำไมเวลาอยู่กับแม่ของเธอ ถึงได้ขายหน้าขนาดนี้

หยวนหยวนร้องไห้กลับไปทั้งทาง เธอไม่อยากอยู่กับมู่เหม่ยหัว เธอคิดถึงผีคุณแม่ของตนอย่างอดไม่ได้

โชคดี ที่เธอทำภารกิจที่ผีคุณแม่เธอทิ้งไว้ให้สำเร็จแล้ว…

**

เกาะหนีกวง

ร้านอาหารชั้นห้า

ซู่เป่ากินเค้กชิ้นสุดท้ายจนหมด วางจานลงอย่างพอใจ

ผีร้ายที่ถูกเธอผนึกไว้ และขยับตัวไม่ได้มองเธออย่างเคียดแค้น

“คุณพ่อ หนูต้องฝึกยังไงต่อ” ซู่เป่าดูดนิ้ว พร้อมถาม

มู่กุยฝาน “……”

จะฝึกยังไงอีก

เจ้วตัวน้อยเอามือตบลงบนพื้นอย่างแรง ยันต์ขนาดใหญ่ก็ปรากฏ… จู่ๆ ผีร้ายทุกตัวต่างก็หยุดนิ่ง

ฝึกกับผีน่ะสิ…

ซูจื่อซีกดคางที่อ้าค้างไว้ด้วยความตกตะลึงของตนกลับไป พร้อมเอ่ยพูดช้าๆ “นี่มัน…ท่าไม้ตายเหรอ”

เขาเขียนเพิ่มเข้าไปในช่องสกิลประโยคหนึ่ง

วงเวทยันต์โอฬาร ระดับ SSS ข้อเสีย : ……

ซูจื่อซีมองไปที่หน้าโต๊ะทีหนึ่ง พร้อมเขียน ข้อเสีย สูญเสียพลังงานเยอะมาก ต้องกินเค้กสามชิ้นจึงจะฟื้นฟูกำลังได้

มู่กุยฝานเอ่ยพูดเสียงต่ำ “ท่านี้เจ๋งมากจริงๆ ซู่เป่า ปล่อยพวกมัน พวกเราเอาใหม่อีกรอบ”

อุตส่าห์มีผีร้ายมากขนาดนี้ เป็นร้อยตัวเชียว

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายสะสมยังไงกัน ดูท่าคงควักออกมาทุกกระบวนท่าแล้ว เธอจะปล่อยให้เสียฟรีไม่ได้เด็ดขาด!

ซู่เป่าพยักหน้า “ได้ค่ะ!”

พูดจบมือน้อยๆ ก็ตบไปที่พื้นทีหนึ่ง!

พอมันได้ขยับตัว ผีร้ายที่พุ่งเข้ามาด้วยเสียงคำรามต่ำต่างชะงักลงอีกครั้ง

มู่กุยฝานมองนาฬิกาจากนั้นพยักหน้า “1.67วิ เวลาในการลงมือของหนูช้าเกินไป เอาใหม่!”

“ในการต่อสู้ระดับสูงสุด ครึ่งวิก็เพียงพอในการตัดสินความเป็นตายแล้ว ท่านี้หนูต้องทำให้สำเร็จภายในครึ่งวิ”

ซูเหอเวิ่นส่งเสียงเอ่อทีหนึ่ง “อาเขย เข้มงวดเกินไปหรือเปล่า……”

ครึ่งวิ!

สายฟ้าครั้งหนึ่งใช้เวลาประมาณ 0.25 วิ

หมายความว่าซู่เป่าต้องลงมือให้ได้ความเร็วเร็วพอๆ กับสายฟ้าเลย

มู่กุยฝานไม่สนใจ ถือนาฬิกาพร้อมตะโกน “เริ่ม!”

สิ้นเสียงเพี้ยะ มือน้อยๆ ของซู่เป่าตบลงบนพื้น

มู่กุยฝานขมวดคิ้ว “อีกครั้ง!”

ซู่เป่าตบพื้นอีกครั้ง ครั้งนี้เร็วกว่าครั้งที่แล้ว แต่มือน้อยๆ ตบพื้นจนมือแดงไปหมด

“ช้าเกินไป! ใช้เวลาไป 0.88 วิ ต่อ!”

แปะ…

“ต่อ!”

แปะ…

“อีกครั้ง!”

แปะ…

“ไม่ได้กินข้าวหรือไง เร็วอีก”

……

ในร้านอาหาร ผีร้ายเป็นร้อยตนกลายเป็นคู่การฝึกฝนอย่างไร้ศักดิ์ศรี พวกเขาราวกับเป็นหุ่นไล่กา ขยับทีหนึ่งค้างทีหนึ่ง ค้างทีหนึ่งจากนั้นขยับทีหนึ่ง

พวกเขาจะบ้าตายอยู่แล้ว

นี่คือจุดประสงค์แรกที่พวกเขามาที่นี่งั้นเหรอ

เป้าหมายยักษ์ใหญ่ และความฝันของพวกเขาล่ะ!

ผีร้ายคำรามอย่างพิโรธ

ซู่เป่ารู้สึกเพียงเจ็บมือมาก นัยน์ตากระพริบไปด้วยน้ำตา จากนั้นตะโกนอย่างโกรธเคือง…

ตู้ม…

ครั้งสุดท้าย มือเล็กๆ ของเธอยังไม่ทันตบลงบนพื้น อักขระสีทองก็พุ่งออกไปราวกับสายฟ้าสีทอง ยังไม่ทันสัมผัสกับพื้นก็กลายเป็นกระดาษยันต์แผ่นยักษ์ พัดผีร้ายจนกระเด็นออกไปไกล!

ซูเหอเวิ่นและซูจื่อซีต่างตะลึง

เป็นครั้งแรกที่เอฟเฟคเกมส์ปรากฏตรงหน้าพวกเขาในชีวิตจริง ฉากตรงหน้าทำเอาทุกคนขนหัวลุก

มู่กุยฝานมองนาฬิกา พร้อมเผยรอยยิ้มพอใจ “ดีมาก 0.25วิ”

ความเร็วของสายฟ้า!

ซู่เป่าหายใจอย่างถี่รัว นั่งลงบนพื้นดังตุบ

มือน้อยๆ ของเธอแดงไปหมดแล้ว

นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ว้าว ไม่คิดว่าเธอจะเก่งขนาดนี้

“หนูเก่งที่สุด!” ซู่เป่าสะบัดหมัดเล็กๆ พร้อมร้องตะโกน

มู่กุยฝานพยักหน้า “ต่อจากนี้เป็นความสามารถในการตอบสนอง ในการต่อสู้จริง อย่าให้ศัตรูได้มีโอกาสเข้าใกล้หนูเกินครึ่งเมตร!”

มู่กุยฝานสั่งให้ซู่เป่าปล่อยผีร้ายเหล่านั้น ไม่อนุญาตให้ซู่เป่าใช้สกิลโจมตีใดๆ ทั้งนั้น ใช้ความเร็วเท่านั้นในการหลบหลีก ให้ผีทั้งโถงไม่สามารถเข้าใกล้เธอได้

ซูเหอเวิ่นถามขึ้น “ตอนนี้ในร้านอาหารมีค่า X เป็นหนึ่งร้อยหนึ่ง ขนาดร้านอาหาร…ระยะห่างเฉลี่ย…”

หรือหมายความว่า ผีร้ายที่เรียงกันอย่างเรียบร้อยยืนห่างกันไม่ถึงหนึ่งเมตร หากพวกมันตะครุบลงบนตัวซู่เป่า จะให้ซู่เป่าห่างกับพวกมันมากกว่าครึ่งเมตรได้อย่างไรกัน

มู่กุยฝานไม่สนใจ

ซู่เป่าถูกโยนเข้าไปในดงผีร้าย ห้ามใช้สกิล และห้ามใช้ท่าแปดสิบ

เธอก้าวขาวิ่งอยู่ในร้านอาหาร แต่วิ่งไม่ทันผีร้ายที่บินได้แม้แต่นิด

“ช้าเกินไป วิ่งสิ!” มู่กุยฝานตะคอกเสียงเย็น “การฝึกวิ่งหนึ่งอาทิตย์ไม่มีประโยชน์เลยหรือไง พ่อสอนหนูยังไงกัน”

ซู่เป่ากัดฟันวิ่งสุดชีวิต

มู่กุยฝานหัวเราะเย็น “ผูกกระสอบทรายเอาไว้ยังวิ่งได้เร็วกว่านี้เลย อย่าลดความเร็วของหนูลงเพราะการหลบหลีก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน