ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 541

หัวใจของมู่กุยฝานบีบรัด พยายามข่มความรู้สึกที่อยากวิ่งพุ่งขึ้นไปเอาไว้

ลูกรัก…พ่อไม่สามารถอยู่ข้างกายลูกได้ตลอดเวลา…

บางทีผ่านไปห้าปี สิบปี บางทีลูกอาจไปถึงที่ที่พ่อไม่มีวันไปถึงได้ หรืออาจได้อยู่คนเดียวอย่างเดียวดาย…

มู่กุยฝานกำหมัดไว้แน่น อดทนไว้อย่างสุดกำลัง

จี้ฉางทนดูไม่ได้ และจากไปนานแล้ว

ไหล่ของซู่เป่าเจ็บปวด เธอโบกมือโดยสัญชาตญาณทีหนึ่ง การกระทำชะงักเพียงครู่เดียวของเธอทำให้เธอถูกล้อมโดยผีร้าย

ร่างของเจ้าตัวน้อย จมดิ่งลงภายใต้ผีร้ายเป็นชั้นๆ

“ซู่เป่า!” ซูเหอเวิ่นร้อนรน

ขณะนี้เอง ซู่เป่าเหยียบไปบนเก้าอี้ตัวหนึ่งเต็มแรง จากนั้นกระโดดขึ้น……

ราวกับมังกรวารีกระโดดเหนือผิวทะเล เธอกระโดดออกจากการโอบล้อมของผีร้ายด้วยท่าทีคล่องแคล่ว

ใบหน้าเล็กๆ ของเธอไม่หลงเหลือความน่ารักละอ่อนอย่างเมื่อครู่อีกต่อไป แต่สิ่งที่มาแทนที่คือความสุขุม และเข้มแข็ง

นัยน์ตาของเธอกระพริบแววประหลาด ราวกับสายฟ้าที่มองไม่เห็นเงา วิ่งพล่านในฝูงผีร้าย

“ย้ากกก” เธอสู้สุดชีวิต ตะโกนไปพร้อมวิ่งไปด้วยน้ำเสียงอ่อนเยาว์

“มาสิ แน่จริงก็มาจับฉันสิ!” ซู่เป่าเองก็รู้สึกโกรธหน่อยๆ เธอไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะทำไม่ได้!

“มีความสามารถแค่นี้เหรอ ฉันยังไม่ทันใช้ท่าไม้ตายเลย” ซู่เป่าหลบหลีกไปด้วยพร้อมตะโกนไป

“นี่น่ะเหรอผีร้าย แบร่ๆๆ” เจ้าตัวน้อยยิ่งอยู่ยิ่งชำนาญแล้ว

“ขยะ! ขยะทั้งหมดเลย!” ซู่เป่าคล่องแคล่วมากขึ้น จนเร็วดุจสายฟ้า

ผีร้าย “……”

ชาตินี้พวกมันคงคิดไม่ถึงว่ากลายเป็นผีแล้วยังต้องถูกจูงเล่นเป็นหมาอีก

ดูถูกผีเกินไปแล้ว!

ศักดิ์ศรีล่ะ!

ศักดิ์ศรีความเป็นผีของพวกมันล่ะ?

ฮรือออ…

ผีร้ายร้องไห้ฮรือๆ ตะครุบขึ้นไปอย่างโกรธเคือง สรุปล้มซ้อนกันตัวแล้วตัวเล่า ก็ยังแตะไม่โดนตัวซู่เป่า

“พอ หยุดได้แล้ว” ในที่สุดมู่กุยฝานก็สั่งหยุด

ซู่เป่ารีบสะบัดมือ แสงลำหนึ่งกระพริบผ่าน ผีร้ายที่กำลังร้องไห้ฮรือๆ ถูกผนึกในทันที ไม่สามารถขยับและออกเสียงได้

เหล่าผีร้าย T^T

มีคุณธรรมหน่อยได้ไหม

ซู่เป่าเหนื่อยจนขาอ่อน เธอกำลังจะล้มลงบนพื้น วินาทีต่อมาก็ถูกมู่กุยฝานล้วงขึ้นมา พร้อมอุ้มอยู่ในอ้อมแขนทันที

“ยังไหวไหม” เขาทนความเจ็บใจไว้ แล้วพูดเสียงต่ำๆ

ซู่เป่าพยักหน้า “ยังไหว…คือว่า หนูหิว…”

ซู่เหอเวิ่นรีบยกเค้กมาเสิร์ฟทันที

คนในร้านอาหารชั้นห้าต่างออกไปหมดแล้ว รวมทั้งพนักงาน แต่ว่าอาหารในเขตบุฟเฟ่ยังอยู่

ซู่เป่ากลืนเค้กก้อนเล็กสองก้อนภายในคำเดียว ตามด้วยน้ำผลไม้สองขวด จากนั้นก็เห็นซูจื่อซีเดินมาพร้อมกับกุ้งทอดกระเทียม

เธอไม่ปฏิเสธ และกินจนหมดทุกอย่าง จึงเริ่มรู้สึกเรี่ยวแรงเริ่มฟื้นฟู

“เอาอีก!” ในใจซู่เป่าฮึกเหิม กำมือพร้อมตะโกน “ผีร้ายมากขนาดนี้ อย่าปล่อยไปแบบสูญเปล่า!”

เหล่าผีร้าย “……”

สรุปแล้วพวกมันคือกระสอบทราย ถูกไหม

ความรักที่เคยมีจะหายไปใช่ไหม

การฝึกไหวพริบ คือซู่เป่ายืนอยู่นิ่งๆ รอให้เหล่าผีร้ายใกล้จะโจมตีโดนเธอ เธอค่อยต่อยไปที่หัวพวกมันอย่างจัง

เมื่อจำนวนในการฝึกมากขึ้น ไหวพริบของซู่เป่าก็ฝึกออกมาได้อย่างรวดเร็ว ต่อให้กำลังกินข้าว หากเธอรู้สึกถึงความอันตราย สมองยังไม่ทันตอบสนอง ท่าไม้ตายก็ปล่อยออกไปแล้ว

จนสุดท้ายไม่มีผีร้ายตนกล้าโจมตีลับหลังซู่เป่าอีก

การฝึกความอดทน คือให้ซู่เป่าต่อสู้กับผีทีละตัวจนถึงตัวที่สามสิบเก้า ไม่เว้นเวลาพักแม้แต่นิด สุดท้ายเหล่าผีร้ายต่างหวาดหวั่น จนถดถอยไปกันหมด

การฝึกแรงทะลุ คือฝึกไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าหมัดซู่เป่าจะแรงที่สุดได้ขนาดไหน จะสามารถต่อยผีให้กลายเป็นขี้เถ้าภายในหมัดเดียวได้กี่ตัว โดยที่ไม่ใช้พลังเวท

เป้าหมายของการฝึกนี้ เพื่อให้เธอมีความสามารถในการปกป้องตนเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน

เริ่มแรกซู่เป่าสามารถต่อยผีได้หมัดละตัว จากนั้นค่อยๆ เพิ่มเป็นสองตัว สี่ตัว หกตัว…

สุดท้ายขีดจำกัดของเธอคือหมัดละสิบตัว

เมื่อมาถึงขั้นนี้ ฟ้าก็เริ่มสว่างแล้ว

น้ำเต้าวิญญาณเรอออกมาด้วยความอิ่ม อย่าถามว่าอิ่มไหม ควรถามว่ามันจุกไหมมากกว่า

ผีหลายใจในน้ำเต้าวิญญาณโผล่หัวออกมาอย่างตะลึง

ผีหลายใจ “ไม่กล้าหาเรื่องๆ!”

ผีขี้ขลาด “ซู่เป่าเก่งที่สุด!”

ผีดวงซวย “เจ้าผีนั่นน่าสงสารจัง”

พวกเขามองไปทางมุม

ร้านอาหารชั้นห้าที่แสนกว้างขวาง เหลือเพียงผีร้ายตัวเดียวที่ตัวสั่นระริก

มองดูซู่เป่าน้อยที่ฉายแววดุร้าย เขาคุกเข่าลงดังตุบ

“แม่…คุณยาย…ท่านบรรพบุรุษ…ช่วยฉันด้วย…” เขาปล่อยโฮ “ปล่อยฉันไปเถอะ!”

ซู่เป่าเก็บท่า สัมผัสหมัดที่กำลังกำแน่น แม้จะต่อสู้มาทั้งคืน แต่เธอกลับรู้สึกตาสว่างมากขึ้น

เธอค่อยๆ ยกมือ ฟาดสันมือออกไป กลางอากาศดังเป็นเสียงระเบิด ขวดแก้วที่ห่างออกไปครึ่งเมตรร้าวในทันที

เห็นได้ชัดว่าฝ่ามือนี้ของเธอมันรุนแรงมากขนาดไหน

ซู่เป่าราวกับพบกับดินแดนใหม่ เหลียวซ้ายแลขวาอย่างตื่นเต้น และจ้องไปที่มะพร้าวลูกหนึ่ง

“ฮึบ!” เธอฟาดฝ่ามือออกไป ผ่ามะพร้าวออกเป็นสองส่วนได้ง่ายๆ

ดวงตาเจ้าตัวเล็กประกาย “ว้าว หลังจากนี้ไม่ต้องลำบากให้คุณยายช่วยปลอกทุเรียนแล้ว หนูสามารถผ่าด้วยมือเปล่าได้!”

“พี่ๆ วันหลังอยากปลอกผลไม้ก็มาหาหนูนะ”

ซูเหอเวิ่นและซูจื่อซี “……”

พี่ๆ ทั้งสองคนอึ้ง

จริงๆ เลย…ฝึกเวลาแค่นี้ก็สามารถเห็นผลลัพธ์เลยเหรอ…

ซูจื่อซีรีบหยิบสมุดบันทึกออกมา ข้อมูลเก่าถูกเขาขีดทิ้ง

ชื่อ : ซู่เป่า

พลังโจมตี : 9999 (เต็ม 10000+ สกิล: วงเวทยันต์โอฬาร เวลาคูลดาวน์ 0.25 วิ หมั่วโถวทองคำ เวลาคูลดาวน์……)

อาชีพ : พญายม

พลังชีวิต: 999 (เต็ม 1000)

ความเร็ว: 999 (เต็ม 1000 ขาสั้นจึงวิ่งไว ให้ความเร็วพอๆ กับเคลื่อย้ายพริบตา)

อาวุธ: ค้อนใหญ่ทองคำม่วง ตาข่ายจับวิญญาณ หล่อเกแปดทิศ หมั่นโถวทองคำ ยันต์ผี วังยมบาล ธนูหยิน หมัด ผีร้ายทั้งห้า……

อัตราความแม่นยำ: 100%

สัตว์เทพติดตาม: ท่านอาจารย์ คุณพ่อ……

การฟื้นฟู: 999 (การฟื้นฟูหลังสิ้นกำลัง ต้องใช้เค้กสามชิ้น)

การหลบหลีก: 999

……

ซูจื่อซีกล่าวซุบซิบ “แทบจะไร้เทียมทานเลย…หากเล่นเกมส์แล้วได้ตัวละครนี้ล่ะก็ คงสังหารได้ทุกตัวเลย!”

ขอบคุณของขวัญจากธรรมชาติ ที่ส่งผีร้ายมาถึงหนึ่งร้อยกว่าตัว ทำให้ความสามารถของซู่เป่าได้รับการพัฒนา

ขอบคุณมากจริงๆ

ซูจื่อซีมองไปทางซู่เป่าอย่างตื่นเต้น แต่กลับเห็นว่ามือน้อยๆ ของเธอมันกำลังบวมแดง เพียงแค่มองยังรู้สึกเจ็บ

ซูเหอเวิ่นกุมมือของเธอเอาไว้อย่างเจ็บใจ พร้อมเอ่ยถาม “เจ็บไหม”

น้ำตาเอ่อนองดวงตาของซู่เป่า “เมื่อกี้ไม่รู้สึก แต่ตอนนี้เจ็บมากๆ เลย”

ซูเหอเวิ่นมองไปทางมู่กุยฝานทีหนึ่ง

จบเห่ รออาวุธใหม่ของคุณยาย…กระทะก้นแบนเลยดีกว่า

จี้ฉางลอยเข้ามา มองดูร้านอาหารที่โล่งเตียน และผีร้ายที่ตัวสั่นระริกอยู่ตรงมุม

“ยังเหลือผีขี้งกอีกตัวหนึ่ง” จี้ฉางโบกมือ ผีขี้งกก็ถูกจับเข้าไปในกำมือเขาทันที

“หากข้าจำไม่ผิด ผีที่กัดไหล่ซู่เป่าไปทีหนึ่ง คือแกสินะ”

ผีขี้งก “……”

T^T

เขาทำอะไรผิดกัน!

ทำไมเขาถึงส่งมาที่บ้านี่กัน อ้ากกก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน